ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก เอามือควานหาแล้วปิดเสียงเพราะลุกไม่ขึ้นจริง ๆ นอนไปจนประมาณเก้าโมงเช้า (ตีห้าบ้านเรา) รีบลุกออกมาล้างหน้าแปรงฟัน บ้านเงียบมาก เดินออกมาในห้องรับแขกเจอมิเชล เรารีบพูดว่า Good morning I am late. มิเชลบอกว่าไม่เป็นไร หลับสบายไหม ต้องการน้ำชา หรือ กาแฟ เราตอบว่ากาแฟ มิเชลให้เราชงเองใส่น้ำตาลและนม เรากินพร้อมกับขนมปัง 1 ชิ้น เป็นอันว่ามื้อเช้าก็ผ่านไป ประมาณสี่โมงมิเชลก็ชวนออกไปซื้อของไว้เพื่อไปแคปปิ้งในวันจันทร์-อังคาร-พุธ โดยนัดกับพี่อุไรด้วย ไปเจอพี่อุไรที่ในเมือง เดินไปซื้อของ มิเชลซื้อเสื้อกันหนาว และหมวกให้ เราเกรงใจมากเพราะคิดเป็นเงินไทยแล้วแพงมาก พี่อุไรบอกว่าไม่ต้องเกรงใจหรอกเวลาเขาไปอยู่เมืองไทยเราก็ต้องจ่ายให้เขาเหมือนกัน กลางวันไปกินร้านอาหารที่มีอาหารไทยขาย สั่งข้าวกับผัดผักรวมมิตร เห็นจานข้าวแล้วตกใจมากเพราะใหญ่โตกินไม่หมดแน่ คิดเป็นเงินไทยแล้วประมาณ 300 บาท สองคนกับพี่อุไรพยายามกินให้หมด แต่ก็ไม่หมด (ในร้านนี้เจอพวกเด็กที่ครอบครัวพากันมากินอาหาร ดูน่าตาสดใส มีความสุข เราก็ดีใจด้วย ยกเว้นธันยา พันธ์บัว ซึ่งไม่ใช่นักเรียนในโครงการ EP ดูหน้าตาแล้วไม่ค่อยมีความสุข คงมีความทุกข์เช่นเดียวกับเรานี่แหละ) หลังจากกินอาหารแล้วมิเชลเข้าไปสั่งอาหารสำหรับแอนดรู เรามีโอกาสได้ถ่ายรูปเมือง LAUNCESTON
ไม่มีความเห็น