หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

ถอดบทเรียนรู้.....เรียนรู้ปัจจุบันขณะ....ประสบการณ์ส่วนตัว....มาเล่าสู่กันฟัง


สิ่งที่ผ่านพ้นล่วงแล้วถือว่าเป็นอดีตแล้วเมื่อใช้เวลาเป็นตัวกำหนด ดังนั้นทุกวินาทีของคนเราจึงมีอดีตอยู่มากมาย แม้กระทั่งที่ฉันได้กดแป้นพิมพ์สิ้นสุดทีละตัว อดีตก็ได้ปรากฏกายขึ้นมาแล้ว อดีตจึงเปลี่ยนไม่ได้อีกแล้วเพราะมันกลายเป็นของที่ตายไปแล้ว การนำเรื่องของอดีตมาพูด ณ ปัจจุบัน มันก็ไม่ใช่อดีตอยู่นั่นเอง มันเป็นปัจจุบัน ณ เวลาที่กำลังพูด แล้วไยจึงไปให้ความสำคัญกับอดีตกันมากนัก

วันดีที่สุดวันหนึ่งในชีวิตของฉันได้ผ่านไปแล้ว   สิ่งที่ผ่านพ้นล่วงแล้วถือว่าเป็นอดีตแล้วเมื่อใช้เวลาเป็นตัวกำหนด ดังนั้นทุกวินาทีของคนเราจึงมีอดีตอยู่มากมาย แม้กระทั่งที่ฉันได้กดแป้นพิมพ์สิ้นสุดทีละตัว อดีตก็ได้ปรากฏกายขึ้นมาแล้ว  อดีตจึงเปลี่ยนไม่ได้อีกแล้วเพราะมันกลายเป็นของที่ตายไปแล้ว การนำเรื่องของอดีตมาพูด ณ ปัจจุบัน มันก็ไม่ใช่อดีตอยู่นั่นเอง มันเป็นปัจจุบัน ณ เวลาที่กำลังพูด แล้วไยจึงไปให้ความสำคัญกับอดีตกันมากนัก อดีตที่มีมากมายนั้นเกิดจากปัจจุบันขณะที่หมุนเร็วมากๆๆๆ การตระหนักรู้ตรงนี้กระมังที่ทำให้องค์พุทธะสอนสั่งเสมอมาว่า ให้ฝึกตนอยู่กับปัจจุบันขณะให้ทัน เพื่อไม่ให้เกิดความหลง หลงในที่นี้ฉันหมายถึง หลงเวลาค่ะ

 

ณ วันนี้ฉันเข้าใจซึ้งแล้วว่า ชีวิตที่สั่งสมมาของตนเองนั้นแปลก แปลกตรงที่ฉันเคยพยายามเปลี่ยนแปลงอดีต และใช่ว่าจะเป็นฉันเพียงคนเดียวที่มีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ หลายๆคนที่อยู่รอบข้างก็เป็นเช่นเดียวกัน พยายามที่จะแก้ไขอดีตโดยลืมไปว่าไม่มีใครเปลี่ยนแปลงมันได้ 

 

ฉันเพิ่งตื่นรู้ความหมายของการกระทำของตนเองว่า เมื่อลงมือทำอะไรบางอย่างที่ในอดีตทำได้ไม่ดีแล้วพยายามที่จะทำอะไรๆให้ดีขึ้นนั้น เมื่อลงมือทำ  ระหว่างทำ วางมือจากการทำ แต่ละขณะ ณ เวลานั้นเป็นเรื่องปัจจุบันขณะ หาใช่การแก้ไขอดีตไม่  แล้วก็ได้เรียนรู้ว่า เวลาของปัจจุบันขณะและอดีตนั้นมันเหลื่อมซ้อนกันอยู่นิดเดียวจนเกือบจะเกิดขึ้นทันทีพร้อมๆกัน   

 

การรับรู้และเรียนรู้นี้ทำให้ฉันสามารถปล่อยวางเรื่องราวที่เคยมองมุมลบลงได้ง่ายอย่างมากมาย  ในขณะปล่อยวางนั้นฉันก็พบว่ามุมบวกที่เคยมองไม่เห็นกลับแจ่มชัดขึ้นมาให้มองเห็นได้อย่างง่ายๆโดยไม่ต้องพยายาม  

 

ประสบการณ์นี้มันสอนฉัน การที่เราติดกับกับอดีต เป็นเพราะเราไม่รู้จักปัจจุบันขณะ เป็นเพราะเราไปยึดว่าอดีตคือปัจจุบันขณะ ถ้าเรารู้จักปัจจุบันขณะ ธรรมชาติจะแสดงตนชี้ทางสว่างให้เราเดินออกจากกับดักของอดีต จึงอยู่ที่ใจเราว่า ยังอยากหยิบอดีตนั้นมาเป็นกับดักตัวเองหรืออยากจะปล่อยวางกับนั้นลง  ในวันนี้จึงมาชวนให้กัลยาณมิตรทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนฝึกการปล่อยวางอดีต และฝึกตนในการตามปัจจุบันขณะให้ทัน เพื่อนำตนออกจากกับดัก หรือ เพื่อละวางไม่หยิบมาเป็นกับดักตัวเองค่ะ

 

6 กรกฎาคม 2551

หมายเลขบันทึก: 192465เขียนเมื่อ 6 กรกฎาคม 2008 11:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สวัสดีคะ อ.หมอเจ๊

  • อดีตไม่สามารถแก้ไข แต่สามารถเป็นบทเรียนเพื่อแก้ไขปรับเปลี่ยนปัจจุบัน
  • ป้าแดงไม่เคยยึดติดกับอดีต เพียรพยายามบอกตัวเองในแง่บวกว่า ที่ผ่านมาล้วนเป็นสิ่งดี
  • แต่ปัญหาของป้าแดง ก็คือการกังวลในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง แก้ไขลำบากนัก

สวัสดีเจ้าค่ะ ป้าหมอจ๋า

คิดถึงงงงงงงงงงง กอดดดดดดดดดด รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ หลานแวะมาเยี่ยม เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ---->น้องจิ ^_^

  • pa_daeng [มณีแดง คนสวย แซ่เฮ] ค่ะ
  • หมอเจ๊มีประสบการณ์กับตัวเองค่ะว่า แท้จริงที่เรากังวลอนาคต เพราะเรายังไม่หลุดจากอดีต เรายังติดกับอดีตค่ะ
  • การเรียนรู้เกี่ยวกับเจ้าตัวเล็ก ทำให้หมอเจ๊ได้คิดเรื่องนี้ และเรียนรู้ใหม่จากเด็กๆ แล้วจึงเข้าใจเรื่องที่นำมาบันทึกค่ะ
  • เด็กคือตัวอย่างที่สอนเราผู้ใหญ่ค่ะว่า การไม่ยึดติดกับอดีตโดยแท้ ทำได้อย่างไร
  • เด็กเป็นตัวอย่างให้หมอเจ๊เข้าใจค่ะว่า อะไรคือปัจจุบันขณะอะไรคือเครื่องส่งของเขาที่ทำให้เขาไม่กลัวอนาคตเหมือนเราผู้ใหญ่ค่ะ
  • หมอเจ๊ได้ความรู้นี้มา จึงเอามาแลกเปลี่ยนค่ะ
  • โก๊ะจิจัง แซ่เฮ ^๐^! จ๋า
  • หนูมีคุณสมบัติดีๆ ที่สอนป้าในเรื่องนี้ อย่าปล่อยมันทิ้งไปจากตัวนะลูกนะ
  • ป้าขอรับกำลังใจไว้เต็มๆเลยจ๊า
  • อยากไปเจอหน้าจัง แต่ยังไม่มีโอกาสเดินทางไกลอีกอ่ะ
  • ครูอึ่ง dd_L ค่ะ
  • ครูนั้นโชคดีกว่าหมอเจ๊ ตรงที่มีบทเรียนรอบตัวให้ได้เรียนอยู่ทุกวัน เก็บเกี่ยวมันทุกวันนะค่ะครู
  • เด็กเป็นครูของผู้ใหญ่ค่ะในเรื่องการปล่อยวาง การไม่ยึดติด การไม่ติดกับความคิด การขัดสีความสว่างให้กับใจ

สวัสดีค่ะพี่หมอเจ๊

เรื่องปัจจุบันขณะ หากใครไ้ด้ตระหนักรู้และตามทัน อยู่กับปัจจุบัน ไม่ยึดอดีต ไม่กังวลอนาคต เรียกได้ว่าสบายแล้วจริงๆ ค่ะ ^ ^

ขอบคุณนะคะ

  •  อาจารย์ กมลวัลย์ ค่ะ
  • การตื่นรู้ปัจจุบันขระ ในขณะที่มีเรื่องราวหลากหลายในชีวิตและในการงานที่ทำให้เร่งรัดเรา ทำให้เรื่องการรับรู้ปัจจุบันขณะและอดีต ยากมากค่ะ
  • หมอเจ๊ก็ใช่ว่าจะละวาง ปล่อยวางได้ทุกเรื่อง ทุกวันก็ทำงานของชีวิตทุกเรื่องอย่างคุ้นชิน จะมีก็แต่ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตัวเองอย่างวันหยุดเท่านั้นที่เวลาไม่เร่งรัดตัว ทำให้มีโอกาสได้ถอดบทเรียนรู้นี้มาบอกกัน

สวัสดีค่ะคุณหมอเจ๊
ทุกคนมีเรื่องราวมากมายในอดีตนะคะ  แต่พี่เองพยายามให้จำได้เฉพาะ สิ่งที่ดีๆ สิ่งไม่ดีก็จำได้ แต่ ไม่เก็บมาคิด มาเอาใจใส่มากมายเท่านั้นเองค่ะ
เอามะยงชิด ลอยแก้วมาฝากค่ะ เย้น เย็นค่ะ ชื่นใจจัง...

  • พี่ Sasinanda ค่ะ
  • หมอเจ๊จำอดีตของตัวเองไม่ใคร่ได้หรอกค่ะ
  • ลองฟื้นความจำตัวเองดู ณ วันนี้ จำได้แต่เรื่องที่ตัวเองเคยมีข้อคิดให้ตัวเอง และเหตุการณ์ที่ตัวเองประทับใจค่ะ
  • นึกถึงมันด้วยความสุข รู้ว่าเรามีความสุขมาตลอดค่ะ
  • ทุกข์ที่มีในตอนนั้น พอมองดูมันใหม่ ก็ได้รับรู้ความรู้สึกใหม่ๆของตัวเองค่ะ
  • การฝึกเรียนรู้กับอดีตที่หมอเจ๊ว่านี้นะค่ะ เพื่อเรียนรู้ว่า ปัจจุบันขณะ เป็นอย่างไรค่ะ
  • ยกตัวอย่างการกดแป้นพิมพ์ กด ยก แต่ละครั้ง มันก็เป็นเหตุการณ์สลับกันทันทีระหว่างอดีตและปัจจุบันค่ะ
  • เรียนรู้ความต่างของมันเพื่อฝึกความเร็วของสติให้ตามทันทุกกิริยาที่ทำค่ะ
  • อย่างนี้ก็เป็นการฝึกสมองแบบนิวโรบิคส์อีกรูปแบบหนึ่งค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท