อนัตตา ~ ศรัทธา ?


บนโลกกลมๆ ใบนี้ ฉันได้เรียนรู้ว่า...
ไม่มีอะไรที่เป็นของเรา ทุกสิ่งเกิดขี้นแปรเปลี่ยนไปตามเหตุปัจจัย ยึดมั่นในสิ่งใดก็ทุกข์ด้วยสิ่งนั้น ..... เป็นจริงตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันความรู้ทั้งสิ้นนี้ ความรู้อันเกิดจากญาณ นี้ประเสริฐสุด คำสอนทั้งหลาย คำสอนของพระสัมพุทธเจ้าประเสิรฐสุด ... เราเืชื่ออย่างนี้

พูดถึงทุกข์ ก็นึกถึงคำที่เคยอ่านมา
"ทกข์มี เพราะยึด ทุกข์ยืด เพราะอยาก ทุกข์มาก เพราะพลอย ทุกข์น้อย เพราะหยุด ทุกข์หลุด เพราะปล่อย" จึงไปค้นที่มาอีกที พบว่า หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง ท่านได้รจนาไว้

ธรรมะนี่ ยิ่งพิจารณา ยิ่งเห็นถึงความประณีต ความอ่อนโยน ความพิถีพิถัน ความเป็นจริง ...
เห็นจริงตามบทสวดมนต์แปลที่บอกว่า คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไพเราะในเบื้องต้น ไพเราะในท่ามกลาง และไพเราะในที่สุด .... ด้วยเหตุนี้กระมัง จึงทำให้ฉันหลงไหลในธรรมะ

เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ยังคงเวียนว่ายในวัฏสงสาร
เกิดมาเพื่อเรียนรู้ ทุกก้าวย่างของชีวิต ค้นหาตัวตน เพื่อรู้จักตน และ ไปสู่สิ่งที่ดีที่สุด ตามลำดับขั้นตอน.

ชีวิตนี้เหนื่อยนะ .... ถามตัวเอง เห็นทุกข์มั้ย?
ทุกข์นี้มีทุกขณะ .... แต่ถ้าไม่พิจารณาก็ไม่เห็นนะ
บางคนอาจเห็นชีวิตมีความสุข ... หากเราคิดให้สุขมันก็สุข เพราะทุกอย่างก็เกิดจากความคิดนี่แหละ
แต่หากต้องการปัญญา ก็ต้องพิจารณาให้เห็นความจริง...ความจริงที่เต็มไปด้วยทุกข์ ทุกข์ด้วยความไม่เที่ยง ทุกข์ด้วยความแปรปรวน ทุกข์ด้วยความไม่สมปรารถนา ทุกข์ด้วยไม่สามารถบังคับควบคุมให้เป็นไปตามปรารถนา
ฯลฯ ตามเหตุปัจจัย

แตทุกข์มีให้กำหนดรู้ เพื่อที่จะได้กำหนดละเหตุแห่งทุกข์
ดังนั้น ทุกข์ไม่ได้มีมาให้เรากลุ้ม ... หากกลุ้มแล้ว ความคิดก็จะตัน ปัญญาไม่เกิด ดับทุกข์ไม่ได้ตามความเป็นจริง

ตั้งใจว่า จะเขียนเรื่อง "อนัตตา" ด้วยเหตุที่ว่า เรื่องนี้เราได้เห็นประจักษ์มากับตนเอง
หลายครั้งหลายหน จนคิดว่า พอจะอนุมานสรุปได้...จึงเป็นเหตุให้ได้บันทึกเรื่องราวคราวนี้
ว่า อนัตตา. คือ ไม่มีตัวตน ไม่มีอะไรเป็นของเราที่จะยึดมั่นถือมั่น
หากเราเห็นอนัตตา ไม่ถือมั่นว่า ของฉัน ของเรา ของเขา .... เราก็จะปล่อยวางได้
สังเกตมั้ย สิ่งใดที่เราเห็นว่า ทุกข์ เพราะมันเกี่ยวข้องกับเรา
เมื่อไร ไม่เกี่ยวข้องกับเรา เราก็ไม่เห็นว่ามันทุกข์
ภัยต่างๆ แม้ว่า มันจะอยู่ใก้ลเราทุกขณะ แต่เมื่อเราไม่เห็น ไม่คิดว่าจะเกิดกับเรา เราก็อยู่ได้ ไม่ทุกข์

