BM.chaiwut
พระมหาชัยวุธ โภชนุกูล ฉายา ฐานุตฺตโม

พลี พลิกรรม และพาลี


พลี พลิกรรม และพาลี

ตอนเรียนบาลีประโยค ๔ เมื่อแปลคัมภีร์มังคลัตถทีปนีถึงเรื่องพลีกรรม ๕ ประการ ผู้เขียนสงสัยศัพท์นี้อย่างยิ่ง แต่ก็เก็บความสงสัยประเด็นนี้แล้วคิดมาเกือบยี่สิบปี...  คืนนี้ มีโอกาสไปแสดงธรรมงานศพ ตั้งใจว่าจะเทศน์เรื่องนี้  ก่อนไปเทศน์ก็คิดๆ อีกครั้ง บังเอิญคิดออก จึงนำไปเทศน์  แล้วก็ถือโอกาสนำมาเล่าที่นี้อีกครั้ง

เรื่องพลิกรรม ๕ ประการนี้ อยู่ในอาทิยสูตร และปัตตกรรมสูตร เป็นต้น... สำหรับผู้สนใจ ลองอ่านจากพระไตรปิฏกโดยตรงได้ที่...

 

คำว่า พลี และ พลิกรรม นี้  ภาษาไทยเรานิยมแปลทับศัพท์ โดยบาลีเดิมใช้ พลิ (สระอิ) แต่พอแปลงมาเป็นไทยนิยมใช้ พลี (สระอี) ขณะที่คำว่า พลิกรรม ซึ่งเป็นคำสมาส นิยมใช้ตามบาลีเดิม... แต่ถ้าไม่แปลทับศัพท์ ก็มักจะแปลรวบความเอาเลย ดังนี้ คือ

  • ญาติพลิ (ญาติ+พลิ)            = ญาติพลี                       = สงเคราะห์ญาติ, บำรุงญาติ. ช่วยเหลือญาติ
  • อติถิพลิ (อติถิ+พลิ)             =  (ไม่นิยมแปลทับศัพท์)    = ต้อนรับแขก
  • ปุพพเปตพลิ (ปุพพเปต+พลิ) = บุพพเปตพลี                  = ทำบุญอุทิศใ้ห้ผู้ล่วงลับไปแล้ว
  • ราชพลิ (ราช+พลิ)               = ราชพลี                        = เสียภาษี,
  • เทวตาพลิ (เทวตา+พลิ)        = เทวดาพลี                     = ทำบุญอุทิศให้เทวดา, บูชาเทวดา

จะเห็นได้ว่า คำว่า พลิ หรือ พลี เมื่อแปลออกมามีนัยหลากหลาย และเป็นการยากที่จะเข้าใจได้...

ส่วนคำว่า พลิกรรม แปลว่า กระทำซึ่งการพลี ซึ่งก็ได้แก่พลี ๕ ประการนี้เอง เพียงแต่บางครั้งเรียกสั้นๆ ว่า พลี ๕ ประการ บางครั้งก็เรียกว่า พลิกรรม ๕ ประการ ส่วนเนื้อหาก็ไม่แตกต่างกัน...

..........

ปัญหาก็คือคำว่า พลิ หรือ พลี นี้เอง โดยผู้เขียนมามั่วอยู่กับคำว่า พล หรือ พละ ซึ่งแปลว่า กำลัง... และถ้ามองตามรูปศัพท์แล้ววิเคราะห์ตามตัทธิตก็จะได้ว่า

  • พลํ ตสฺสา อตฺถีติ พลิ
  • กำลัง ของกิริยานั้น มีอยู่ ดังนั้น กิริยานั้น ชื่อว่าพลี (มีกำลัง)

 

และเมื่อ พลิ แปลว่า มีกำลัง... แต่ทำไม ? ญาติพลิ จึงมาแปลว่า สงเคราะห์ญาติ ช่วยเหลือญาติ บำรุงญาติ...  รู้สึกว่าจะไม่เกี่ยวกันเลย  ! ! ! !  .... และนี้ คือปัญหาที่ผู้เขียนคิดมาเกือบยี่สิบปี จะอธิบายให้เกี่ยวกันอย่างไร ? .... แต่วันนี้ คิดออกแล้ว (รู้สึกปลื้มใจมาก 5 5 5...) และคืนนี้ นำไปขยายความบนธัมมาสน์ทำนองว่า...

ญาติพลี คือ กิริยาที่มีกำลังเพราะญาติ ขยายความว่า ถ้าเราช่วยเหลือสงเคราะห์ญาติพี่น้องแล้ว เราก็จะมีกำลังยิ่งขึ้น เช่น ได้รับการยกย่องสรรเสริญและเป็นที่รักของญาติ คนภายนอกก็อาจเกรงใจเมื่อรู้ว่าเรามีญาติพี่น้องเยอะ และการมีญาติพี่น้องเยอะก็ทำให้เราสะดวกยิ่งขึ้นในคราวที่ต้องการความช่วยเหลือบางอย่าง เป็นต้น

อติถิพลี คือ กิริยาที่มีกำลังเพราะแขก ขยายความว่า ถ้าเราต้อนรับผู้มาเยือนด้วยไมตรีจิตร  กล่าวคือ ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส  กล่าวถ้อยคำอันไพเราะชวนฟัง  ให้ข้าวให้น้า หรือที่พัก เป็นต้น ตามสมควรแล้ว  ผู้มาเยือนก็จะซึ้งในน้ำใจของเรา ก็อาจช่วยเหลือเราบ้างในอนาคตตามโอกาส หรืออย่างน้อยก็จะนำคุณของเราไปสรรเสริญในที่ต่างๆ...

บุพพเปตพลี คือ กิริยามี่มีกำลังเพราะบรรพชนผู้ล่วงลับไปแล้ว ขยายความว่า ถ้าเราทำบุญอุทิศไปให้บุรพชนผู้ล่วงลับไปแล้ว เช่น พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย...  อย่างน้อยเราก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองที่ได้ทำบุญ  นั่นคือ  ทำให้มีสุขภาพจิตรที่ดี  ได้ชื่อว่าเป็นคนดีเพราะแสดงความกตัญญูกตเวที เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับลูกหลาน หรือสิ่งที่มองไม่เห็นก็คือ บุรพชนเหล่านั้น อาจคอยปกป้องเราในมุมลึกลับที่มองไม่เห็นหรือไม่สามารถอธิบายได้...

ราชพลี คือ กิริยาที่มีกำลังเพราะราชการ ขยายความว่า ถ้าเราเสียภาษีถูกต้องตามกฎหมาย และช่วยเหลือทางราชการตามโอกาส เราก็ย่อมไม่มีเวรภัยมาเบียดเบียนในภายหลังเพราะผิดกฎหมาย ได้รับความร่วมมือจากทางราชการ หรืออาจได้รับการยกย่องเป็นเกียรติบัตรหรือเหรียญตราบางอย่างจากทางราชการ เป็นต้น

ทวดาพลี คือ กิริยาที่มีกำลังเพราะเทวดา ขยายความว่า ถ้าเราบูชาเทวดา ทำบุญอุทิศให้ต่อเทวดา เช่น พระภูมิเจ้าที่ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในท้องถิ่นแล้ว เราก็อาจเป็นอยู่สบาย เพราะถือว่าทำตามประเพณี ซึ่งย่อมเป็นอยู่ง่ายกว่าการฝืนประเพณี และเทวดาเหล่านั้น อาจคอยปกป้อง คุ้มครอง ช่วยเหลือบางสิ่งบางอย่าง ในโลกลึกลับที่ไม่อาจใช้เหตุผลอธิบายได้...

สรุปว่า ถ้าเราทำพลีกรรมเหล่านี้แล้ว ก็จะทำให้เรามีกำลัง กล่าวคือ ก่อให้เกิดความมั่นคงในการดำเนินชีวิต เพราะเมื่อมีปัญหาก็อาจมีญาติ มิตร เทวดา หรือบุญเก่าคอยช่วยเหลือ...  ประมาณนี้

ย้ำอีกครั้งว่าอรรถาธิบายดังกล่าว ผู้เขียนเพิ่งคิดได้เองวันนี้ ไม่เคยพบจากคัมภีร์ใดๆ หรือได้ยินมาจากใครๆ ดังนั้น ผู้นำไปอ้างอิงต่อ ควรพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ (5 5 5...)

..........

