เวที “คืนความรู้ สู่ชุมชน” ในวันที่ 24 ก.พ. 2549 มีการชวนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการเข้าร่วมประชุมได้แก่ หมอพื้นบ้าน 50 คน และกลุ่มเครือข่ายใบชะโนดที่จะดำเนินการเก็บข้อมูล 10 คน และประชาชนที่สนใจในพื้นที่ มีการจัดจุดสาธิตเกี่ยวกับการแพทย์พื้นบ้าน และมีเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ของหมอพื้นบ้านโดยจัดตามความชำนาญในการรักษา และขึ้นเวทีตามลำดับเป็นกลุ่มๆ ซึ่งผลที่เกิดขึ้น
- กิจกรรมเริ่มต้นที่พิธีสู่ขวัญ และจัดให้มีเวทีแลกเปลี่ยน โดยมีจุดสาธิตรอบๆที่ประชุม สามารถเดินไปชมจุดต่างๆได้ตามความสนใจ มีชาวบ้านหมุนเวียนมาเข้ารับฟังการประชุม มีบางกลุ่มก็ไปทดลองนวด บางกลุ่มก็เข้าเต้นท์อบสมุนไพร (ส่วนของหลังคาเต้นท์ขนาด 4x6 เมตร ครอบบนพื้น นำไอน้ำจากการต้มยาผ่านทางกระบอกไม้ไผ่) ในขณะเดียวกันหมอพื้นบ้านหลายๆคนก็จับกลุ่มคุยกัน เพื่อเตรียมขึ้นเวทีแลกเปลี่ยน
- ทีมพี่เลี้ยงได้จัดเตรียมสรุปผลการสำรวจ, ตำรับยาพื้นบ้านอีสานบางส่วนจากหนังสือหมอดีอีสาน ในรูปแบบการนำเสนอแบบโปสเตอร์นำไปติดไว้ตามต้นไม้รอบๆที่ประชุม ซึ่งเป็นลานโล่งภายในวัด
- จุดสาธิตการดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้านที่หมอพื้นบ้านนำมาแสดง ได้แก่
- การเป่ากำเริดเด็ก
- ยาซุมสมุนไพร เช่น ยาแก้ริดสีดวงทวาร, ยาบำรุงร่างกาย, ยาแก้โรคตับ, ยาแก้โรคกระเพาะ, ยาแก้พิษแมงมุม
- อบสมุนไพร
- นวดจับเส้นแบบพื้นบ้าน
- ต้มยาบำรุงร่างกายเพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ดื่มฟรี
- ดูดวง
- เวทีแลกเปลี่ยนความรู้ได้จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภูมิปัญญาพื้นบ้านอีสาน
1. โรคกระเพาะอาหาร และลำไส้
2. ท้องผูก ท้องร่วง
3. กินผิด
4. นิ่ว
5. ริดสีดวงทวาร ลำไส้ และจมูก
6. ไข้หมากไม้
7. ทราง
8. ดีซ่าน
9. ทำมะลา
10. ประดง
โดยให้หมอพื้นบ้านที่ชำนาญโรคนั้นๆขึ้นเวทีตามลำดับ ซึ่งผลจากการสำรวจข้อมูลทราบอย่างคราวๆว่าใครชำนาญเรื่องไหน โดยเวทีแรกนั้น ภก.สมชาย ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการประชุมได้เชิญให้หมอพื้นบ้านขึ้นเวทีและเป็นการสัมภาษณ์อย่างเป็นทางการ ซึ่งทำให้การพูดคุยไม่เป็นธรรมชาติ จึงเปลี่ยนผู้ดำเนินการซึ่งเป็นคนในพื้นที่ คือ พ่อชัยพฤกษ์ เป็นผู้สัมภาษณ์หมอพื้นบ้าน ทำให้การพูดคุยผ่อนคลายเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามประเด็นที่ผู้แลกเปลี่ยนพูดถึง คือ ความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม และความเชี่ยวชาญที่ตนใช้ในการช่วยเหลือเพื่อนบ้าน โดยมีการพูดถึงอาการของโรคนั้นเป็นอย่างไรค่อนข้างน้อย ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักของการประชุม
แต่มีบทเรียนคือ ทีมพี่เลี้ยงขาดการวางแผนร่วมกันในการจัดการประชุม และบรรยากาศในการสัมภาษณ์ช่วงแรกเป็นการสัมภาษณ์แบบเป็นทางการ จึงทำให้การพูดคุยไม่เป็นธรรมชาติและหมอพื้นบ้านไม่กล้าแสดงความคิดเห็น
ไม่มีความเห็น