ข่าวสึนามิผ่านไป มาถึงพายุพัดกวาดคนที่พม่าไปหลายชีวิตนับแสน แม้จะเป็นเรื่องราวที่ค่อยข้างสะเทือนขวัญมากก็ตาม
แต่มันก็คงเป็นเหตุที่ไม่มากพอให้เราทุกข์ อาจมีแค่เห็นใจ เสียใจ กลัว กังวลบ้าง
แต่เมื่อไรที่สิ่งนั้นมาเกี่ยวข้องกับตนเอง หรือ คนที่เรารัก แม้ได้รับบาดเจ็บแม้เพียงน้อย เราก็ทุกข์ใจมากได้....ด้วยเหตุอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่้เพราะ เราคิดว่าของเรา ญาติเรา ตัวเราของเรา หรือ ตัวกูของกู นี่ล่ะ... ลองดูนะคะ พิสูจน์กันดูสิ จริงหรือไม่
ไม่ลองไม่รู้ ... ลองทำลายตัวกูของกูดูสิ ... คุณทำได้ หากคุณตั้งใจและเต็มใจที่จะทำมัน

สุดท้าย ได้ผลอย่างไรก็ยอมรับตามความเป็นจริง... ถือความจริงเป็นหลัก ความจริงเป็นใหญ่


นอกจากนี้ฉันกำลังเรียนรู้... ฉันเชื่อว่า "ศรัทธาเมื่อตั้งมั่นแล้ว ย่อมยังประโยชน์ให้สำเร็จ"
ฉันจึง เพาะบ่มศรัทธาของตนไว้ในใจ...พร้อมกระทำมันอย่างไม่ลดละ แม้จะเจออุปสรรค ก็ต้องอาศัยความอดทน
แม้ว่าฝั่งที่จะไปยังมองไม่เห็น ก็อาศัยศรัทธาที่มี และ ความเพียรของตน ด้วยหวังว่า หากเราไม่ถอยความเพียรแล้ว
ศรัทธาที่ตั้งมั่นของเราจะยังประโยชน์ให้สำเร็จ....

ชีวิต...กว่าจะข้ามผ่านแต่ละเรื่องราว กว่าจะเรียนรู้แต่ละสิ่งแต่ละอย่าง เราต้องใช้ชีวิตทั้งชีวิตเป็นเครื่องพิสูจน์
ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยไม่ต้องกระทำ ทุกอย่างเกิดการจากการฝึก การทำสิ่งใดซ้ำๆ บ่อยๆ ก็จะเกิดเป็นความเคยชิน
แล้วเป็นนิสัย อุปนิสัย... เมื่อชินแล้ว ชำนาญแล้ว สิ่งที่เรานึกว่ายาก มันก็จะไม่ยากอีกต่อไป
ความง่ายหรือยากของสิ่งใดนั้นจึงอยู่ที่ว่าเราทำมันเป็น ทำมันได้หรือยัง เมื่อยังไม่ได้ ยังไม่เห็น มันก็ยังยากอยู่ แต่เมื่อทำได้แล้ว รู้แล้ว เห็นแล้ว สิ่งนั้นมันก็จะง่ายสำหรับเรา

จำไว้ว่า จงใช้ชีวิตทุกก้าวย่างด้วยความไม่ประมาท มีสิตระลึกรู้กาย ลมหายใจ (สติปัฏฐานสี่ - กาย เวทนา จิต ธรรม)

ขอให้ทุกคนมีความสุข....อยู่กับปัจจุบัน กับลมหายใจกันนะคะ

คำสำคัญ (Tags): #ข้อคิด
หมายเลขบันทึก: 182105เขียนเมื่อ 13 พฤษภาคม 2008 14:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท