เนื้อเรื่องตอนที่ 3 ปัญหาใหม่ และการมะงุมมะงาหรา
หลังจากอิเหนากับบุษบาเข้าใจกันแล้ว
ก็เกิดความยุ่งยากใหม่ขึ้นกับตัวละครอีก
เพราะองค์ปะตาระกาหลาทรงพิโรธอิเหนา
ที่ก่อเหตุวุ่นวายมาตลอด
จึงดลบันดาลให้ลมหอบเอานางบุษบาพร้อมพี่เลี้ยงสองนาง
ไปตกในเมืองปะมอตัน
ขณะที่อิเหนาเข้าไปในเมืองดาหาเพื่อแก้สงสัย
อิเหนากลับมาไม่พบบุษบาก็ปลอมองค์เป็นปันหยีออกตามหา
พร้อมกับนำวิยะดาไปด้วยกับตน โดยให้ปลอมเป็นปันหยีชื่อเกนหลงหนึ่งหรัด
ผ่านเมืองใดก็รบพุ่งเอาไปเป็นเมืองขึ้นไปตลอดรายทาง จนถึงเมืองกาหลัง
จึงได้เข้าไปขอพักอาศัยอยู่ด้วย
ส่วนบุษบา หลังจากลมหอบไปยังเมืองปะมอตันแล้ว องค์ปะตาระกาหลา
ก็สำแดงตนบอกเล่า เรื่องราวให้ทราบว่า นี่เป็นการลงโทษอิเหนา
ทั้งสองจะต้องผจญความลำบากอยู่ระยะหนึ่ง
จึงจะได้พบกันองค์ปะตาระกาหลาได้แปลงตัวบุษบาให้เป็นชาย
มอบกริชจารึกพระนามว่ามิสาอุณากรรณ ให้มีความสามารถทางการรบ
หลังจากนั้น อุณากรรณเดินทางเข้าเมืองปะมอตัน
ท้าวปะมอตันรับเลี้ยงไว้เป็นโอรส
ต่อมาอุณากรรณกับพี่เลี้ยงก็ยกพลออกเดินทางเพื่อตามหาอิเหนา
ผ่านเมืองใดเจ้าเมืองไม่อ่อนน้อมก็รบพุ่งได้ชัยชนะหลายเมือง
จนกระทั่งถึงเมืองกาหลัง ได้พบกับปันหยี
ทั้งสองฝ่ายต่างก็แคลงใจว่าอีกฝ่ายคือบุคคลที่ตนเที่ยวหา
แต่ก็ไม่กล้าเปิดเผยตัว ได้แต่สังเกตและคุมเชิงกันอยู่
ที่เมืองกาหลัง ปันหยีและอุณากรรณได้เข้าอ่อนน้อมต่อท้าวกาหลัง
ท้าวกาหลังก็ทรงโปรดทั้งสองเหมือนโอรส
ต่อมามีศึกมาประชิดเมืองเพราะท้าวกาหลังไม่ยอมยกธิดา
คือสะการะหนึ่งหรัดให้
ปันหยีและอุณากรรณอาสารบและสามารถชนะศึกได้อย่างง่ายดาย
เหตุการณ์นี้ทำให้ปันหยี
อุณากรรณและสะการะหนึ่งหรัดใกล้ชิดสนิดสนมกันมากยิ่งขึ้น
ทำให้อุณากรรณกลัวความจะแตกว่านางเป็นหญิง
กอปรกับต้องการติดตามหาอิเหนาต่อไป
จึงทูลลาท้าวกาหลังกลับเมืองปะมอตัน
แต่นางออกอุบายให้ทหารกลับเมืองตามลำพัง
ส่วนนางกับพี่เลี้ยงหนีไปบวชชี (แอหนัง)
เพื่อหาทางหลบหนีการตามพัวพันของปันหยี ฝ่ายสียะตราแห่งเมืองดาหา
ครั้นทำพิธีโสกันต์เสร็จก็แอบหนีพระบิดาปลอมตัวเป็นปัจจุเหร็จโจรป่าชื่อ
ย่าหรัน ออกเดินทางหาอิเหนาและบุษบา
องค์ปะตาระกาหลาแปลงเป็นนกยูงมาล่อย่าหรันไปถึงเมืองกาหลังได้เข้าเฝ้าและพำนักอยู่ในเมือง
ต่อมาย่าหรันและปันหยีเกิดต่อสู้กัน เพราะเกนหลงหนึ่งหรัดเป็น ต้นเหตุ
ในที่สุดอิเหนาและสียะตราก็จำกันได้
เพราะมองเห็นกริชของกันและกัน
ต่อมาปันหยีทราบว่ามีแอหนังบวชบนภูเขา รูปงามละม้ายบุษบา จึงออกอุบายปลอมตัวเป็นเทวดาหลอกนางมายังเมืองกาหลัง เมื่อปันหยีพิศดู
นางก็ยิ่งละม้ายนางบุษบา
แต่พอเห็นกริชของนาง ชื่ออุณากรรณ ก็เข้าใจว่านางเป็นชายาของอุณากรรณ
ฝ่ายพี่เลี้ยงของปันหยีคิดเล่นหนังทดสอบแอหนัง
โดยผูกเรื่องตามชีวิตจริงของอิเหนากับบุษบาทุก ๆ ตอน
นางแอหนังฟังเรื่องราวก็ร้องไห้คร่ำครวญ ทั้งสองฝ่ายจึงจำกันได้
อิเหนาจึงให้นางสึกจากชี ระเด่นทั้งสี่ คือ อิเหนา บุษบา สียะตรา
และวิยะดา
จึงพบกันและจำกันได้หลังจากดั้นด้นติดตามกันโดยปราศจากทิศทาง
(มะงุมมะงาหรา) เสียนาน
เนื้อเรื่องตอนที่ 4 ปิดเรื่อง
กษัตริย์วงศ์เทวาได้มาพร้อมกัน
ณ เมืองกาหลัง หลังจากทราบเรื่องและเข้าใจกันดีแล้ว
จึงได้มีการ
อภิเษกสมรสกันขึ้นระหว่างคู่ตุนาหงันในวงศ์เทวา
พร้อมทั้งอภิเษกธิดาระตูอื่น ๆ เป็นมเหสีกษัตริย์วงศ์เทวาจนครบตำแหน่ง
เช่น อิเหนาอภิเษกกับบุษบาและจินตะหรา
โดยบุษบาเป็นประไหมสุหรีฝ่ายซ้าย จินตะหราเป็นประไหมสุหรีฝ่ายขวา
สะการะวาตีเป็นมะเดหวีฝ่ายขวา มาหยารัศมีเป็นมะเดหวีฝ่ายซ้าย
บุษบาวิลิศเป็นมะโตฝ่ายขวา บุษบากันจะหนาเป็นมะโตฝ่ายซ้าย
ระหนากะระติกาเป็นลิกูฝ่ายขวา อรสานารีเป็นลิกูฝ่ายซ้าย
สุหรันกันจาส่าหรี เป็นเหมาหลาหงีฝ่ายขวา
หงยาหยาเป็นเหมาหลาหงีฝ่ายซ้าย สียะตราอภิเษกกับวิยะดา
สุหรานากงกับสะการะหนึ่งหรัด กะหรัดตะปาตีกับบุษบารากา
สุหรานากงครองเมืองสิงหัดส่าหรี
กะหรัดตะปาตีครองเมืองกาหลัง.
