มีบทเพลงเพื่อชีวิตที่สะท้อนถึงวิถีของผู้ใช้แรงงาน ว่า " ใครหนอเหยียดหยามหมิ่นว่างานแสนทรามมองเห็นเงินรุ้งอร่ามเลอเลิศวิไล แต่งานนั้นมาจากคน จากงานน้ำแรงเหงื่อไคล เมื่อเงินเปลื้อนเหงื่อแล้วใยใช้หมิ่นหัวใจของคนรักงาน คนใช้แรงแม้นหมดจากโลกนี้ไป มีผู้ใดหาญแบกภาระของงาน จะมีผู้ใดสร้างเงิน ให้คนชื่นชมเบิกบาน โลกนี้ที่สุขสำราญล้วนแต่ผลงานของคนยากจน แสนทรนงร่างกายเราแข็งแกร่งไกล งานคือเกียรติยิ่งใหญ่กว่าเงินหมุนวน งานทำคนให้มีคุณค่าสมคน ส่งเสริมนามแก่ชนให้บรรลือไกล แม้ตัวดำตรากตรำงานแสนเหนื่อยจริง งานเป็นสิ่งสร้างความบรรเทิงหัวใจ งานสร้างคนสร้างโลกให้เลิศวิไล ผู้ใช้แรงใหญ่ในวงสังคม คงมีวันที่งานเป็นสิ่งชื่นชม ปลดพ้นความขื่นขมถูกดูแคลน " เพลงนี้สะท้อนใหญ่เห็นอะไรมากมาย เราจะเห็นว่าผู้ใช้แรงงานกับการต่อสู้เพื่อสิ่งที่ดีกว่านั้น การรวมตัวการจัดตั้งองค์กรเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เขาว่ากันว่า ผู้ใช้แรงงานในกรุงเทพมีเครือข่ายองค์กรมี่เข้มแข็งกว่าต่างจังหวัดมากทั้งนี้เพราะมีการต่อสู้ที่ดุเดือด แหลมคม เป็นการสะสมการต่อสู้ที่ยาวนานมาก และเขาใกล้ชืดสื่อมวลชน ต่างจากในต่างจังหวัดที่ผู้ใช้แรงงานแทบจะไม่สามารถสร้างองค์กรเครือข่ายได้เลย หยุดเพียงวันอาทิตย์วันเดียว เขาว่าเนื่องจากความกดดันทางเศรษฐกิจมีน้อย และการตอบสนองในระดับปัจเจกยังดีอยู่ ขณะเดียวกันลัทธิเสรีนิยมโลก จาก usa และ eu พยายามวางนโยบายระดับโลกให้ 1 แก้กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าโลก สร้างทุนนิยมเสรีที่เอาเปรียบ 2พยายามปรับสวัสดิการให้ลดลง ลดต้นทุน กดขี่แรงงาน และเพิ่มเวลาการทำงาน 3 ทำลายสหภาพแรงงาน 4 ไม่สนับสนุนสิทธิมนุษยชนในด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม 5 พยายามส่งเสริมให้ทุกประเทศแปรรูป ภาคธุรกิจที่เป็นรัฐวิสาหกิจ เพื่อ 6 การปล่อยเงินกู้ให้เงินทุนโลกไหลมาสะดวก เพื่อลงทุนกับธุรกิจที่คิดว่ามีกำไรอาทิ รถไฟ ที่สองข้างทางหากแปรรูปจะเกิดประโยชน์มหาศาล และสื่อสารมวลชนที่สำคัญคนไทยต้องรู้เท่าทันกระแสทุนนิยมโลก และยับยั้งต่อต้านไม่ให้ไหลบ่าเข้ามาจนเราเสียรู้
ไม่มีความเห็น