เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การจัดการเรียนการสอนในวิชาวิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน เนื้อหาจะเกี่ยวกับเรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพและการอนุรักษ์ ซึ่งแนวคิดหลักสำคัญจะเน้นให้เห็นว่า
สรรพสิ่งมีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาและสภาวการณ์ ของโลกและจักรวาล สรรพสิ่งมี เกิด ตั้งอยู่ ดับไป ตามนัยแห่งพุทธปรัชญา ที่สอดคล้องกับหลักวิชาการวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ ที่เรียกว่า วิวัฒนาการ (evolution) ที่ยืนยันว่าสรรพสิ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นำไปสู่การปรับตัว (adaptation) ให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เพื่อการอยู่รอดและโดยกลไกการคัดเลือกโดยธรรมชาติ ก็จะทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกัน ที่เรียกโดยรวมว่า ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) ทำให้เกิดความซับซ้อนบนโลกจนกลายเป็นโลกของสิ่งมีชีวิต ที่เรียกว่า ชีวมณฑล (Biosphere)
เพื่อให้นิสิตได้เห็นจริงว่า มีวิวัฒนาการเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ตามแนวคิดข้างบน ถ้าเราพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวเราให้ดี ก็จะเห็นตัวอย่างได้ไม่ยาก อย่างเช่น วิวัฒนาการเกี่ยวกับการจอดรถของนิสิต เป็นต้น ดังรูปประกอบ
รูปที่ 1 จอดรถในที่ที่ใกล้ห้องเรียนที่สุด กลางแจ้ง ตามจุดที่กำหนด
รูปที่ 2 จอดรถบนทางเดิน เป็นระเบียบตามเครื่องหมาย ใต้ร่มเงาของต้นไม้
รูปที่ 3 จอดรถบนสนามหญ้า ไม่เป็นระเบียบ ใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่กว่า
รูปที่ 4 เริ่มมีรถยนต์มาร่วมใช้ประโยชน์ จอดใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่ด้วยแล้ว
ถ้าปล่อยไว้ให้เกิดวิวัฒนาการไปตามธรรมชาติ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ? มีผลต่อสนามหญ้า ต้นไม้ ที่ใช้เวลาปลูกมานานหลายปี และ เรื่องอื่น ๆ อย่างไร ?
ได้เห็นแล้ว ได้คิด และ คิดอะไรได้ ?
เป็นวิวัฒนาการที่เหมือนกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ แม้แต่โรงเรียนขนาดเล็กก็มีวิวัฒนาการเหมือนกัน เมื่อก่อนโรงเรียนมีสนามหญ้าอยู่ระหว่างป่าคอนกรีต 3 ชั้น 4 ชั้น หรือ 5 ชั้นบ้างแต่ตอนนี้ป่าคอนกรีตทำให้สนามหญ้าที่สีเดียวกับพวกมันไปแล้ว น่าเสียดายที่เป็นอย่างนั้น เลยทำให้มีที่จอดรถของโรงเรียนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้นักเรียนยังได้ใช้พื้นที่ของสนามเพิ่มมากขึ้น ไม่ต้องทำให้ลูกบอลไปโดนกระจกรถของครู คิดในแง่บวก แต่มันก็ทำให้โรงเรียนร้อนขึ้น ไม่มีส่วนที่มองแล้วทำเกิดการพักผ่อนสายตา
เล่าให้อาจารย์ฟังเฉย ๆ คะ ชอบแนวคิดของการมองวิวัฒนาการของการจอดรถค่ะ
วันนี้นำวิวัฒนาการ การจอดรถจักรยานยนต์ที่บริเวณตึกเรียนของมหาวิทยาลัยมาเพิ่มเติมครับ จากรูปที่ 1-4 ข้างบน หลังจากเวลาผ่านไปหลายเดือนก็มีการเปลี่ยนแปลง จากการจอดบริเวณสนามและลานด้านล่างของตึก ก็มีการขยับขึ้นมาจอดที่ลานข้างบน เพราะอาคารที่นี่เกือบทุกอาคารได้จัดทำทางลาดสำหรับผู้พิการได้ใช้ขึ้นมาได้สะดวก มาถึงตอนนี้กลายเป็นทางสะดวกสำหรับรถจักรยานยนต์ไปแล้วครับ ผมสังเกตุการเปลี่ยนแปลงมาเป็นระยะ ๆ เริ่มจากมีผู้กล้าขึ้นมาจอดเพียงคันสองคัน เมื่อเวลาผ่านไปก็ค่อย ๆ เพิ่มจำนวนขึ้น จนเกือบเต็มบริเวณที่เป็นทางเดินระหว่างตึกไปแล้วครับ เรื่องนี้ก็แล้วแต่มุมมองนะครับ ในมุมหนึ่งก็น่าเห็นใจนิสิตที่ต้องหาที่จอดที่ใกล้ห้องเรียนและอยู่ในร่มเงา เพราะมีบางตึกเรียนที่เคยให้จอดรถด้านล่าง มาถึงตอนนี้ก็ห้ามจอดแล้ว (เข้าใจว่าจะนำไปใช้ประโยชน์อื่น)
ก็ถือว่า เป็นวิวัฒนาการไปอีกขั้นหนึ่ง นะครับ