เรื่องย่ออิเหนา ( ตอนศึกกะหมังกุหนิง )
ท้าวกะหมังกุหนิงกับประไหมสุหรีมีโอรสชื่อ วิหยาสะกำ ในคราวที่วิหยาสะกำออกประพาสป่า องค์ปะตาระกาหลาได้แปลงร่างเป็นกวางทอง
เพื่อล่อวิหยาสะกำมายังต้นไทรที่พระองค์ซ่อนรูปวาดบุษบาไว้ เมื่อวิหยาสะกำเห็นรูปวาดของบุษบาก็หลงรักนางจนคลั่ง ท้าวกะหมังกุหนิงสืบทราบว่า
นางคือบุษบา ธิดาท้าวดาหาที่ตอนนี้เป็นคู่หมั้นของจรกาแล้ว แต่ด้วยความรักและสงสารลูกจึงส่งทูตไปสู่ขอบุษบาให้วิหยาสะกำแต่เมื่อท้าวดาหา
ปฏิเสธท้าวกะหมังกุหนิงจึงสั่งยกทัพมาเมืองดาหาเพื่อจะชิงตัวบุษบา ท้าวดาหาส่งพระราชสาส์นไปขอความช่วยเหลือจากท้าวกุเรปัน (พี่ชาย)
ท้าวกาหลังและท้าวสิงหัดส่าหรี (น้องชาย) และจรกาให้ยกทัพมา
ช่วยกันรบป้องกันเมืองดาหา เมื่อท้าวกุเรปันได้รับข่าวแล้วจึงให้ทหารนำจดหมายไปให้อิเหนาที่อยู่เมืองหมันหยา(เมืองจินตหรา) อิเหนาไม่อยากไป
แต่กลัวพ่อโกรธเลยต้องไป ในที่สุดอิเหนาก็ยกทัพมากับกะหรัดตะปาตี (พี่ชายคนละแม่) ทำให้ท้าวดาหาดีใจมากเพราะเชื่อมั่นว่าอิเหนาต้อง
รบชนะแต่ด้วยความที่อิเหนาเคยทำให้ท้าวดาหาโกรธเรื่องปฏิเสธการแต่งงานกับบุษบาจนทำให้เกิดเรื่องขึ้นมาอิเหนาจึงตัดสินใจสู้รบให้ชนะก่อน
แล้วค่อยเข้าไปเฝ้าท้าวดาหา
ในที่สุดเมื่อท้าวกะหมังกุหนิงยกทัพมาใกล้ดาหาทำให้เกิดการต่อสู้กับกองทัพของอิเหนา ในที่สุดสังคามาระตาก็เป็นผู้ฆ่าวิหยาสะกำ
ส่วนอิเหนาเป็นผู้ฆ่าท้าวกะหมังกุหนิงตายในสนามรบด้วยกริชเทวา หลังจากนั้นท้าวปาหยันกับท้าวประหมัน (พี่กับน้องของท้าวกะหมังกุหนิง)
ก็ยอมอ่อนน้อมต่ออิเหนา อิเหนาจึงอนุญาตให้ระตูนำพระศพ ของทั้งสองกลับไปทำพิธีตามพระราชประเพณี
ท้าวปะตาระกาหลา |
ท้าวกุเรปัน |
ท้าวดาหา |
ท้าวกาหลัง |
ท้าวสิงหัดส่าหรี |
นิหลาอระตา |
ลิกู (มเหสีที่4) |
ดาหราวตี |
สการะหนึ่งหรัด |
สุหรานากง |
จินดาส่าหรี |
อิเหนา (ปันหยี) + บุษบา บุษบา |
วิยะดา + สียะตรา |
กะหรัดตาปาตี |
บุษบา |
สียะตรา |
ตำแหน่งมเหสี ๕ พระองค์
ประไหมสุหรี มะเดหวี มะโต ลิกู เหมาหลาหงี
ตำแหน่งพระชายาของอิเหนา
จินตะหราวาตี ประไหมสุหรีฝ่ายขวา
บุษบา อัครชายาฝ่ายซ้าย
สการะวาตี มะเดหวีฝ่ายขวา
มาหยารัศมี มะเดหวีฝ่ายซ้าย
บุษบาวิลิศ มะโตฝ่ายขวา
บุษบากันจะหนา มะโตฝ่ายซ้าย
กะระติกา ลิกูฝ่ายขวา
อรสานารี ลิกูฝ่ายซ้าย
สุหรันกันจาส่าหรี เหมาหลาหงีฝ่ายขวา
หงยาหยา เหมาหลาหงีฝ่ายซ้าย
ขอบคุณข้อมูลแต่ไม่มีประโยชน์เพราะไม่ตรงกับสิ่งที่หา