สิ่งต่าง ๆ ที่เราเคยพบ เคยสัมผัส เคยได้ยิน ได้ฟัง ทุกอย่างไม่หายไปไหน จะถูกเก็บไว้ใน "จิตใต้สำนึก"
ดังนั้น ในยามหรือกาลที่จิตสงบ
จิตของเราจะใช้งาน "จิตใต้สำนึก" มากกว่า "จิตสำนึก"
ในช่วงเวลาปกติ ส่วนใหญ่เราจะใช้ “จิตสำนึก” ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ 7 ส่วน ใน 100 ส่วน
แต่ถ้าเราพัฒนาจิตให้สามารถดึงพลังจาก “จิตใต้สำนึก” ออกมาใช้ได้ เราก็จะสามารถใช้พลังได้ถึง 97 ส่วน ใน 100 ส่วน
ของที่เก็บไว้จะถูกไขออก
เก็บสิ่งดี สิ่งที่ออกมาดี
เก็บสิ่งชั่ว สิ่งที่ออกมาก็ชั่ว
ความสำคัญแห่งจิตใต้สำนึกนี้ ความสำคัญเริ่มต้นตั้งแต่ที่การเก็บ
การรับเพื่อเก็บ รับได้ทั้งจาก ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ “ใจ”
ทุกวันนี้รับเราสิ่งต่าง ๆ เพื่อเก็บจากที่ใด สิ่งนั้น “สื่อ” นั้น จึงเป็นจุดสำคัญที่สุดของสังคม
เพราะเมื่อยามเราโกรธ จิตเราจะนิ่งด้วยความโกรธ
สิ่งชั่ว ๆ ที่ถูกสื่อสารมาจากความชั่วจะผุดขึ้นมา
ในยามที่เราหลง จิตเราจะจมดิ่ง นิ่งด้วยความหลง
สิ่งชั่ว ๆ ที่ถูกสื่อสารมาจากความหลงก็จะผุดออกมา
หรือไม่เว้นเมื่อคราวที่โลภ จิตใต้สำนึกก็จะผุดวิธีการที่เราได้รับ ได้เก็บ จากภาพยนตร์ก็ดี ละครก็ดี หนังสือ บทความ นวนิยายต่าง ๆ ก็ดี ผุดขึ้นมาเป็น “ความรู้” เพื่อกระทำความชั่วได้อย่างน่าอัศจรรย์
สังคมที่ล้มเหลว มีความชั่วและความรุนแรง สะท้อนภาพได้ถึง “จิตใต้สำนึก” ของคนในสังคมนั้น
จิตใต้สำนึกของคนในสังคมนั้น สะท้อนภาพถึงสิ่งต่าง ๆ ที่คนได้หลายได้รับการสื่อสารจากสิ่งแวดล้อมและ “สื่อ” รอบข้างกาย
คนชั่วที่ทำชั่วจากความรู้ (จิตสำนึก) มีผลร้ายแรง 7 ส่วนในร้อยส่วนฉันใด
คนชั่วที่ทำชั่วจาก “ปัญญา” (จิตใต้สำนึก) ย่อมมีผลร้ายแรง 93 ส่วนจากร้อยส่วน ฉันใดก็ฉันใด
เราโปรดสร้าง สื่อ สิ่งดี ร่วมกันสื่อสาร “ปัญญา” ในด้านดี ให้กับคนในสังคมนี้ เพื่อจิตใต้สำนึกที่ผุดออกมาเมื่อครั้งเพื่อนเราขาดสติจะเป็นพลังจิตใต้สำนึกที่สร้างสรรค์ความดีให้กับสังคมและ “ตนเอง”
กราบนมัสการพระอาจารย์คะ
ขอบพระคุณมากคะ ที่ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นในบันทึกของดิฉัน
ได้มาอ่านบันทึกนี้ ก็ได้เห็นภาพมาขึ้นกับสิ่งที่ได้พบได้เจอ แต่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับ จิตสำนึก และ จิตใต้สำนึกคะ อยากจะรบกวนพระอาจารย์อธิบายความแตกต่างระหว่างคำ 2 คำนี้ เพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นคะ
ขอบคุณคะ
นมัสการพระอาจารย์ครับ...
ขอสนับสนุนวลีที่ว่า [
เราโปรดสร้าง สื่อ สิ่งดี ร่วมกันสื่อสาร “ปัญญา” ในด้านดี ให้กับคนในสังคมนี้ เพื่อจิตใต้สำนึกที่ผุดออกมาเมื่อครั้งเพื่อนเราขาดสติจะเป็นพลังจิตใต้สำนึกที่สร้างสรรค์ความดีให้กับสังคมและ “ตนเอง”] ครับ
สิ่งใดที่พูด และ ทำ จากการคิด นั่นคือ "จิตสำนึก"
สิ่งใดที่พูด และ ทำ แบบไม่ได้คิด ขาดการยั้งคิด นั่นคือ "จิตใต้สำนึก" ซึ่งมีทั้งดีและไม่ดี ซึ่งแล้วแต่ว่าเราจะฝังสิ่งดีหรือชั่วมากกว่ากัน
สิ่งใดที่เกิดขึ้นเมื่อเรามีความมั่นคงแห่งสติ มีความสำรวมในสมาธิ ยั่งลึกเข้าถึงก้นบึ้งแห่งจิต เราจะสามารถดึงพลังด้านดีออกมาใช้ได้อย่างเดียว เพราะสิ่งชั่ว ๆ ถูกกด ถูกเหยียบไว้ นั่นคือ "จิตประภัสสร"
แต่เหนือกระนั้น เรามิควรไปวุ่นวายหรือสับสนในคำนิยามให้มากจนเกินไป เพราะจะเสียจิตจากการถกเถียงกันด้วย "จิตสำนึก"
เราควรจะสนใจว่าเราจะใช้กายอันเป็นที่อาศัยชั่วคราวแห่งจิตนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างถูกต้องและถูกธรรมได้อย่างไร จึงจะดีจริงและยั่งยืนแท้...
เจริญพร
กราบนมัสการท่านสุณญตา
สนใจในหัวข้อนี้ สร้าง "สื่อ" สิ่งดี ตัวเรามักสื่อสองทาง บวกและลบ บางครั้งในแต่ละวันเราก็รับสื่อทางลบเข้ามาเพิ่มในจิต กลายเป็นติดลบชีวิต แทนการเพิ่มกำไรชีวิต จิตสำนึกของเราจึงต้องทำหน้าที่เหมือนแบตเตอรี่ เพิ่มพลังแบต ชาร์จพลังใจ กายและจิตก็จะสร้างสรรค์แต่สิ่งดี
หัวข้อนี้เตือนสติดี กระตุ้นจิตสำนึกดีไม่หลับใหล
ขอบพระคุณท่าน
ครูเจี๊ยบ
กรายนมัสการพระอาจารย์คะ
ขอบพระคุณมากคะ ที่ได้อธิบายเพิ่มเติม ดิฉันเข้าใจชัดเจนขึ้นแล้วคะ
ส่วนตัวเพิ่งได้มีโอกาส อ่านหนังสือเกียวกับจิตสำนึก และsubconscious mind จิตใต้สำนึก สัก 4-5 เล่มเช่น The secret, The Top Secret, The power of Subconscious mind ได้อะไรเยอะมากทีเดียว
แต่จุดใหญ่ใจความก็คงเป็นว่า เราสามารถเลือกprogram จิตตนเองได้ว่าจะให้อะไรดีไม่ดีเข้ามาบันทึกไว้ได้บ้าง ในฐานะผู้หญ่วันนี้ เราสามารถเลือกได้
และจริงที่สุดอย่างท่านว่า
"เราควรจะสนใจว่าเราจะใช้กายอันเป็นที่อาศัยชั่วคราวแห่งจิตนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างถูกต้องและถูกธรรมได้อย่างไร จึงจะดีจริงและยั่งยืนแท้..."
สื่อดีก็ยุ่ง สื่อไม่ดีก็ยิ่งยุ่ง
สังคมวันนี้ ถ้าไม่สื่อเลย สื่อชั่ว สื่อแห่งความชั่ว และสารชั่วจะครองไปเสียหมด ต้องแย่งพื้นที่ความดีเข้าไว้บ้าง...
คนจักมีชีวิตได้ก็เพราะมีลมหายใจ
คนที่จักมีความสุขได้ก็ด้วยเพราะมี "ความดี"
คิดดี พูดดี ทำดี รับดี ให้ดี ชีวิตก็จักมี "ความสุข"