อุปสรรค กับ กระดาษทราย


อุปสรรค กับ กระดาษทราย

อุปสรรค กับ กระดาษทราย

นลเฉลย

    ผมเขียนเรื่องนี้เพราะเคยรู้สึกว่า ตนเองต้องเจอกับอุปสรรคมากมายเหลือเกิน คิดจะทำอะไรแต่ละอย่างก็ต้องเจอแต่ปัญหา จนรู้สึกท้อ เคยพยายามคิดปลอบใจตัวเองว่า ตัวเองเป็น กระท้อน ต้องทุบให้นุ่ม ถึงจะหวาน จริงอยู่ครับที่ว่า พอเราผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ จะรู้สึกดี ได้รับรู้ความหวานหอมของความสำเร็จ แต่พอต้องเจออุปสรรคบ่อยๆเข้า  ถูกทุบบ่อยๆ เลยชักไม่แน่ใจว่า จะคิดว่าตนเองเป็นกระท้อนไปได้นานแค่ไหน ชักเริ่มสงสัยว่าถ้ากระท้อนถูกทุบมากๆแล้วมันจะเน่าไหม จะทนไหวไหม จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมเริ่มมองอุปสรรคเหล่านั้นในมุมมองใหม่ มุมมองที่ช่วยให้ผมมีกำลังใจที่เผชิญอุปสรรคเหล่านั้นได้ดีขึ้นเลยอยากแบ่งปัน มุมมองนั้นให้ท่านผู้อ่าน

    ผมมอง อุปสรรคเหมือนกับกระดาษทรายครับ กระดาษทรายมีหน้าที่ในการขัดผิว เอาส่วนที่ไม่สวย เสี้ยนหนามต่างๆออก เพื่อ ให้สิ่งที่ถูกขัดนั้นเรียบ เนียน สวยขึ้น อุปสรรค ถ้ามองเผินๆ ก็เหมือนสิ่งที่ ขัดขวาง ไม่ให้งานของเรา "ลื่นไหล" แต่ถ้าเรามองอีกด้าน ที่งานไม่ลื่นไหลนั้น หลายครั้งเป็น เพราะงานนั้นยังไม่สมบูรณ์ เราเองยังมีเสี้ยนหนามอยู่ การที่มีอุปสรรค จึงเป็นแรงผลักที่ทำให้เราต้องพัฒนาตัวให้ดีขึ้น เอาเสี้ยนหนาม(ของเราเอง)ออก เอาของเสียของเราออกก่อน ถ้าลองคิดเทียบกับนักกีฬากระโดดสูง อุปสรรคของเขา คือ ความสูงของไม้กั้น การที่เขากระโดดข้ามไม้กั้นไม่ได้ ไม่ใช่อยู่ที่ความสูงของไม้กั้นเท่านั้น แต่อยู่ที่ท่าทางตอนกระโดด ความแข็งแรงของขา ฯลฯ ของตัวผู้กระโดดเองด้วย ยิ่งอยากที่จะกระโดดให้สูงขึ้นมากเท่าไร ก็ยิ่งต้องพัฒนาตนเอง กำจัดข้อเสียของตนเองมากขึ้นเท่านั้น การทำงานก็ เช่นกัน ยิ่งอยากจะทำเรื่อง ดีๆมากเท่าไร ก็ดูเหมือนจะมีอุปสรรคมากขึ้นเท่านั้น ต้องพัฒนาตนมากขึ้นเพื่อทำเรื่องดีๆ ให้ได้  หลายคนอาจถามว่า โอยถ้าอย่างนี้ไม่ต้องทำดีเลยดีกว่าไหม ยิ่งอยากทำดีมากยิ่งเจออุปสรรคมาก ครับผมเคยคิดแบบเดียวกัน อยากทำดีแต่มันยุ่งมากนักไม่ทำดีกว่า แต่พอกลับมาพิจารณาดีๆอีกทีก็พบสัจธรรมว่า “อุปสรรคเป็นเรื่องปกติ” ของชีวิต เป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องเผชิญ ไม่ว่าเราจะทำอะไรเราต้องเจออุปสรรคทั้งนั้น แต่คนที่กล้าเผชิญอุปสรรคยากๆ ก็จะสามารถก้าวข้ามอุปสรรคง่ายๆในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น ในทางตรงกันข้ามคนที่ไม่กล้าเจออุปสรรคยากๆ ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่เจออุปสรรคในชีวิต เขาก็ยังต้องเจออุปสรรคง่ายๆอยู่ดี เพียงแต่ว่าความยากง่ายนี้เป็นเรื่องเฉพาะตน หมายความว่าแต่ละคนวัดว่า เรื่องไหนยาก เรื่องไหนง่าย ไม่เหมือนกัน นักกีฬากระโดดสูงอาจจะเห็นว่า กระโดดสูงหนึ่งเมตรครึ่งเป็นเรื่องกล้วยๆ ในขณะที่คนที่ไม่เคยฝึกเห็นว่ายาก ทั้งที่กระโดดในความสูงเท่ากัน ดังนั้นในคนที่ไม่กล้าเผชิญอุปสรรคยากๆ ก็ยังเจออุปสรรคที่ยาก (ในสายตาเขาเอง)อยู่ดี สรุปอีกที คืออุปสรรคเป็นเรื่องปกติของชีวิต เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเจอ แม้กระทั่งพระอริยบุคคล พระโสดาบัน พระอนาคามี ที่บรรลุธรรมชั้นสูง ก็ยังต้องเผชิญ อุปสรรค อุปสรรคที่ขวางไม่ให้ท่านเหล่านั้นบรรลุนิพพาน แต่อุปสรรคของท่านจะยิ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากขึ้น ไม่เหมือนอุปสรรคขั้นหยาบที่พวกเราเจอ นอกจากจะต้องเข้าใจว่าอุปสรรคเป็น “เรื่องธรรมดา” ที่ทุกคนต้องเจอแล้ว ยังต้องเข้าใจต่อว่า อุปสรรค ก็ยังอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์ ไม่มีอุปสรรคไหนที่คงทนถาวร ไม่มีอุปสรรคไหนที่จะคอยกั้นขวางเราอยู่ตลอดไป ที่สำคัญคือ เมื่อเราเข้าใจได้ดังนี้ เราก็จะไม่เอาใจไปพะวง กังวล เป็นทุกข์ใจไปกับอุปสรรค เพราะความกังวลกับอุปสรรคนี่ต่างหากที่ทำให้อุปสรรคนั้นดูน่ากลัวมากขึ้น การปล่อยวาง ไม่กังวล จะช่วยให้เราเกิดปัญญามองหาวิธีก้าวข้าม หรือ อยู่ร่วม กับอุปสรรค และทำในสิ่งที่เราต้องการทำต่อไปได้

            ครับนั่นคือ คำขยายความ ของอุปสรรค คือ กระดาษทราย ของผม อ่านแล้วคิดอย่างไร พอจะมีแรงทำความดีกันต่อไปหรือไม่ เขียนมาเล่าสู่กันฟังตามที่อยู่ข้างล่างนะครับ ขอบคุณและสวัสดีครับ

บุญกุศลอันใด ที่เกิดจากบทความชิ้นนี้ ขออุทิศให้ แก่ ผู้อ่านที่นำไปใคร่ครวญ ขบคิด ปฏิบัติ

และขออุทิศ แด่ บิดา มารดา ครู อาจารย์ ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรของผู้เขียน

 

หมายเลขบันทึก: 188181เขียนเมื่อ 15 มิถุนายน 2008 14:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม 2012 18:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท