บทนำ
ผมมีโอกาสได้เข้าร่วมงาน การเปิดโลกกิจกรรมของนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มาหลายครั้ง เมื่อปีก่อน ๆ ในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมรักบี้ฟุตบอล แต่ปีนี้ เข้ามาดูแลในฐานะรักษาการผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ที่มีบทบาทรับผิดชอบดูแลกิจกรรมกีฬาและสวัสดิภาพนิสิต โดยความจริงแล้ว การเรียนของนิสิตในมหาวิทยาลัยเกือบทุกแห่ง นอกจากการเรียนรู้ในสรรพวิชาที่นิสิตสนใจและใช้เป็นวิชาความรู้เพื่อหาเลี้ยงชีพในอนาคตแล้ว กิจกรรมเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่นิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ควรที่จะต้องเรียนรู้ปฏิบัติและเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาศักยภาพและคุณภาพของนิสิต เรียนรู้การอยู่ร่วมกับคนอื่น การสร้างสรรค์และเสียสละ การแบ่งปัน และที่สำคัญ คือ จิตอาสา ที่สังคมไทยในยุคปัจจุบัน ถวิลหาและต้องการให้มีมากขึ้นกว่าเท่าที่เป็นอยู่ในสังคม การทำกิจกรรมจึงเปรียบเสมือน การเปิดตาเปิดใจที่จะรับรุ้สัมผัสกับภารกิจอีกด้านที่ นิสิตจะทำหรือไม่ทำก็คงได้ แต่ถ้านิสิตไม่มีโอกาสได้สัมผัสเรียนรู้โลกกิจกรรมก็เท่ากับการสูญเสียโอกาสอันดีที่นิสิตได้เข้าเรียนรู้โลกและชีวิตในสังคมที่เรียกว่า มหาวิทยาลัย หรือ โลกของปัญญาชน นั้นเอง
นิสิตร่วมงานอย่างมากมายในวันเปิดโลกกิจกรรม มมส 51
หลากหลายชมรม หลายหลากกิจกรรรม น้อมนำพัฒนา
ปีนี้องค์การนิสิต กลุ่มชาวดิน ทำหน้าที่บริหารองค์กร ปีที่แล้ว เป็นกลุ่มนิสิตพลังสังคม ซึ่งผลัดเปลี่ยนวาระตามกติกาในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งถือเป็นรูปแบบที่งดงาม ไม่มีซื้อเสียง ไม่มีแต่งตั้ง ลากตั้ง ไม่มีสภาสรรหา มีแต่มาด้วยระบบเลือกตั้งที่ใสสะอาด การเมืองนิสิตในมหาวิทยาลัยแห่งนี้จึงงดงามและแฝงด้วยสปิริต ของการทำงานด้วยจิตอาสาอย่างเต็มกำลัง งานปีนี้กับปีที่แล้วจึงไม่เปลี่ยนแปลงและแตกต่างกันมากนัก แต่จาการประเมินด้วยสายตาของผม วันที่จัดคือวันพุธสุดท้ายก่อน วันอาสาหบูชา วัฒนธรรมการศึกษาของนิสิต มมส ส่วนใหญ่นิสิตที่มาศึกษา ณ ที่นี่ เป็นคนในท้องถิ่นอีสานเกือบร้อยละ 80 ดังนั้น พอถึงวันศุกร์หรือวันหยุดก็ต้องกลับบ้านไปเอาสัมภาระและของใช้ของสอย ข้าวปลาอาหาร พอที่จะนำมาเป็นส่วนที่ดูแลตัวเองที่ไม่ต้องซื้อหาจากร้านสะดวกซื้อ เสาร์อาทิตย์ หรือสิ้นเดือนจึงค่อยข้างเงียบสำหรับมหาสารคาม เช่นกัน หยุดเทศกาลเข้าพรรษา ถือเป็นหยุดยาว 4 วันเต็ม ที่นิสิตบางคนเตรียมตัวตั้งแต่วันอังคารแล้ว ผมนึกอยู่ในใจว่า เปิดโลกกิจกรรมวันนี้ คนคงน้อยเนื่องจากเตรียมจะกลับบ้านกัน แต่พองานเริ่มประมาณสี่โมงเย็นปรากฎว่า นิสิตแน่นขนัดอาคารพลศึกษา ซึ่งเป็นอาคารหลังใหญ่ที่ใช้จัดกิจกรรมทุกกิจกรรมของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถือเป็นอาคารอเนกประสงค์จริง ๆ มีกลุ่มนิสิต ชมรมต่าง ๆ มาออกบูธ แนะนำตัวเองและรับสมัครนิสิตเข้าร่วมกิจกรรมนั้น ๆ ซึ่งหากพิจารณาแล้ว ก็ ชมรมด้านบำเพ็ญประโยชน์ ชมรมด้านทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม ชมรมด้านส่งเสริมวิชาการ ชมรมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และชมรมด้านกีฬา เยอะ ๆ จริง ๆ หลากหลายลีลาหลากหลายรูปแบบ ต่างจาก สมัยที่ผมเรียน ที่ชมรมหลัก ๆ ก็จะมี ชมรมอาสาพัฒนา ชมรมบำเพ็ญประโยชน์ ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ชมรมวรรณศิลป์ ชมรมภาค เช่น ชมรมอีสาน ชมรมชาวใต้ แต่ที่ มมส มีชมรมมากจริง ๆ และชมรมถูกจัดตั้งขึ้นด้วยเนื้อหาและวัตถุประสงค์ ตามความนึกคิดและการอยากทำการอยากสร้างสรรค์ในกิจกรรมที่ตนเองต้องการทำในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เช่น ชมรมสร้างภาพ ที่แรกผมก็งงๆ เอ๊ะ มีชื่อชมรมแบบนี้ด้วย ทำไมต้องสร้างภาพ หว่า ? แต่พอไปดูเนื้อหากิจกรรมของเขา โอ้โฮ ไม่ธรรมดา เขาเป็นชมรมที่สร้างสรรค์งานด้วยการบันทึกภาพ อาจคล้ายคลึงกับชมรมถ่ายภาพ นั่นเอง แต่ชื่อของเขา โดน จริง ๆ เรียกความสนใจได้ ดูดี ดังนั้นวันเปิดโลกกิจกรรมนิสิตโดยเฉพาะน้อง ปี 1 ก็ต้องเตรียมหากิจกรรมทำ เตรียมหาชมรมสังกัด เพราะปีนี้ ม มหาสารคาม เริ่มใช้ใบระเบียนบันทึกการทำกิจกรรม (ทรานสคริปส์กิจกรรม) เพื่อให้นิสิตที่จะสำเร็จการศึกษานำไปเป็นส่วนหนึ่งสำหรับการสำเร็จการศึกษาด้วย นับว่าเป็นสิ่งที่ดีและงดงามสำหรับกระบวนการพัฒนานิสิตของกองกิจการนิสิต ในยุคสมัย ท่านรองทวีศิลป์ สืบวัฒนะ และท่าน ผอ.เกื้อกูล ดวงจันทร์ทิพย์ น่ายกย่องอย่างยิ่งทีเดียว
ชมรมกีฬา เปิดบูธ เปิดตัว สร้างสรรค์นักกิจกรรมรุ่นใหม่
เคยมีคนบอกว่า นิสิตเล่นกีฬา ไม่ค่อยสนใจกิจกรรมอย่างอื่น สนใจแต่การเล่นกีฬา และทำกิจกรรมอื่นไม่เป็น ใช้แต่แรง ไม่ใช้สมอง ต้องกินปลาเยอะ ๆ จะได้ฉลาดขึ้น คำพูดแบบนี้ จริง ๆแล้วก็ถูกนะ แต่ไม่ถูกทั้งหมด ถูกเพียงนิดหนึ่ง ที่บอกว่า ถูกเพียงนิดหนึ่งก็เพราะ คนพูด อาจไม่ใช่นักกีฬา หรือ อาจใช่นักกีฬาแต่ไม่ซึมลึกในเรื่องกีฬา หรือซึมลึกอยู่ แต่มีมายาคติกับนักกีฬา แต่ความจริงที่ถูกมากขึ้นนะ กิจกรรมทุกอย่างในมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งที่ดีหมด นิสิตเลือกกิจกรรมตามความชอบความรักตัดสินใจด้วยตัวตนของตัวเองก่อน กิจกรรมกีฬาก็เหมือนกัน คนชอบกีฬาก็จะเลือกด้วยตัวตนของตัวเองด้วยความชอบ อยากเล่น อยากทำ ยังไม่คิดถึงว่า จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น เป็นด้านหลักก่อนอย่างแน่นอน แต่คึดถึงตนเองก่อน แล้วค่อยพัฒนาไปยังผู้อื่น เมื่อได้ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น นักกิจกรรมกีฬา ของ มมส ส่วนใหญ่ ก็เป็นโควตา กีฬา และก็ทำกิจกรรมกีฬาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งผลักดันให้เกิดการพัฒนากีฬา
ชมรมเชียร์ โพสท่าเพื่อเรียกความสนใจนิสิตเข้าสมัครเป็นสมาชิกของชมรม
ประเภทนั้น ๆ ในมหาวิทยาลัย เปรียบง่าย ๆ ก็คือ สร้างบ้านให้ตนเองอยู่ก่อน ครั้นพอบ้านดูแข็งแรงจึงเชื้อเชิญผู้อื่นมาร่วมชายคา การมีกิจกรรมกีฬา โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ย่อมนำพาให้นิสิต เรียน ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ และเล่นกีฬา ซึ่งคงดีกว่า ใช้เวลาว่างที่มีคุณค่า ไม่ทำสิ่งที่ไร้สาระ ซึ่ง หากกีฬาไม่มีคุณค่า ไม่มีประโยชน์ มหาวิทยาลัยแห่งนี้คงไม่ดิ้นร้นให้ตนเอง เป็น มหาวิทยาลัยต้นแบบ แรก ๆ ในการเป็นมหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพ อย่างแน่นอน โดยบุคลากรและนิสิตก็เป็นผู้พัฒนาให้มีสุขภาพแข็งแรงมีจิตใจที่แจ่มใส กิจกรรมกีฬาจึงเป็นกิจกรรมหลักในการสร้างเสริมและพัฒนาเรื่องราวเหล่านี้ ดังนั้นจึงไม่ควรรังเกียจกิจกรรมกีฬาและคนเล่นกีฬา ซึ่งด้วยตัวตนของกีฬาเอง ผมกล้ายืนยันจากการปฏิบัตภารกิจผมเองในการเป็น ผู้ฝึกสอน ครูสอน อาสาสมัคร ฝึกเยาวชนให้เล่นรักบี้ มาตั้งแต่ 2539 จนถึงปัจจุบัน ทั้งในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา กีฬา สามารถสร้างคนดีให้แก่สังคม
ชมรมเชียร์ เชิญค่ะ เรามีกิจกรรมตลอดทั้งปีนะน้อง
ได้ และสามารถทำให้คนในสังคมเข้าใจกติกา เคารพกติกา ยอมรับกติกา สามารถตัดสินปัญหาด้วยกระบวนการตัดสินใจอย่างมีเหตุมีผล แก้ไขสถานการณ์ และรู้จักให้อภัย รู้ที่จะชนะ รู้ที่จะแพ้ ฝึกแล้วฝึกอีก จนเป็นคนย่อมรับและฟังคน กีฬาทุกชนิดให้กำลังความเข้มแข็งและวิธีการบทเรียนบททดสอบในการดำเนินชีวิต นี่คือสิ่งที่ผมเห็นสัมผัสได้และรับเอาปลูกฝัง เยาวชนอย่างต่อเนื่อง เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และโดยสัตย์จริงก็ไม่ได้จบทางพลศึกษาเลย แต่รับรู้ความรู้สึกการเป็นคนกีฬาได้อย่างเต็มภาคภูมิ เปิดโลกกิจกรรมในปีนี้ ชมรมกีฬาของนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคามจึงคึกคักพร้อม ๆกับเพื่อน ๆ ชมรมด้านอื่น ๆ ความงดงามของการเปิดโลกกิจกรรมก็คือ การเปิดโอกาส
เต้นกระจายเต้นอย่างมีรูปแบบ ต้องชมรมลีลาศ มาให้เราหัดเต้นให้นะค่ะ
เรายินดีต้อนรับทุกคน ศิลปะการป้องกันตัวของชาวเกาหลี เทควันโด มาเร็ว ๆ
ให้กลุ่มนิสิต ชมรมต่าง ๆ ได้นำเสนอตนเองแก่เพื่อน ๆ ชักชวนกันเข้ามาทำกิจกรรม ชักชวนกันทำในสิ่งที่มีคุณค่าและสาระ ดังนั้น ภายในอาคารพลศึกษา จึงคราคร่ำด้วยผู้คน ทั้งเสียวโฆษณา ประชาสัมพันธ์ กิจกรรมสาธิตของแต่ละชมรม การนำเสนอทั้งภาพ ทั้งเสียง ทั้งสื่อทุกชนิด ถือเป็น นวัตกรรม การนำเสนอที่น่ายกย่อง ผมคิดว่า เพียงเขาได้คิด สิ่งที่มีคุณค่าและงอกงามก็เกิดขึ้นในรั้วสีเหลืองเทาแห่งนี้ แล้ว ขอชื่นชมด้วยน้ำใสใจจริงอย่างเต็มเปี่ยม ขอบคุณองค์การนิสิต พี่ ๆ นักกิจกรรมของกองกิจที่เป็นพี่เลี้ยงดูแลให้คำแนะนำน้อง ๆ ได้อย่างดี
ปีนี้ชมรมกีฬา ออกบูธ อย่างหลากหลาย ผมเดินแวะเยี่ยมเกือบทุกชมรมแต่ละชมรมก็นำเสนอรูปแบบ ประวัติและผลงานของชมรมในปีที่ผ่านมา ว่าดำเนินผลงานก้าวหน้าและเป็นไปอย่างไร ที่มองเห็นก็มี ชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพ ชมรมยิงปืน ชมรมลีลาศ ชมรมบาสเกตบอล ชมรมเทนนิส ชมรมคอร์สเวิดส์ ชมรมซอฟท์บอล ชมรมปิงปอง ชมรมวอลเล่ย์บอล ชมรมเชียร์ และชมรมรักบี้ฟุตบอล เป็นต้น ซึ่งตอนนี้ผมเห็นศักยภาพของน้อง ๆนิสิตแต่ละชมรมอย่าเอกอุเลยทีเดียว เมื่อปีที่แล้วและปีก่อนนู้น ผมมีโอกาสได้ร่วมสร้างกิจกรรมกับนิสิต ชมรมรักบี้ฟุตบอล ทำค่ายกีฬาเพื่อสุขภาพ สองวันให้แก่ เด็ก ๆ ปีนู้น ทำกับเด็กโรงเรียนสังกัดเทศบาลเมืองมหาสารคามและโรงเรียนในเขตเทศบาล โดยเล็งเห็นว่า น่าจะเป็นงานค่ายแบบไป-กลับ ที่ง่าย และสามารถทำได้อย่างดี เพราะใช้พื้นที่ของเราทั้งหมด จริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่สองวันหรอก เป็นอาทิตย์สองอาทิตย์เลยก็ว่าได้ เพราะ นิสิตอาสาพัฒนากีฬารักบี้ เข้าลงแนะนำกีฬารักบี้ในโรงเรียนก่อน โดยแบ่งกลุ่มไปทำกิจกรรม เสร็จแล้วจึงทำค่ายรวมอีกสองวันที่มหาวิทยาลัย เด็ก ๆที่เข้าร่วมกิจกรรมได้สัมผัสกีฬาใหม่ที่เขาไม่เคยสัมผัส และพอรู้พื้นฐานและร่วมฝึกก็สนุกในการร่วมกิจกรรม สุดท้ายก็กลายเป็นผู้รอบรู้เกี่ยวกับกีฬารักบี้เพิ่มเติมและมี
คอร์สเวิดส์ ฝึกสมองประลองปัญญา ได้ภาษาได้ศัพท์มากมาย
ชมรมเทนนิสสู้ตายค่ะ
เราขอต้อนรับผู้ที่ชอบเสียงปืน และการผจญภัย
เชิญพบกับพวกเรา ชาวชมรมยิงปืน ทุกคน
ทัศนคติที่ดีต่อกีฬา ปีกลายนิสิตกล้าหาญที่จะออกไปทำ ค่ายที่นอกสถานที่และต่างจังหวัดโดยใช้โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ เป็นต้นน้ำ พาเด็ก ๆโรงเรียนต่าง ๆ ในตำบลโพธิสัย และตำบลใกล้เคียง มาฝึกและเรียนรู้กีฬารักบี้ฟุตบอล ผลสรุปในกิจกรรมค่ายสองนี้ เห็นด้วยกันว่า ระยะเวลา น้อยไป สองวัน อาจได้ความรู้ความเข้าใจ แต่ทักษะ ยังต้องเรียนรู้อีก และนอกจากนั้น การได้ร่วมออกค่ายกับชมรมกีฬาอื่น ๆ หรือชมรมกิจกรรมอื่น ๆ น่าจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาเยาวชนในท้องถิ่นได้ ในปีนี้ คุณเก่ง สมชาย ศุภกิจชัยศิลป์ ประธานชมรมรักบี้ฟุตบอล จึงวางแผนที่จะปรึกษาหารือ กับ ชมรมลีลาศ ชมรมยิงปืน ชมรมซอฟท์บอล ชมรสคอร์สเวิดส์ ชมรมเทควันโด ไปออกค่ายร่วมกันในระยะเวลาจำกัด เช่น ช่วงวันเด็ก หรือ ช่วงเสาร์อาทิตย์ เพื่อพัฒนากิจกรรมกีฬาทักษะใหม่ ๆให้เยาวชนได้มีโอกาสร่วมเล่นร่วมทำร่วมฝึก อันจะเป็นการเสริมสร้างและพัฒนาบุคลิกภาพได้อย่างดี
เห็นอย่างนี้แล้วสุดปลื้ม วันนี้คนกีฬายุคใหม่ ไม่ได้เล่นกีฬาเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ตนเองเพียงอย่างเดียว คนกีฬายุคใหม่ เล่นกีฬาเป็น และทำกิจกรรมกีฬาเพื่อส่วนรวมได้ด้วย ผมใฝ่ฝันอยากเห็น ชมรมกีฬาของนิสิตในเร็ววันนี้ นอกจากจะมีนักกีฬาเพื่อเป็นตัวแทนแข่งขันรับใช้มหาวิทยาลัยแล้ว ยังมีผู้นำกิจกรรมกีฬาพร้อมที่จะออกไปทำกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างสุขภาพให้แก่เยาวชนและชุมชนได้ เห็นสมาชิกของชมรมสามารถออกไปเรียนรู้โลกเรียนรู้ชีวิต โดยใช้กิจกรรมกีฬาเป็นสื่อสร้างสรรค์สังคม เช่น กิจกรรมอื่น ๆ ความฝันของผมใกล้เป็นความจริงแล้ว โดยเฉพาะเมื่อวันเปิดโลกกิจกรรม ของ นิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ชมรมกีฬาทำได้ไม่น้อยหน้าใครเลย ต่อไปนี้คงไม่มีคำพูดให้นักกีฬา ว่า นักกีฬาใช้แต่กำลังเป็น ใช้สมองไม่เป็น เพราะวันเปิดโลกกิจกรรมคงพิสูจน์ ศักยภาพ ของชมรมกีฬาได้เป็นอย่างดี ว่า สามารถทำได้เช่นเดียวกับ นักกิจกรรมอื่น ๆ ขอเป็นกำลังใจ สู้ตายค่ะ
เขินจัง
ท่านอาจารย์ขจิต
พึ่งโพส กิจกรรมตั้งหลายวันแล้ว
อยากจะให้กำลังใจ
ลูกศิษย์นักกีฬาทั้งหลาย ตอนนี้เริ่มเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว
สำคัญคือ
จิตอาสา อย่างที่ท่านอาจารย์และยาท่านครูบาทำอยู่
สำคัญที่สุด
ต้องไม่อวดโอ้
และยกตนข่มท่าน
และต้องสามัคคี วิจารณ์ สามัคคี
เพื่อ สังคมที่น่าอยู่ครับ
ขอบคุณมากครับอาจารย์
สวัสดีค่ะอาจารย์
สวัสดีครับท่านอาจารย์
คนที่เป็นนักกีฬาตั้งแต่วันปฐมนิเทศเสร็จเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมดีมากขึ้น
เริ่มร่วมกิจกรรม รับฟังและกล้าที่จะเรียนรู้เรื่องราวต่างๆมากครับท่านอาจารย์
ดีใจมากๆเลยครับที่ได้เห็นแบบนี้