ที่อื่นๆ เขาเปิดภาคเรียนและเรียนกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ที่แห่งนี้เปิดสัปดาห์หน้าเป็นสัปดาห์แรก นั้นก็หมายความว่า พวกเราผู้ทำหน้าที่รับผิดชอบวิชาก็ต้องเหมือนกบจำศีล "ไปไหนไม่ได้" ต้องทำหน้าที่กันต่อไป
ปัญหามีไว้ให้สะสาง แต่ละภาคการศึกษาปัญหามีหลากหลายให้ได้เรียนรู้ ซ้ำบ้างใหม่บ้าง ที่ซ้ำก็แก้ง่าย ที่ใหม่ก็ต้องเรียนรู้กันไป และสิ่งที่พบคือ "ยิ่งอยู่นานงานยิ่งเพิ่ม" เวลา ๒๔ ชั่วโมงมันไม่เพียงพอที่จะสะสางงานเสียแล้ว นี่แหละหนา ถึงถูกแขวะมาว่า "ทำงานจนลืมครอบครัว" ให้นึกถึงภาพยนต์เรื่อง แท็กซี่ระเบิดภาคก่อน ตัวเอกของเรื่อง ๒ ตัวคือ หนุ่มหนึ่งเป็นคนขับแท็กซี่ ดูแลเอาใจใส่แท็กซี่จนลืมนึกไปว่ามีคนรักอยู่ อีกหนุ่มหนึ่งเป็นตำรวจ ทำงานจนลืมไปว่า เมียท้องแปดเดือนแล้ว....อะไรกันนี่ คนอย่างนี้ก็มีด้วย อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงน่าจะไม่ใช่เหมือนภาพยนต์
หลวงพ่อสอนว่า งานคือชีวิต ชีวิตคืองาน...คำว่า งานในความหมายนี้ คือหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ควรแบ่งชีวิตให้กับหน้าที่ในความรับผิดชอบตามความจำเป็น ไม่ควรเอาชีวิตไปทำอะไรทีเสียหาย หรือเสียเวลาให้กับเรื่องไร้สาระ เรื่องอันจะส่งผลเป็นความเดือดร้อนในภายหลัง
เปิดภาคเรียนใหม่นี้ คงต้องพยายามทำตัวให้ใหม่ๆสักหน่อย ๕ ปีผ่านไปมีเรื่องราวที่ไม่ดีจำนวนหนึ่งเข้ามา ลืมมันไปเสียเถอะ จงคิดเสียว่าเราเพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ คงมีอะไรให้น่าตื่นเต้นอีกแน่ๆ
ขอบคุณครับสำหรับชีวิตที่ได้เกิดมาแม้จะเป็นฉากแสดงของบทละคนบทหนึ่ง
สวัสดีค่ะอาจารย์
สวัสดีครับ K.sister
สวัสดีเจ้าค่ะ