อนึ่ง ลองเปิดคัมภีร์อภิธานัปปทีปิกาฎีกาดู ท่านว่า พลิ มาจาก พละ รากศัพท์ ใช้ในความหมายว่า บูชาและป้องกัน... และท่านอธิบายว่า คำว่า พลิ นี้ใช้ในความหมาย  ๓ ประการ กล่าวคือ

  • เครื่องเซ่นสรวง
  • บรรณาการ
  • อสูรหรือยักษ์

เฉพาะความหมายว่าอสูรหรือยักษ์นี้ ในภาษาไทยเราก็เห็นอยู่บ้างในร้อยกรองว่า พาลี (ไม่มีเวลาค้นหา ตัวอย่าง ใครจำได้ช่วยบอกบ้าง) โดยแผลงจาก พลิ เป็น พาลี เพื่อง่ายในการออกเสียง... ส่วนความหมายก็ตรงตัวว่า มีกำลัง นั่นก็คือ อสูรหรือยักษ์ย่อมมีกำลังมากเพราะมีร่างกายที่ใหญ่โต...

อีกอย่างหนึ่ง พาลี เป็นชื่อของลิงตัวหนึ่งในรามเกียรติ์ คงมุ่งหมายตามชื่อว่า ลิงตัวมีกำลังแข็งแรงยิ่งกว่าลิงทั่วๆ ไป...

 

คำสำคัญ (Tags): #พลิกรรม#พลี#พาลี
หมายเลขบันทึก: 182019เขียนเมื่อ 13 พฤษภาคม 2008 00:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 01:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

กราบนมัสการ พระคุณเจ้าค่ะ

      "บุพพเปตพลี คือ กิริยามี่มีกำลังเพราะบรรพชนผู้ล่วงลับไปแล้ว ขยายความว่า ถ้าเราทำบุญอุทิศไปให้บุรพชนผู้ล่วงลับไปแล้ว เช่น พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย...  อย่างน้อยเราก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองที่ได้ทำบุญ  นั่นคือ  ทำให้มีสุขภาพจิตรที่ดี  ได้ชื่อว่าเป็นคนดีเพราะแสดงความกตัญญูกตเวที เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับลูกหลาน หรือสิ่งที่มองไม่เห็นก็คือ บุรพชนเหล่านั้น อาจคอยปกป้องเราในมุมลึกลับที่มองไม่เห็นหรือไม่สามารถอธิบายได้..."

  • มาซึบซับ พระธรรม ตอนเช้า อากาศดี ค่ะ ชอบอยู่แล้วค่ะ
  • สนใจวรรคนี้เป็นพิเศษ ค่ะ บุพพเปตพลี
  • เพราะกำลังจะวางแผนในการทำอุทิศส่วนกุศลไปให้บุพกาลีที่ล่วงลับไปแล้ว 
  • คงภาวนาให้ได้จัดขึ้นภายในปีนี้หรือปีหน้า ค่ะ
  • ส่วนคำว่า "พลี" โดยส่วนตัว นึกว่า หมายถึง "ผู้เสียสละ"
  • ไม่ทราบว่า ถูกหรือไม่ อย่างไร เช่น พลีชีพ เพื่อชาติ ประมาณ นั้นน่ะค่ะ
  • ขอบพระคุณค่ะ

P

บัวปริ่มน้ำ

 

  • อาจารย์ว่ามา ก็จะเล่าอีกประเด็นหนึ่งที่ขาดไป กล่าวคือ...

คำว่า พลี นี้ เรามักไปสับสนกับคำว่า free ซึ่งแปลว่า ให้เปล่าๆ ไม่คิดมูลค่า หรือ อิสระ เป็นต้น... เพราะ พลี และ free พ้องเสียงกันนั้นเอง

พลีชีพ เพื่อชาติ ถ้ามุ่งว่า freeชีพ ก็อาจหมายถึง ให้ชีวิตเพื่อชาติเปล่าๆ...

แต่ถ้า มุ่งหมายว่า พลี แปลว่า เครื่องเซ่นสรวง หรือ บรรณาการ แล้ว พลีชีพ เพื่อชาติ ก็อาจได้ความหมายว่า ใช้ชีวิตเป็นเครื่องเซ่นสรวงเพื่อชาติ หรือ ใช้ชีวิตเป็นบรรณาการเพื่อชาติ ... หรือคำไพเราะว่า อุทิศชิวิตเพื่อชาติ

และถ้าแปลว่า พลี ว่า มีกำลัง แล้ว พลีชีพ เพื่อชาติ ก็อาจหมายความว่า ใช้ชีวิตเพื่อให้ชาติมีกำลัง ... น่าจะทำนองนี้

............

P

รักชาติ ท. บ. พล ทหาร

 

  • อนุโมทนา

..........

เจริญพร

นมัสการพระคุณเจ้า

     ผมอ่านแล้วพอเข้าใจได้เป็นแบบนี้ไม่ทราบว่าจะตรงกับความต้องการของผู้สื่อหรือไม่ครับ

        อยากให้คนอื่นปฎิบัติตัวต่อเราอย่างไร.....เราก็ควรจะปฎิบัติกับเขาแบบนั้นก่อน

       " อยากให้  เขารักเรา....เราก็ต้อง  รักเขาก่อน

        อยากให้  เขาง้องอน....เราต้องอ่อน  งอนง้อเขา

 อยากให้  เขาทายทัก....เราต้องทัก ก่อนทักเรา

โสมนัส  สู่ใจเขา....มิตรภาพเรา  นิรันดร......"

                          กราบนมัสการ

                                    รพี

 

 

 

P

รพี กวีข้างถนน

 

ความเห็นของคุณโยมก็สอดคล้องกับประเด็นที่ขยายความไว้ เพียงแต่ความมุ่งหมายเท่านั้นที่แตกต่างกันไป...

ตามที่คุณโยมว่ามา น่าจะเป็นไปตามนัยพระบาลีว่า...

  • ทายโก ปฏิทานํ ผู้ให้ย่อมได้รับการให้ตอบ
  • ททมาโน ปิโย โหติ ผุ้ให้ย่อมเป็นที่รัก
  • ททํ มิตฺตานิ คนฺถติ ผู้ให้ย่อมผูกไมตรีไว้ได้

เจริญพร

 

ผมสงสัยคำว่า...พลิคามิน..ครับพระอาจารย์...

เป็นนามสกุลของคนไทยตระกูลหนึ่ง..เขาบอกว่าได้รับพระราชทานในสมัย..

รัชกาลที่ ๖ น่ะครับ...อยากจะรบกวนพระอาจารย์ช่วยอธิบายขยายความให้พอได้กระจ่างแจ้งในปัญญาบ้างน่ะครับ....

ว่าแปลว่าอย่างไร..มีความหมายอย่างไร..?..

กราบขอบพระคุณล่วงหน้าครับ....

ไม่มีรูป เขมทสฺสี

 

พลิคามิน ศัพท์นี้ไม่เคยเห็น ก็ได้เพียงแต่เดาไปตามที่พอจะนึกได้...

  • พลิ + คามิน = พลิคามิน

พลิ ก็ตามบันทึกนี้ มีกำลัง, บูชา , ป้องกัน, เสียสละ

คามิน น่าจะเขียนล้อสันสกฤต ถ้าเป็นบาลีจะเป็น คามี หรือ คามิ ... น่าจะมาจาก คมฺ รากศัพท์ แปลว่า ไป, ถึง. ... และลง ณี ปัจจัยในนามกิตก์

พอจะตั้งวิเคราะห์ได้ว่า...

  • อตฺตานํ พลึ คาเมตีติ พลิคามิ
  • ตระกูลใด ยังตน ย่อมให้ถึง ซึ่งการมีกำลัง ดังนั้น ตระกูลนั้น ชื่อว่า พลิคามิ (ผู้ยังตนให้ถึงซึ่งการมีกำลัง)

ถ้าเรียนบาลีมาบ้างก็คงจะเข้าใจอรรถวิเคราะห์... และ พลิคามิ ในภาษาบาลีนี้เอง ที่เปลี่ยนมาเป็น พลิคามิน ตามภาษาสันสกฤต...

พลิคามิน ผู้ยังตนให้ถึงซึ่งการมีกำลัง อาจขยายความว่า สร้างตระกูลของตนให้เข้มแข็ง ป้องกันตัวเองได้ เป็นที่ยกย่องเกรงขามของคนทั่วไป... หรือถ้าเน้นที่การเสียสละ ก็อาจหมายถึงตระกูลที่ปลูกสำนึกให้มีการเสียสละเพื่อชาติเป็นต้น...

เจริญพร

พระชาญชัย ชลานุเคราะห์

ประทับใจครับ ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท