เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๑ อ.แหววก็ได้อีเมลล์ขอคุยด้วยอีกแล้ว เป็นอีเมลล์ผ่าน Go2Know ซึ่งบอกมาว่า “ร.อ.กมล สินธุณรงค์ ร.น.อีเมลต้องการคำแนะนำด้านกฎหมายเกี่ยวกับการห้ามผลักดันผู้ลี้ภัย”
โดยมีรายละเอียดว่า “ก่อนอื่นกระผมใคร่ขอแนะนำตนเองก่อนครับกระผมเป็นนิสิตจุฬาฯ ป.โท กำลังศึกษาอยู่ในสาขา IRและกำลังทำสารนิพนธ์เกี่ยวปัญหาผลกระทบชาวม้งลาวที่อพยพในไทยต่อความสัมพันธ์ในด้านความมั้นคงไทย-ลาว ดังนั้น กระผมจึงใคร่อยากจะขอคำแนะนำจากอาจารย์ ในเรื่องเกี่ยวกับ กฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการห้ามผลักดันผู้ลี้ภัย และอยากทราบข้อคิดเห็นของอาจารย์ต่อปัญหาชาวม้งลาวที่อพยพเข้ามาในไทย ด้วยครับ และเนื่องด้วยกระผมทำงานที่พระราชวังเดิม (บก.ทร.)ซึ่งอยู่ใกล้กับ มธ. กระผมใคร่จะขออนุญาตที่จะเข้าไปพบอาจารย์เพื่อขอคำแนะนำด้วยตัวเอง ไม่ทราบว่าอาจารย์จะสะดวกหรือไม่ครับ”
ช่วงนี้ งานเยอะค่ะ ด่วนไหมคะ ความเป็นไปได้ที่จะนัดคุยกันเป็นอย่างไร ?
ทางแรกที่เป็นไปได้ ก็คือ การนัดคุยกันในเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการพัฒนาความร่วมมือของนักสังคมศาสตร์, นักนโยบาย และองค์กรพัฒนาเอกชน เพื่อการพัฒนานโยบายสังคมไทย ในบริบทภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ซึ่งจัดโดย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ คณะกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ สาขาสังคมวิทยา และสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจัด ณ ห้องประชุมจุมพฏ-พันทิพย์ ตึกประชาธิปก-รำไพพรรณี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ ๒๑ – ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๑ ซึ่ง อ.แหววต้องเข้าเวทีในช่วง ๑๓.๐๐ – ๑๕.๐๐ น. ของวันที่ ๒๑ ดังนั้น หลังจากนั้น ก็คงมีเวลาคุยกันได้ มาเจอในงานนี้ไหมคะ
ทางที่สอง ก็อาจจะเป็นวันอังคารที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๑ เวลา ๑๖.๐๐ น.ค่ะ ซึ่ง อ.แหววจะสอนที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิทยาเขตท่าพระจันทร์ ในช่วงเวลา ๑๔.๐๐ – ๑๕.๓๐ น. ก็คงคุยกันหลังจากนั้นได้ค่ะ
ตอนนี้ มีคนสนใจศึกษาเรื่องคนชายขอบมากทีเดียว โดยเฉพาะคนชายขอบที่เป็นคนต่างด้าว อยากตั้งวงเสวนาเล็กๆ เกี่ยวกับม้งลาวที่หนีภัยความตายอยู่นี้เหมือนกัน น่าจะใช้โอกาสที่คุณกมลนัดนี้ดีไหมหนอ ? มีท่านใดสนใจมาเสวนากันไหมคะ
ถ้าคุยกับคุณกมลแล้ว จะมาเล่าต่อค่ะ
หือ หือ รีบๆ มาเล่านะคะ เพราะอยากฟังมากเหมือนกัน
จริงๆ ที่พะเยาก็มีม้งลาว ที่มาจากสระบุรี อยู่บ้างเหมือนกันค่ะ
คงจะต้องได้แลกเปลี่ยนกัน
คุยแล้วค่ะ
เขาถามแค่ ๒ เรื่อง กล่าวคือ
ในเรื่องแรก ถามว่า ประเทศไทยจะต้องปฏิบัติตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่ห้ามการผลักดันมนุษย์ไปสู่ความตายหรือไม่ หากพบว่า มนุษย์นั้นเป็นภาระต่อสังคมไทย หรือเป็นภัยต่อสังคมไทย
ในเรื่องที่สอง ถ้าผลักดันไม่ได้ จะต้องทำอย่างไร ?
แล้วมาเล่าต่อในบันทึก รออ่านว่า อ.แหววตอบว่าอย่างไร