ชีวิตหยุดนิ่ง


ความรู้สึกหนึ่ง เมื่อยามลุกตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าของชีวิต ได้มีโอกาสมองเห็นและลำดับความ ถึงวันวัยในความเป็นเด็ก ขณะที่ยังนอนมองมุ้งและเห็นแสงแรกของวัน มีเพียงความเงียบ ความสงบ และความสุขบางอย่าง ในแต่ละสิ่งอันเรียบง่ายของชีวิต ภายใต้ความเข้าใจถึงชีวิตที่ไม่ได้มากมายนัก จึงมีเพียงความคิดคำนึงในแต่ละวันวัยที่ผ่านเลยไป

ชีวิตหยุดนิ่ง

อ้างอิง - ภาพ http://burabhawayu.multiply.com/photos

ท่ามกลางโลก

ซึ่งเคลื่อนไหวไปมา

ชีวิตมักมีกลไกประหลาด

เพื่อคอยบอกกล่าวบอกสอนต่อสิ่งมีชีวิต บ้างก็ทางตรงบ้างก็อ้อมค้อม ให้เรียนรู้ถึงภาวะหยุดนิ่งหยุดพัก หรือกระทั่งนำพาความสงบสู่ชีวิต บ่อยครั้งที่ผู้คนต้องเรียนรู้ความจริง นอกเหนือจากการเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลง พัดผ่าน หรือเคลื่อนที่ ไปสู่ความจริงอันไม่มากมาย ด้วยการหยุดนิ่ง

นอกเหนือการนอนหลับเอาแรง

การเอาสติเข้าพักพิง

กระทั่งอิงแอบ

แนบให้ชิดกับความนิ่ง เหมือนเป็นเครื่องกำกับความเข้าใจในการมองโลกมองชีวิต สมณะอาวุโสแห่งแดนเวียด ท่านติช นัท ฮันห์ เคยกล่าวถึงแง่งามแห่งชีวิต ภายใต้ความเข้าใจมุมมองสมาธิ ว่ามิแตกต่างจากการนอนหลับของร่างกาย แต่การมีสติแลสมาธิ เสมือนการนอนหลับของจิตใจ

ยิ่งได้กระทำสม่ำเสมอ

ยิ่งเสมือนได้พักผ่อนอารมณ์จิตใจ

และเข้าไปสู่ส่วนลึกแห่งการเรียนรู้เพื่อเริ่มต้น

มากกว่ายังคงวิ่งวนไปท่ามกลางความวุ่นวาย ด้วยการเรียนรู้กลไกสำคัญแห่งชีวิต  กลไกของสิ่งมีชีวิต ในการเท่าทันความเปลี่ยนแปลง และในท่ามกลางความมากมายของหัวใจ เหมือนคำกล่าวจากกิจวัตรประจำวันของผู้คน เมื่อยามเช้าแรกตื่น หากเราได้โอกาสสังเกตุชีวิตก่อนความเร่งรีบ เราจะพบความจริงดังกล่าวกระซิบเพียงแผ่วเบา

แรกยามตื่นขึ้นของชีวิต มักเป็นภาวะประหลาด

ยิ่งได้นอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ

เราจะยิ่งเข้าใจความจริงนั้น

ความเข้าใจต่อเสียง ต่อแสง ต่อการรับรู้และตระหนัก การมีสมาธิหรือกระทั่งนั่งทำงานได้อย่างเข้าใจแจ่มชัด เหมือนคำบอกสอนเรื่องการอ่านหนังสือ ที่พยายามนำเสนอชีวิตว่า หากยามเช้าเราได้ตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือ เราจะเข้าใจสาระและเนื้อหาของการบอกกล่าว อาจจะมากและรวดเร็วกว่าโมงยามปกติ

หรือกระทั่งกิจวัตร

ของนักเขียนประดามีหลายคน

ที่เรียนรู้พลังอันน่าสนใจของยามตื่น

แรกตื่นขึ้นเหมือนแรกที่สมอง เปิดหน้าต่างแห่งความเข้าใจ ปล่อยอารมณ์ความรู้สึก สติและความเข้าใจ สู่การถ่ายทอดบันทึกกระทั่งเรียนรู้ ในแต่ละตัวอักษรและแต่ละเรื่องราวอันโลดแล่น หลายคนสรุปพลังของการตื่นยามเช้า เพื่อขึ้นมานั่งเขียนความจริงในสิ่งที่มอง

 

 

ชีวิตอาจเลียนแบบความจริงแห่งการหยุดพัก

ด้วยการมองหาโอกาสแห่งการหลบ

คอยเลี่ยงไปอยู่กลางความสงบ

หรือกระทั่งนำพาชีวิต ให้ก้าวไปบนหนทางแห่งการเตือนตน จะเข้าใจมากเข้าใจน้อย ก็ขอเพียงให้ค่อยค่อยเริ่มต้น และเรียนรู้จริตภายในตัวเอง ว่ามีห้วงอารมณ์ใดบ้าง ที่จะสามารถสร้างความเข้าใจและการเรียนรู้ ภายใต้ตัวตนเบื้องลึก หรือกระทั่งหยิบจับสิ่งเหล่านั้นให้เป็นกิจวัตร

วงจรชีวิต

กระทั่งวงจรของสิ่งมีชีวิต

เหมือนเป็นวงกลมแห่งความเข้าใจ

ให้ชีวิตได้เริ่มต้น ก้าวย่าง และจบสิ้น ในแต่ละลมหายใจแต่ละวันคืนของชีวิต บ้างกล่าวว่า ความจริงของโลกวงกลม หนทางแห่งทางเดินรอบโบสถ์ หนทางแห่งคติ คตะ คต หรือคเตของชีวิต เสมือนเป็นหนึ่งปริศนาซึ่งโลกธรรม ได้เปิดความเข้าใจในการเรียนรู้ว่า ชีวิตคือการเดินทางบนหนทางซึ่งไม่รู้จักจบจักสิ้น

แง่งามแห่งความเข้าใจในหนทาง

ซึ่งวนเวียนและวกวนไปมา

เป็นวงกลมชีวิต

คือทางแห่งความเข้าใจสองประการ ว่าเข้าใจในหนทางวงกลมอันไม่จบสิ้นอย่างไร หรือเข้าใจในหนทางอันไม่จบสิ้น ด้วยความปรารถนาจะก้าวผ่านหนทางเหล่านั้น ต้องการก้าวไปให้พ้นจากห้วงน้ำใหญ่ ที่เราทุกคนต่างต้องว่ายวนและเริ่มต้นใหม่ให้เส้นทางอันไม่รู้จักจบจักสิ้น

บ้างว่าหนทางนี้

ยากลำบากและลึกล้ำอย่างที่สุด

วงกลมวงเล็กอาจเป็นเพียงเข้าใจโลกเบื้องหน้า

วงกลมวงใหญ่เพื่อปรารถนาความหลุดพ้น อาจต้องอาศัยพลังที่มากมายกว่านัก จะเข้าใจเบื้องต้นหรือเบื้องลึก ก็เสมือนหนึ่งเป็นคำตอบที่ดีงามแทบทั้งสิ้น เข้าใจมากเข้าใจน้อยไม่สำคัญ สำคัญคือความตระหนัก ในความจริงแห่งการเริ่มต้นเหล่านั้น

ในท่ามกลางความหมายของการหลับใหล

การตื่นขึ้นของร่างกาย

ยังอาจไม่เท่า

กับการตื่นขึ้นของชีวิต ในแต่ละรุ่งอรุณของจิตวิญญาณ เฉกเช่นที่เราเข้าใจในความแจ่มใส และความงัวเงียของยามเช้า รับรู้ได้ดีในทุกครั้งที่ยังคงอยากหลับใหล อ่อนละมุนละไมไปกับที่นอน ผ้าปูที่นอน และชีวิตแห่งการนอนอันรัญจวนใจ โหยหาและอาลัยที่ไม่อยากตื่น ไม่อยากแม้เพียงลุกขึ้น จากสถานหลับนอนอันอาวรณ์

แต่สุดท้ายชีวิตก็ต้องตื่น

เมื่อการนอนเต็มอิ่ม หรือบังคับตนให้ตื่น

สำหรับชีวิตที่มีภาระต้องตื่น อาจไม่เท่าตื่นแบบเต็มอิ่ม

ตื่นด้วยความรู้สึกเต็มที่ และหมดอาลัยกับที่นอนอันอ่อนนุ่ม เพื่อปรารถนาก้าวย่างในการเริ่มตา ลืมตามองโลกมองผู้คนมองชีวิต บ่อยครั้งที่ชีวิตเราอาจไม่ต้องการอะไรไปมากกว่า การตื่นนอนอันสดใสสดชื่น เพื่อสูดกลิ่นไออันหอมหวานของชีวิต ยามตื่นอย่างเต็มตื่น

ไม่ว่าห้วงวิญญาณยามตื่นนอน หรือ อารมณ์ชีวิตยามตื่น

การตื่นขึ้นของร่างกาย แลจิตวิญญาณ

ล้วนงดงามเสมอ

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 184232เขียนเมื่อ 24 พฤษภาคม 2008 13:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท