Harm reduction in Drug user

ผู้ใช้สารเสพติดประเภทฉีดมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค/ติดเชื้ออันเนื่องมาจากสารและวิธีการที่เขาใช้ และในหลายคนก็มีความเสี่ยงทางด้านเพศสัมพันธ์อีกด้วย แต่ปัญหาในการเข้าถึงการได้รับข้อมูลและการบริการที่จำเป็นยังคงขาดแคลนอยู่

บทความนี้เป็นเหมือนการทบทวนความคิดเห็นของตนเองในการทำงานเมื่อ18-19มิย.ที่ผ่านมา มีโอกาสติดตามป้านิตยาไปร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีโดยใช้แนวคิดของการลดความเสี่ยง( Harm eduction )ในกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด (Injecting Drug User)ซึ่งจัดโดยทางสอวพ.

เวทีนี้เหมือนการร่วมรับฟังข้อมูลและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานเพื่อลดความเสี่ยงในกลุ่มผู้ใช้ยา มีส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องมาร่วมงานนี้อยู่พอสมควร มีตัวแทนผู้ใช้ยามา3-4ราย,ปปส.,ผู้แทนองค์กรที่ทำงานด้านHarm reductionทั้งไทย-เทศ,ตัวแทนสำนักการแพทย์กทม.,TUC,ผู้แทนกรมสุขภาพจิตและสถาบันธัญญารักษ์

งานนี้ในตอนแรกก็ไม่ได้อยากไปเลยเพราะคาดเดาได้ว่าต้องมีกิจกรรม/งานต่อเนื่องแน่นอนซึ่งในช่วงระยะ2-3เดือนที่จะถึงนี้เป็นเหมือนช่วงที่อาจเรียกได้ว่าเป็นการเก็บเกี่ยวผลงานหรือรีบเร่งสรุปกิจกรรมโครงการต่างๆให้แล้วเสร็จ ถ้าเรียกแบบภาษาวัยรุ่นก็คือเป็นช่วงงานเข้าชุกชุม..สำหรับบุคคลากรในหน่วยงานปฏิบัติแทบอยากสำลัก หรือเกลียดใบเชิญเข้าร่วมประชุมเพราะมันคล้ายๆกับเป็นเหมือนใบทวงหนี้จริงๆ...

สุดท้ายก็เป็นเหมือนทีมโปรตุเกสที่กลัวลูกโหม่งของเยอรมันนี..ในที่สุดไม่รู้จับพลัดจับผลูอันใดเราจึงได้งานเขียนคู่มือเพิ่มขึ้นมาอีก2เรื่อง เป็นเรื่องของVCTและ Disease screeningซึ่งเรื่องของการscreeningโรคอจ.นพ.สมสิทธิ์ท่านรับบทเขียนไปแต่VCTภาคผสมMI&Health education&Counselingในแง่มุมHarm Reduction ในกลุ่มผู้ใช้ยาเป็นคู่มือแนวทางปฏิบัติที่มีกำหนดส่งโครงร่างและเนื้อหาโดยคร่าวๆ ภายใน21 กค.ที่จะถึง..ก็คงต้องลองลุยกันต่อไป หลังจากที่ครึ่งวันเช้าที่19มิย.ทีมงานจตุรทิศได้ลองมาระดมสมองและประสบการณ์ร่างโครงสร้างเนื้อหากันไปรอบนึงแล้ว...ซึ่งอยากถามทีมผู้จัดดำเนินการว่าทำไมการเขียนนี้จึงต้องเร่งเหลือเกินทีมที่อยู่ด้วยกันแต่ละคนต่างก็ติดงานหลักๆและโครงการจนแทบจะไม่อยากคิด/เขียนอะไรเครียดๆเพิ่มเติมขึ้นมาอีกแล้ว..แต่ก็..เฮ้อ!!! นึกถึงการใช้KMในการจัดการเอกสารด้านธุรการของพี่สมจิตร(ธุรการกลุ่มงานฯ)ที่เขามีการจัดอันดับความเร่งด่วนของเอกสาร..สงสัยว่าช่วงนี้ทำไมไม่ค่อยมีงานความเร็วปกติเข้ามามากๆส่วนใหญ่แล้วมักเป็นด่วน..ด่วนมาก และด่วนผิดปกติ

เวลาที่กระชั้นและความขาดแคลนกำลังคนทำงานเป็นเหมือนตัวกระตุ้นความเครียดและความรู้สึกที่ท้าทายได้พอๆกัน เพราะหลังจากที่ทุกคนออกแบบโครงร่างเนื้อหาแต่การเก็บประเด็นและเนื้อหารายละเอียดสุดท้ายก็จะเหลืออยู่ไม่กี่คนที่รับบทนำไปเขียนต่อ...หลังจากCBTตัวเองจนรู้สึกดีขึ้นแล้วก็จะได้ทำงาน(เขียนคู่มือ)นี้ต่อไปสลับกับการทำงานอื่นๆ...

เหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจร่วมและรับงานนี้มาทำก็คือถือว่าเป็นการเรียนรู้ที่ก้าวหน้ามากขึ้นในเรื่องของMIและการใช้Harmในกลุ่มผู้ใช้ยารวมถึงการจัดดำเนินกิจกรรมการให้การปรึกษาแบบVCT ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ให้บริการสาธารณสุขในการนำมาใช้ช่วยเหลือผู้รับบริการที่เกี่ยวข้องทั้งกับเรื่องของยาเสพติดและเรื่องของการติดเชื้อเอชไอวี