การสอนให้เด็กคิด


1.      เรื่องที่อ่าน/จากหนังสือ/ผู้เขียน/ปีที่พิมพ์

 การสอนให้เด็กคิด

 

2. สาเหตุที่ให้ความสนใจกับเรื่องนี้/เหตุผลที่เลือกอ่านเรื่องนี้

ตอนนี้ผมกำลังสนใจเรื่องความสำคัญของการคิด ที่จะฝึกให้กับนักเรียนในโรงเรียน เลยได้ไปหาอ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องหลายเล่ม มีเล่มหนึ่งที่สะดุดตา มีรูปแบบการเขียนไม่เหมือนใคร อ่านแล้วมองเห็นภาพ ชื่อว่า โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาโรงเรียนนอกกะลา เลยสรุปเนื้อหาเบื้องต้นที่อ่านได้เล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับการคิดไว้ดังนี้

 ประเทศที่ให้ความสำคัญกับการให้การศึกษาแก่ประชากร ล้วนแต่ประสบผลสำเร็จ  ประเทศที่มั่งคั่งไม่จำเป็นต้องมีทรัพยากรล้ำค่ามากมาย  หรือมีดินแดนขนาดใหญ่ หรือมีประชากรหลายล้านคน   แต่ที่สำคัญต้องมีระบบการศึกษาที่ดี  มีประชาชนที่ฉลาด  และ มีความเรียบร้อยภายในประเทศ   

รัสเซีย  ไนจีเรีย  อาร์เจนตินา  หรือบราซิล มีทรัพยากรล้ำค่ามากมาย  กลับมุ่งแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านั้นโดยถือว่าประชาชนเป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านั้น  ผลสุดท้ายประเทศยากจนลง  รัสเซีย และ อาร์เจนตินาถึงกับล้มละลาย   ในทางตรงกันข้าม  ไต้หวัน  ลักเซมเบิร์ก  สิงคโปร์  สวิตเซอร์แลนด์  เบลเยี่ยม  เดนมาร์ก กลับมีความร่ำรวยขึ้นแม้จะเป็นประเทศเล็ก  ทั้งนี้เพราะประชาชนมีความฉลาด (Smart people) และมีความเรียบร้อยภายในประเทศ

          การศึกษา ที่ติดอยู่กับ  การอ่านออกเขียนได้   คิดเลขเป็น  และ ความรู้  ยังไม่พอ

 ทักษะกระบวนการแสวงหาความรู้ และ ทักษะการคิด   คือ  เครื่องมือที่จำเป็นที่สุดในอนาคต  

วิศวกรรมพันธุศาสตร์  นาโนเทคโนโลยี   โปรตีนศาสตร์  และ  ภาษาดิจิตอล      สิ่งเหล่านี้ กำลังเปลี่ยนโลก

          ไม่มีทางที่เราจะบรรจุความรู้ทั้งหมดไว้ในสมองเด็กได้  แต่ถ้าให้เครื่องมือที่จำเป็นให้กับแด็กซึ่งได้แก่ทักษะกระบวนการแสวงหาความรู้ และ  ทักษะการคิด เด็กจะสามารถแสวงหาความรู้ในสิ่งที่เขาต้องการหรือสิ่งที่จำเป็นต่อเขาได้

-ถ้าเปรียบการคิดเป็นเหมือนต้นไม้  ที่งอกงามเติบโตสูงใหญ่ได้ด้วยเวลา  สารอาหารที่ได้รับ  เราจะเห็นว่าไม่มีต้นไม้ที่เติบโตลอยล่องอยู่ในอากาศ  รากของต้นไม้จะยึดอยู่กับดินหรือกับบางสิ่ง  เหมือนกับการคิดที่ต้องยึดโยงอยู่กับความรู้  ความรู้ยังเป็นทางผ่านของอาหารความคิด  ดังนั้นในการสอนคิดครูต้องเกาะกุมเป้าหมายของรายวิชาได้อย่างชัดเจนครอบคลุมเพื่อไม่ให้หลุดมาตรฐานหลักสูตรซึ่งเป็นที่ยึดรากของการคิดเอาไว้

-ครูควรทำความเข้าใจพฤติกรรมสมองตามทฤษฎีของBloom ได้แก่  จำ  และ คิด  ( เข้าใจ  วิเคราะห์  สังเคราะห์  ประเมินค่า  นำไปใช้  และคิดสร้างสรรค์)  และ ควรทำความเข้าใจทฤษฎีของ  Gardner  เกี่ยวกับ  Multiple Intelligence

-อยากให้เด็กคิดต้องให้เครื่องมือคิดด้วย   ทั้งเครื่องมือสำหรับคิดเดี่ยว  เช่น  หมวกหกใบ,  คำถาม,  Mind mapping   และ  เครื่องมือสำหรับคิดเป็นกลุ่ม เช่น  Jigsaw, Round table, Placemat ฯลฯ   

-ครูสร้างบรรยากาศการคิด   โดยธรรมชาติในสมองมนุษย์จะมีสารเคมี 2  กลุ่ม คือ กลุ่มดี Endorphin และ กลุ่มไม่ดี Cortisol ซึ่งเป็นสารที่หลั่งโดยสัญชาตญาณ แต่มีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญของใยประสาทและยับยั้งการคิด    ยับยั้งการส่งผ่านข้อมูล   ปิดการเรียนรู้    ยับยั้งเส้นทางความจำ   ภูมิต้านทานต่ำ   สมาธิสั้น ครูควรพยายามไม่ให้สาร cortisol ในสมองของเด็กหลั่งโดยการสร้างบรรยากาศของความเท่าเทียม  ไม่ถูกมองว่าผลที่ออกมาคือถูกกับผิดเท่านั้น  ให้การเสริมแรงที่เหมาะสม  ให้เด็กทุกคนรู้สึกได้ว่าครูรัก และ ปรารถนาดีต่อเขา

-สร้างความท้าทายที่เหมาะสม  อาจจะกระตุ้นด้วยคำถาม  (Key Question)  แบบต่าง ๆ  เช่น  The what if,  The reverse,  The BAR

-สร้างเวทีให้เด็กได้แสดงความคิด (Show and share)

3. การนำไปใช้ (เพื่อพัฒนาตนเอง/พัฒนาองค์กร)

            เนื้อหาที่ได้อ่านพอที่ได้ความคิดรวบยอดและความสำคัญของการพัฒนาทักษะการคิด ทักษะการแสวงหาความรู้อันจะนำไปสู่การพัฒนาครูและนักเรียนมีทักษะทั้งสองด้วยวิธีการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องจนได้ชื่อว่าองค์กรนักคิดหรือโรงเรียนแห่งการเรียนรู้

 

ลงชื่อ ปิยสนธิ์  เชื้อทอง ผู้บันทึก

 

หมายเลขบันทึก: 196064เขียนเมื่อ 23 กรกฎาคม 2008 19:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2012 23:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีค่ะ..อยากทราบชื่อผู้แต่งหนังสือนะค่ะ.......ขอบคุณค่ะ

การฝึกทักษะการคิดเป็นเรื่องทีจำเป็นเพราะสมองมนุษย์เป็นอวัยวะที่มีพัฒนาการอย่างไม่มีวันสิ้นสุด คุณหนูดี ในอัจฉริยะสร้างได้ บอกว่า "สมองของอัจฉริยะทุกคนในโลก เช่น ไอน์สไตส์ นิวตัน ล้วนมีเซลล์สมองเท่ากันกับเรา" แต่ทำไมเค้าจึงเป็นอัจฉริยะ? โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่า "ตรงกระบวนการคิดนี่แหล่ะทำให้มนุษย์แตกต่างกัน และทำให้ ไอน์สไตส์ และนิวตัน ค้นพบในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น" ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ระบบการศึกษาจะต้องให้ความสำคัญกับกระบวนการคิดของเด็กซึ่งเป็นอนาคตของชาติ ซึ่งต่อไปเราต้องฝากชีวิตไว้กับพวกเค้า

เห็นด้วยครับที่ให้ความสำคัญกับกระบวนการแสวงหาความรู้และทักษะการคิด เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาการเรียนการสอนให้เด็กคิดเป็น และเป็นประชาชนที่ฉลาดของประเทศในตอนาคต

ผมในฐานะที่คลุกคลีกับการศึกษาภาคประชาชน(ผู้ใหญ่) ประสบปัญหาในการจัดการศึกษาให้ประชาชนคิดเป็นอย่างมีกระบวนการทั้งนี้ เนื่องจากว่าประชาชนขาดทักษะในการแสวงหาความรู้ทั้งการอ่าน การเขียน ภาษาต่างประเทศและการใช้เทคโนโลยี และที่สำคัญขาดวัฒนธรรมในการเรียนรู้อย่างมาก คือขาดเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง  ดังนั้น หากได้ปลูกฝังแต่ยังเด็ก ในวัยผู้ใหญ่จะได้ไม่ต้องมาฝึกฝนทักษะกันย้อนหลังกันอย่างปัจจุบันนี้สิ้นเปลืองและบรรลุผลยากครับ....มานะ  สามัคคี

เห็นด้วยกับหลายท่าน ที่จะต้องพัฒนาทักษะการแสวงหาความรู้และทักษะการคิดให้กับนักเรียน ซึ่งจำเป็นที่ต้องเริ่มต้นที่คุณครูก่อน ถ้าครูมีทักษะเหล่านี้แล้ว เชื่อมั่นได้ว่า นักเรียนก็จะมีทักษะเหล่านี้ตามไปด้วย ขอเป็นกำลังใจให้ท่านปิยสนธิ์ ที่จะนำวิธีการที่ได้จากการศึกษาไปปรับใช้ให้เกิดกับครูและนักเรียนในโรงเรียนของท่านนะครับ

ผู้แต่งหนังสือเล่มนี้ ชื่อว่า วิเชียร ไชยบัง ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงเรียน

สวัสดีครับ

      เรื่องของ "การคิด" กับ "สังคมไทย"

      ผมว่าอุปสรรคส่วนหนึ่ง   มาจากวัฒนธรรมไทยที่สั่งสมกันมา

      โดยเฉพาะวัฒนธรรม "อำนาจนิยม"

                              ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท