ตามที่ผมได้กำหนดกรอบการนำเสนอแนวคิดเรื่อง “เครือข่ายคุณภาพ กับ การกระจายอำนาจทางการศึกษา” เป็น 5 รายการ คือ 1) การกระจายอำนาจ คืออะไร การรวมอำนาจกับกระจายอำนาจ มีจุดเด่น จุดด้อยต่างกันอย่างไร อะไร คือจุดอ่อนเมื่อรวมอำนาจ หรือ กระจายอำนาจ 2) การวิเคราะห์อำนาจที่ได้รับ สภาพเดิม สภาพใหม่ ควรจะแตกต่างกันอย่างไร 3) ตัวชี้วัดความสำเร็จของเขตพื้นที่การศึกษา หรือสถานศึกษา หลังการกระจายอำนาจ 4) แนวทางการพัฒนาคุณภาพระดับเขตพื้นที่และระดับสถานศึกษา การบีบอัดคุณภาพการศึกษา 4) บทบาทร่วมของชุมชน เส้นทางสู่ความเป็นเลิศในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ 5) แนวทางการพัฒนางานในบทบาทของเครือข่ายคุณภาพเพื่อร่วมสนับสนุนและพัฒนากระบวนการบริหารจัดการกับอำนาจที่ได้รับ
ในประเด็นที่ 1) และ 2) ผมได้นำเสนอไปแล้วในตอนที่ว่าด้าน "การกระจายอำนาจทางการศึกษา : สิ่งที่ควรระวังและเตรียมการ" ในตอนนี้ ผมจะนำเสนอเรื่องที่ 3) ตัวชี้วัดความสำเร็จของเขตพื้นที่การศึกษา หรือสถานศึกษา หลังการกระจายอำนาจ ดังต่อไปนี้
หากการกระจายอำนาจทางการศึกษาได้ก่อให้เกิดผลดี หรือผลในทางบวกอย่างแท้จริง ทำให้งานรวดเร็ว คล่องตัวมากขึ้น หรือมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น น่าจะมีผลต่อการไปผลักดันคุณภาพการศึกษา ตามตัวชี้วัดต่อไปนี้คือ
ก. ตัวชี้วัดคุณภาพระดับเขตพื้นที่การศึกษา
· เด็กได้รับการศึกษาภาคบังคับและการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึง
ตัวชี้วัด คือ
1) ร้อยละของเด็กที่จบการศึกษาภาคบังคับ
2) ร้อยละของเด็กที่จบระดับชั้น ม.ปลาย
· เด็กในระบบโรงเรียนของเขตพื้นที่มีสมรรถนะสูง/จัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ
ตัวชี้วัด(KPI) คือ
- คะแนน NT เฉลี่ย
- คะแนน O-Net เฉลี่ย
- ผลการประเมินคุณลักษณะที่พึงประสงค์เฉลี่ยทั้งเขต
· โรงเรียนในเขตพื้นที่มีคุณภาพ
ตัวชี้วัด(KPI) คือ
- จำนวนและร้อยละของโรงเรียน ที่ได้คะแนน NT
สูงกว่า Percentile ที่ 50
- จำนวนและร้อยละของโรงเรียน ที่คะแนนเฉลี่ย
O-Net ติดใน 100 อันดับแรกของประเทศ
- สหสัมพันธ์ระหว่างคะแนน NT กับ เกรดเฉลี่ย
ของนักเรียน
ฯลฯ
· อปท. องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน หรือครอบครัวในเขตพื้นที่ จัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ หรือมีบทบาทร่วมในการจัดการศึกษา
ตัวชี้วัด(KPI) อาทิ
- พฤติกรรมการมีส่วนร่วม
- ร้อยละของงบประมาณ อปท. ที่ให้กับการจัดการศึกษา
- หน่วยจัดการศึกษาเอกชน องค์กรชุมชน ครอบครัว
ที่ผ่านการประเมินมาตรฐานในการจัดการศึกษา
- ผลการเรียนของนักเรียนในสังกัด อปท. หรือครอบครัว
ข. ตัวชี้วัดความสำเร็จระดับสถานศึกษา(ทั้งโรงเรียนประเภท 1 และ 2)
• คะแนน NT เฉลี่ย
• คะแนน O-Net เฉลี่ย
• ผลการประเมินคุณภาพด้านผู้เรียน โดย สมศ.
• รางวัล/ความเป็นเลิศด้านต่าง ๆ
• ความสามารถในการสร้างมูลค่าเพิ่มในเด็ก(พัฒนาเด็กเก่ง เด็กปานกลาง และเด็กกลุ่มอ่อน)
ถ้าเราหวังผลคุณภาพการศึกษากันอย่างแท้จริง เราจะต้องกำหนดหรือมีข้อตกลงในเรื่องตัวชี้วัดคุณภาพการจัดการศึกษาระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับสถานศึกษา กันอย่างชัดเจน อันจะนำไปสู่การตรวจสอบได้ว่า เขตพื้นที่การศึกษาใด หรือสถานศึกษาใด เป็นเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สถานศึกษาที่มีคุณภาพ เกรด A หรือ B อย่างแท้จริง (สำหรับเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สถานศึกษา กลุ่ม C หรือ D ก็จะได้รับการพัฒนา หรือกระตุ้นให้เกิดการเร่งรัดคุณภาพกันอย่างเต็มประสิทธิภาพต่อไป(ประเมินเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาน่ะ)
เรียน อาจารย์สุพักตร์ พิบูลย์
ผมได้เข้าอบรมเรื่องการประกันคุณภาพ ที่โรงแรมหัวเรือ จังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2551 ได้รับความรู้และแนวทางในการปรับปรุง/พัฒนามากมายครับ เช่น ทันทีที่เราทราบผลการประเมิน สมศ.หรือผลการสอบ โอเนต หรือเอ็น ที เราจะต้องประชุมศึกษาปัญหา วางแผนพัฒนาหรือปรับปรุงทันที ขอบคุณอาจารย์มากครับที่ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์มองเห้นภาพที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นครับ