คำเตือน..จากธรรมชาติ


ขยะ..หรือ สมบัติ

           วันนี้มีโอกาสได้ไปเข้าร่วมประชุมที่สคร.9 เรื่องการเตรียมแผนฉุกเฉินเพื่อรองรับการเกิดสาธารณภัย ซึ่งเป็นการประชุมจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายหลังการอภิปรายไปได้ซักระยะหนึ่ง..ทำให้เราได้รู้สึกว่า..อนาคตของประเทศ และโลกของเรามันช่างน่ากลัวเหลือเกิน  ภาวะโลกร้อนที่ทุกคนได้ยินมาเมื่อหลายปีก่อน..จนทุกวันนี้มันไม่ใช่แต่เป็นเรื่องที่เราได้รับรู้เท่านั้น แต่กลับกลายเป็นการเผชิญกับผลที่เกิดจากการกระทำของพวกเรา..ที่หลายคนบอกว่า "นั่น..เป็นเพียงการเริ่มต้นที่ธรรมชาติกำลังเตือนเราเท่านั้น!"  อืม..อดคิดต่อไม่ได้ว่า..เมื่อวันนั้นมาถึงเราจะทำอย่างไร?

            ....หลายฝ่ายมีความเห็นตรงกันว่า นอกจากการเตรียมรับมือกับความน่ากลัวเหล่านั้นด้วยการร่วมมือกันของทุกคน และทุกฝ่ายอย่างมีสติแล้ว ...อีกสิ่งที่น่าจะช่วยกันได้คือ การช่วยกันลดการทำลายธรรมชาติ....ถึงตรงนี้ได้มีโอกาสนั่งคุยกับ รองผอ.(ที่ไปประชุมด้วยกัน) เกี่ยวกับเรื่องนี้ สิ่งหนึ่งที่อาจารย์เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์การไปดูงานที่ไตหวัน ถึงเรื่องการแยกขยะรีไซเคิลต่างๆ..ทำให้เรารู้สึกว่า "สิ่งที่เราทำอยู่ และคิดว่าทำดีแล้ว..ถูกต้องแล้ว..แท้ที่จริงยังมีบางอย่างที่เราคิดไม่ถึงเหมือนกัน.." โดยเฉพาะวิธีการแยกขยะของชาวไตหวัน ที่เราเองฟังแล้วยังอึ้งไปเลยเหมือนกัน..และก็เก็บข้อคิดนี้มาบอกต่อด้วยนะ..ว่าเค้ามีวิธีการแยกขยะที่เป็นกระดาษอย่างไร?

            1. กระดาษที่ใช้ควรใช้ให้ครบทั้ง 2 หน้า จนไม่เหลือที่ว่างสำหรับเขียนได้อีกแล้ว..ถ้าเหลือเพียงครึ่งหน้า หรือ 1/3 ของหน้าก็ตัดไว้สำหรับทำกระดาษโน๊ต หรือทำมุมกระดาษก็ได้

            2. เมื่อจำเป็นต้องทิ้งจริงๆ ก็ควรแยกกระดาษสีไว้กลุ่มหนึ่ง  กระดาษขาวที่มีตัวหนังสือแล้วไว้อีกกลุ่มหนึ่ง และขอบของกระดาษที่ยังมีพื้นที่สีขาวอยู่ก็ฉีกเฉพาะส่วนที่เป็นสีขาวเท่านั้นเป็นเศษย่อยๆก็ได้แยกไว้อีกกลุ่มหนึ่ง (ชาวไตหวันทำอย่างนั้นเพราะการนำกลับไปรีไซเคิลจะใช้ประโยชน์ต่างกัน)

            3. ส่วนกระดาษที่เคลือบพลาสติกก็ควรแยกไว้อีกกลุ่มหนึ่ง เพราะเค้าจะแยกเอาส่วนของพลาสติกออก และนำกลับไปรีไซเคิลเพื่อทำเสื้อผ้า ผ้าห่มสำหรับไว้บริจาคให้ผู้ประสบภัยได้ (อาจารย์เล่าให้ฟังอย่างนั้น)

             หลังจากฟังอาจารย์เล่า..แทบไม่น่าเชื่อเลยนะว่า แค่สิ่งที่เราเรียกว่า "ขยะ" จริงๆมันคือของมีค่าต่างหาก..และสุดท้ายอาจารย์ยังบอกต่อว่า..คนเก็บขยะที่ไตหวันหาใช่คนจนไม่ แต่กลับเป็นกลุ่มคนที่เห็นคุณค่าของธรรมชาติต่างหาก..  

            

หมายเลขบันทึก: 186585เขียนเมื่อ 6 มิถุนายน 2008 16:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณนะคะคุณประจักษ์สำหรับกำลังใจ..แล้วแวะมาใหม่นะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท