วันปิดประชุมเชียร์
พุธที่ผ่านมา แม้จะเป็นวันที่โกลาหลวันหนึ่งก็ตาม แต่เป็นวันที่แฝงไปด้วยพลังดี-ดีมากมาย
ช่วงเช้า - - ประชุม เป็นประชุมแรกของปีการศึกษา ตั้งใจเริ่มใหม่สำหรับปีการศึกษานี้ สิ่งที่ผ่านมาแล้ว แก้ไขไม่ได้ แต่จะเป็นบทเรียนไม่ให้พลาดซ้ำ ย้ำกับตัวเองถึงทฤษฎีที่ ดร. John Ng บอกไว้ว่า 5:1 หมายถึง ให้คิด ให้พิจารณาถึงสิ่งที่ดีๆ 5 อย่าง แล้วมองสิ่งที่ไม่ดีเพียงอย่างเดียว เมื่อเราเห็นแต่สิ่งที่ดีๆ ชีวิตก็จะไม่หม่นหมอง
ช่วงบ่าย - - อบรม ได้ประโยคเด็ดๆ จากการประชุมนี้หลายประโยคเหมือนกัน แต่ที่ชอบสุดก็ต้องประโยคนี้เลย “ไม่มีใครดีหมด ไม่มีใครหมดดี” (ขอบคุณนะคะ อาจารย์สุชาดา สุขสวัสดิ์ ณ อยุธยา) จริงค่ะ เคยรู้ แต่เหมือนรู้แล้วยังไม่ค่อยเข้าใจ มาได้ยินอีกครั้ง ก็...เหมือนจะเข้าใจดีขึ้นนะ แต่คงต้องดูการกระทำของตัวเองต่ออีกระยะหนึ่งว่าเข้าใจจริงๆ หรือเข้าใจหลอกๆ
ช่วงเย็น - ค่ำ - - ค่ะ...เวลาทำงานยังไม่จบ เย็นย่ำค่ำสนธยาของพุธนี้เป็นวันปิดประชุมเชียร์ อาจารย์ฝ่ายกิจกรรมบอกแกมบังคับว่า พี่ไปกล่าวเปิดแล้ว ก็ต้องกล่าวปิดด้วย...ได้อยู่แล้วน้องเอ๋ย...
ถามนักศึกษาปี 1 ว่า ตอนที่เปิดประชุมเชียร์พอจำได้มั้ยว่าป้าต๊อกพูดอะไรไป มีนักศึกษาจำได้ด้วยนะ..ดีจัง น้องเขาบอกว่าอาจารย์พูดถึง ความเท่าเทียมกัน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์...แม่นแล้ว นักศึกษาที่รัก เพราะป้าต๊อกกางรัฐธรรมนูญขึ้นไปพูด เพื่อจะบอกทั้งนักศึกษาปี 1 และรุ่นพี่ว่า เราทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน เพราะฉะนั้น จะเล่น จะทำอะไรอย่าล้ำเส้นความสนุกไปมากนัก ณ ขณะที่เราเป็นวัยรุ่น เรามีความกล้าบ้าบิ่น แต่ต้องทำในระดับหนึ่ง และต้องรู้จักความพอดีด้วย ซึ่งเป็นโชคดีมากๆ ที่ไม่มีข่าวร้ายๆ จากการประชุมเชียร์
ให้ข้อคิดกับนักศึกษาปี 1 ถึงเรื่องความขัดแย้ง ...แฮ่ม...รู้สึกว่าเป็นประเด็นที่อยู่ในกระแสเหลือเกิน เพราะคนเราไม่เหมือนกัน เราจึงขัดแย้ง คนเราทุกคนไม่มีใครเหมือนใครได้ เพราะงั้นความขัดแย้งจึงเป็นเรื่องธรรมดา แต่อยู่ที่เราจะจัดการกับความขัดแย้งนั้นต่างหากว่าจะรับมืออย่างไร อย่างเชิงบวก หรือเชิงลบ จัดการแล้วเราเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ เลือกเอาเองเน้อพี่น้อง
เสร็จจากการพูดกึ่งทางการ ก็เป็นการรับน้ำใจจากพี่ๆ เพราะพี่ๆ ปี 2 - 4 รวมถึงพี่ชมรมบางชมรม เอาอาหาร น้ำดื่มมาออกซุ้ม ให้น้องๆ เลือกหม่ำกันตามใจชอบ มีเสียงเพลงคลอบ้าง (..อ้อ..งานนี้จัดที่ชั้นล่างของอาคาร ไม่เลอะเทอะเปรอะเปื้อนในห้องแต่อย่างใด) ให้บางคนได้ยักสะโพก ได้ฮัมเพลง ป้าต๊อกก็มั่วนิ่มเดินกินกับเขาด้วย..ฮ่าๆ
อยากบอกว่า บรรยากาศดีมาก เป็นครั้งแรกที่จัดแบบนี้ ต้องให้เครดิตกับอาจารย์ผู้รับผิดชอบการจัดกิจกรรมหน่อย - -อาจารย์ธนัญชัย ทิพยมณฑล (อาจารย์ปั๊ม) ค่ะ ป้าต๊อกรู้สึกว่า เด็กๆ สนุก แววตามีความสุข เราไม่มีการกดดัน ไม่มีแอลกอฮอล์ เราก็สนุกกันได้ และจัดในบริเวณมหาวิทยาลัยซึ่งนักศึกษารู้สึกว่าเป็นอาณาจักรของเขา เขาเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่นี้ ป้าต๊อกรับสัมผัสได้แบบนั้นนะ
แล้วอาจารย์ป้าๆ คนหนึ่งก็มีความสุข ขอบคุณเด็กๆ ขอบคุณอาจารย์ปั๊มค่ะ J
ดีใจนะค่ะ ที่ป้าต๊อกชอบนานๆๆ จะเห็นป้ายิ้มสักที นิติเราให้ทำดีก็ทำได้ดีไม่แพ้ใคร แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ค่อยทำกัน แปลกนะค่ะ มันน่าจะเป็นข้อยกเว้นซ้อนข้อยกเว้นหรือเปล่า กำลังหาคำตอบอยู่ค่ะ เอาใจช่วยป้าต๊อกนะค่ะ
หละอ่อนหละปูน+
...นานๆๆ จะเห็นป้ายิ้มสักที...
แย่แล้ว ป้าเป็นคนยิ้มยากขนาดนั้นเชียวหรือนี่ เอ๊ะ..ถ้ารู้ว่าป้ายิ้มยาก ก็ต้องเป็นคนแถวๆ นี้ที่ป้ารู้จัก
ใครนะ..บอกมาบะเดี๋ยวนี้เลย
^_^
จารย์ขา หนูมาแว้ววววว แอดหนูด้วยน้า ^^
มาใหม่ เมื่อกี้ลืม login ( -_-!)
ป้าค่ะ วันนี้มีโอกาศเข้าเวป www.love4home.com (บ้านแห่งรัก) มีเรื่องสนุก มีข้อคิ
เศรษฐีคนหนึ่งชอบใจลูกสาวชาวนายากไร้ผู้หนึ่ง เขาเชิญชาวนากับลูกสาวไปที่สวนในคฤหาสน์ของเขา เป็นสวนกรวดกว้างใหญ่ที่มีแต่กรวดสีดำกับสีขาว เศรษฐีบอกชาวนาว่า "ท่านเป็นหนี้สินข้าจำนวนหนึ่ง แต่หากท่านยกลูกสาวให้ข้า จะยกเลิกหนี้สินทั้งหมดให้" ชาวนาไม่ตกลง |
|
เศรษฐีบอกว่า "ถ้าเช่นนั้นเรามาพนันกันดีไหม ข้าจะหยิบกรวดสองก้อนขึ้นมาจากสวนกรวดใส่ในถุงผ้านี้ ก้อนหนึ่งสีดำ ก้อนหนึ่งสีขาว ชาวนาตกลง เศรษฐีหยิบกรวดสองก้อนใส่ในถุงผ้า หญิงสาวเหลือบไปเห็นว่ากรวดทั้งสองก้อนนั้นเป็นสีดำ เธอจะทำอย่างไร? หากเธอไม่เปิดโปงความจริง ก็ต้องแต่งงานกับเศรษฐีขี้โกง เราส่วนใหญ่ถูกสอนมาให้มองปัญหาแบบขาวกับดำ แต่ไม่ใช่ทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้อย่างขาวกับดำเสมอไป บางครั้งในการแก้ปัญหา เราอาจต้องสร้างเครื่องมือในการแก้ปัญหาขึ้นมาใหม่ ในยุคสงครามเย็นที่กินเวลานานหลายสิบปี สูญเสียชีวิตและทรัพยากรโลกมหาศาล กอร์บาชอฟ กล่าวว่า "เป็นเรื่องเขลาที่คิดว่า ปัญหาที่รุมเร้ามนุษยชาติในวันนี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยเครื่องมือและวิธีการที่เคยใช้ได้ผลในอดีต" หากเขาไม่ได้คิดเช่นนี้ บางทีวันนี้สังคมนิยมโซเวียตยังไม่เปิดประเทศและสันติภาพระหว่า งฝ่ายขาว-ฝ่ายแดงคงล้าหลังไปอีกหลายปี โลกไม่ได้มีเพียงแค่สีขาวกับดำ ลูกสาวชาวนาเอื้อมมือลงไปในถุงผ้า หยิบกรวดขึ้นมาหนึ่งก้อน พลันเธอปล่อยกรวดในมือร่วงลงสู่พื้น กลืนหายไปในสีดำและขาวของสวนกรวด เธอมองหน้าเศรษฐี เอ่ยว่า "ขออภัยที่ข้าพลั้งเผลอปล่อยหินร่วงหล่น แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อท่านใส่กรวดสีขาวกับสีดำอย่างละหนึ่งก้อนลงไปในถุงนี้ ที่ก้นถุงเป็นกรวดสีดำ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "หากเราพยายามมากพอที่จะแก้ไขปัญหา เราจะพบว่าทุกปัญหาย่อมมีวิถีทางแก้ไขเสมอ |
คิดถึงอาจารย์ต๊อกจังค่ะ
หนูนุ่น สบายดีหรือเปล่า
ไม่ได้ข่าวน้าน...นาน...นานมากเลย
เมื่อไรจะมาเที่ยวเชียงใหม่จ๊ะ
สบายดีค่ะ อยู่กทม.มาหลายปี หุหุ ส่วนน้องนันก็พักที่คอนโดเดียวกันนั่นแหละค่ะ น้องนันใกล้จะเรียนเนจบแล้วค่ะ ส่วนน้องนุ่นก็ทำงานงกๆๆ ที่อัยการค่ะ คิดถึงอาจารย์ต๊อกจังค่ะ อาจารย์ไก่ด้วย นานๆกลับเชียงใหม่ทีค่ะ ถ้ามีโอกาสคงได้เจอกันอีกนะคะ รักนิติศาสตร์พายัพที่สุดเลยค่ะ
น้องนุ่น(เพื่อนน้องนัน)