ประกันสังคมยอมโอนเงินค่ารักษาพยาบาลหัวละ 1,306 บาท เข้ากรมบัญชีกลาง หากผู้ประกันตนเลือกใช้สิทธิราชการ
นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ เลขาธิการสำนักงานประกนสังคม (สปส.) กล่าวว่า ประกันสังคมยอมที่จะโอนเงิน ค่าเหมาจ่ายรักษาพยาบาลของผู้ประกันตนที่มีสิทธิซ้ำซ้อนเบิกค่ารักษาพยาบาลจากราชการ หรือรัฐวิสาหกิจในอัตราคนละ 1,306 บาทต่อปี ไปให้กรมบัญชีกลางแทนได้ เพื่อลดปัญหาการจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลซ้ำซ้อนตามที่กรมบัญชีกลางเสนอ โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นครอบครัวของราชการหรือรัฐวิสาหกิจได้รับสวัสดิการการรักษาพยาบาลที่ค่อนข้างดีกว่าระบบประกันสังคม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการแก้ไข พ.ร.ก.เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2523 เปิดให้ผู้มีสิทธิ หรือบุคคลในครอบครัวที่มีสิทธิซ้ำซ้อน เช่น สิทธิประกันสังคม หรือสวัสดิการอื่น ๆ มาใช้สิทธิรักษาพยาบาลเช่นเดียวกับข้าราชการได้ “ประกันสังคมเห็นด้วยที่จะโอนเงินค่ารักษาพยาบาลให้กับหน่วยงานที่ผู้ประกันตนนั้นไปใช้สิทธิ เพราะจะได้ไม่ต้องเอาเงินไปกองที่โรงพยาบาลโดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์” นายสุรินทร์กล่าว
อย่างไรก็ตาม จะต้องมีกฎระเบียบที่ชัดเจน เพื่อที่จะไม่ให้มีปัญหา และให้ผู้ประกันตนสามารถรับสิทธิประกันสังคมอย่างอื่นได้ต่อเนื่อง เช่น การกำหนดให้ผู้ประกันตนทำหนังสือแสดงเจตจำนงว่าจะเลือกใช้สิทธิการรักษาพยาบาลประเภทใดทุกปี หรือปีต่อปี เหมือนกับการที่ผู้ประกันตนจะต้องเลือกสิทธิการรักษาพยาบาลโรงพยาบาลทุกปี เพื่อมีการคัดแยกบัญชีผู้ประกันตนให้ถูกต้อง นอกจากนั้น เมื่อคู่สมรสหรือบุคคลในครอบครัวที่เคยได้สิทธิสวัสดิการจากราชการลาออกจากงาน ผู้ประกันตนรายนั้นก็ยังสามารถเปลี่ยนกับมาใช้สิทธิประกันสังคมได้
ปัจจุบันกรมบัญชีกลางต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับข้าราชการและผู้ที่ได้รับสิทธิ รวมกันเป็นเงินประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาทต่อปี โดยคาดว่าผู้ที่สิทธิซ้ำซ้อนประมาณ 1.6 แสนราย
ก่อนหน้านี้ กฎหมายระบุให้ผู้มีสิทธิรักษาพยาบาลจากหน่วยงานอื่น เช่น ประกันสังคม จะต้องใช้สิทธิอื่นก่อนสิทธิสวัสดิการราชการ ทำให้มีการร้องเรียนอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่ไม่ต้องการใช้สิทธิประกันสังคม เพราะเกรงปัญหาเรื่องการบริการที่ค่อนข้างไม่ได้มาตรฐาน และค่าใช้จ่ายส่วนเกินที่อาจเกิดขึ้นตามมา
ปัจจุบัน กองทุนประกันสังคมมีเงินกองทุนที่ดูแลกรณีเจ็บป่วย ตาย ทุพพลภาพ คลอดบุตร 75,954 ล้านบาท และเป็นเงินกองทุนกรณีว่างงาน 31,031 ล้านบาท เงินกองทุนกรณีสงเคราะห์บุตรและชราภาพ จำนวน 415,883 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินออมของผู้ประกันตนจำนวนกว่า 9 ล้านคนทั่วประเทศ เตรียมจ่ายสิทธิประโยชน์บำนาญชราภาพในปี พ.ศ. 2557 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 522,868 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมช.คลัง ออกมาผลักดันการพัฒนาระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลให้เป็นธรรม และเหมาะสมและสอดคล้องกันระหว่างข้าราชการ ลูกจ้างผู้มีสิทธิ สถานพยาบาล และฐานะการคลัง ของรัฐ รวมทั้งให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสิทธิซ้ำซ้อนกับระบบประกันสังคมและระบบประกันสุขภาพ
โพสต์ทูเดย์ 9 มิ.ย. 2551
อยากทราบว่า เมื่อข้าราชการเสียชีวิตจากการปฏิบัติราชการชายแดน และภรรยาได้รับบำนาญพิเศษ ทำไมถึงภรรยาจึงเบิกค่ารักษาพยาบาลไม่ได้ เดือดร้อนมาก เมื่อขาดสามีซึ่งเป็นเสาหลักจากการปฏิบัติหน้าที่
อยากทราบว่า เมื่อข้าราชการเสียชีวิตจากการปฏิบัติราชการชายแดน และภรรยาได้รับบำนาญพิเศษ ทำไมถึงภรรยาจึงเบิกค่ารักษาพยาบาลไม่ได้ เดือดร้อนมาก เมื่อขาดสามีซึ่งเป็นเสาหลักจากการปฏิบัติหน้าที่