เป็นการไปภูเก็ตครั้งนี้ ไม่ใช่ไปทัวร์แบบธรรมดา หาแบบนี้ไม่ได้ มีคุณค่าทั้งความรู้ ความสุขสนุกสนาน ที่มีคุณค่ายิ่งเหนือสิ่งอื่นใดคือความรู้สึกที่มีต่อกัน
นี่แหละครับที่พวกเราเสียดายแทนเพื่อนๆที่ติดธุระกันหลายคน หาโอกาสนี้ยากมากๆครับ
ขอบคุณครับ
ผมสมหวังเป็นที่ยิ่ง เมื่อมาเยือนภูเก็ตกับ เฮฮาศาสตร์ 4
ผมเห็นด้วยกับท่านครูบาว่า เสียดาย สำหรับท่านที่ไม่สามารถไปร่วมได้
ผมชื่นชมท่านอัยการ มาดามและทีมงานภูเก็ต ที่จัดงานอย่างที่เราคุยกันว่า หากไม่ใช่ท่านอัยการแล้วใครจะจัดแบบนี้ได้.. ยากสส...
ท่านอัยการจัดรายการที่มีคุณค่ายิ่งนัก ท่านเชิญนายแพทย์ประสิทธิ์ โกยศิริพงศ์
อดีตนายก อบจ. เมืองภูเก็ต (ประธานชมรมศิษย์เก่าลูกช้าง) ที่มีความรู้พัฒนาการประวัติศาสตร์ชนชาวจีนในภูเก็ตมาบรรยายให้ฟังพร้อมภาพ อย่างที่หาฟังได้ยากยิ่ง ทำให้ผมเข้าใจความเป็นมาของเมืองภูเก็ตในบริบทของคนจีน วัฒนธรรมจีน วิถีชีวิต และสภาพท้องถิ่นไทยภูเก็ต ฯลฯ วันนี้กล่าวได้ว่า ราษฎรไทยเชื้อสายจีนคือผู้พัฒนาเมืองภูเก็ตตัวจริง
เมืองภูเก็ตรุ่งเรืองหลายยุค กล่าวกว้างๆอาจแบ่งเป็นสองยุค คือ เริ่มจากคนจีนโพ้นทะเลอพยพเข้ามาบุกเบิกรวมไปถึงยุคการทำเหมืองแร่ดีบุก ซึ่งทำรายได้มหาศาลแก่ประเทศ โดยชาวต่างชาติคือ ดัตช์ ฝรั่งเศส ยุคนี้มีรายละเอียดที่น่าสนใจมากๆถึงเรื่องการบริหารจัดการ เช่น ท่าน คอซิมบี้ ณ ระนอง หรือพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี เป็นสมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต ผู้ชักชวนธนาคารชาร์ตเตอร์เข้ามาตั้งที่ภูเก็ตเป็นแห่งแรกในประเทศไทย และการเก็บอากรก็จัดทำโดยบริษัทฝรั่งเศส และยุคการท่องเที่ยวในปัจจุบัน
ผู้บรรยายได้พาเราชมภาพวิถีชีวิตคนจีนที่ก่อสร้างภูเก็ต รายละเอียดความเป็นอยู่อาศัย ภายในเวลา 1 ชั่วโมงนั้นท่านได้ให้ความรู้ตลอดระยะเวลานับร้อยปีของพัฒนาการเมืองถลางแห่งนี้ เรื่องราวเหล่านี้ชาวภูเก็ตได้รวบรวมหลักฐานไว้ที่พิพิธภัณฑ์
ในฐานะที่ผมทำงานพัฒนา เราทราบกันดีว่าหากเราจะเข้าใจใครอย่างถ่องแท้นั้น เราต้องเข้าใจในวิถีชีวิตเขาทั้งหมดรวมถึงพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ด้วย ถ้าใครสักคนต้องศึกษาจากหนังสือละก็ ผมว่าใช้เวลาแรมสัปดาห์แรมเดือนทีเดียว ต้องขอบคุณท่านนายแพทย์ประสิทธิ์ โกยศิริพงศ์ อดีตนายก อบจ.เมืองภูเก็ตเป็นอย่างสูง
นอกจากจะฟังเรื่องราวที่น่าทึ่งของพัฒนาการเมืองภูเก็ต โดยเฉพาะยุคโบราณแล้ว ท่านอัยการยังจัดศิลปินถ่ายภาพท้องถิ่น พาเราไปเดินชมกลุ่มอาคารโบราณที่หาโอกาสเช่นนี้ได้ยากมาก ผมเคยเห็นอาคารแบบนี้ที่ ฮอยอัน ในเวียตนาม และที่ปีนังมาบ้างแล้ว คราวนี้ได้สัมผัสของไทยเราบ้าง ต้องกล่าวว่า มีคุณค่ามหาศาล ในอนาคตอาจจะปิดถนนเพื่อจัดเป็นพื้นที่สำหรับเดินชมอาคารอย่างเดียว เหมือนในเวียตนามก็ได้
แม้ว่าช่วงการเดินถ่ายภาพอาคารเก่าจะอยู่ช่วงที่อากาศร้อนที่สุดของวัน แต่ผมอิ่มเอมกับการซึมซับบรรยากาศและวิถีแห่งอารยะชนที่นี่
ระหว่างเดินชมอาคารนั้นมีหนุ่มท้องถิ่นคนหนึ่งเปิดประตูร้านค้ามาถามว่า เป็นใคร มาจากไหน มาทำอะไร ทำไมใส่เสื้อเหมือนกันและทุกคนถือกล้องถ่ายรูป... เขายิ้มแย้มและจริงใจ เมื่อได้รับคำตอบเขาก็เข้าใจและแนะนำให้เดินไปทางโน้นทางนี้ ที่เป็นกลุ่มอาคารเก่า... ระหว่างการเดินชมไปถ่ายรูปอาคารเก่าไปอย่างไม่ยั้งนั้น ผมพบฝรั่งนักท่องเที่ยวคนหนึ่งเดินเข้าไปในร้านแห่งหนึ่ง แล้วขออนุญาตเจ้าของร้านถ่ายรูปที่ผนังบ้าน ผมเดินเข้าไปดูว่าเขาถ่ายรูปอะไร พบว่าที่ผนังร้านค้านั้นเป็นรูปเก่าๆของในหลวงและสมเด็จฯของเราครับ.. ผมรู้สึกปิติขึ้นมาทันทีโดยไม่ต้องอธิบายใดๆ...
อาคารเก่าศิลปะจีนนั้น ทุกสิ่งก่อสร้าง ลายต่างๆ มีความหมายไปหมดที่คนจีนพัฒนาวัฒนธรรมความเชื่อและคติมานับพันปี เมื่ออพยพมาอุษาคเนย์ประเทศก็นำคติความเชื่อนั้นติดตัวมาด้วย แล้วก็สร้างสรรค์ออกมาให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชมความงดงามและความหมายต่างๆเหล่านั้น... เหลือแต่เราเท่านั้นที่จะไฝ่เรียนรู้สิ่งเหล่านี้แค่ไหน..
ภูเก็ตอนุรักษ์อาคารเก่าไว้อย่างดียิ่ง พร้อมกับการบูรณะให้คงรูปเดิมๆ ท่านนายแพทย์กล่าวว่า มีอาคารเก่าในภูเก็ตมากกว่า 2-3 พันหลังที่เหลืออยู่ ซึ่งถูกทุบทิ้งไปก่อนหน้านี้มากพอสมควร แต่ที่ปีนัง มีมากถึง 2 หมื่นหลัง ??
ผมชื่นชมกลุ่มราษฎรไทยเชื้อสายจีนในภูเก็ตที่แม้จะมีหลายแซ่ หลายตระกูล แต่ก็สามารถเกาะกลุ่ม รวมตัวกันจรรโลงสิ่งดีดีที่บรรพบุรุษสร้างไว้เป็นที่ยิ่งนัก
ทั้งหมดนี้ก็คือคนไทย เชื้อสายจีน ที่เคารพในความเป็นชาติไทย
นี่คืออัตลักษณ์ของไทย ที่ผมสัมผัสมา
ต้องขออภัย เพื่อนๆ g2k ที่ผมรายงานช้าไป เพราะ กลับมาที่ทำงานก็มีเรื่องด่วนต้องทำทันทีครับ
รายงานจะมีต่อเนื่องไปนะครับ หลายตอนจบ อิอิ
สวัสดีเจ้าค่ะ ลุงบางทราย
คิดถึงจังเลย คิคิ ไหนๆๆ ไม่เห็นมีภาพน้องจิเลยอ่ะ คิคิ รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ----> น้องจิ ^_^
น้องเหว่ารอตั้งนาน กว่าจะอ่าน
เพราะว่า พี่ท่านจะต้องมาอีกอารมณ์ อีกรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร
....
เดือนมีนาคมที่ผ่านมา น้องเหว่าไปภูเก็ต (ศึกษาทำแผนกลยุทธิ์สำนักงานสอ่งแวดล้อมภาค) ซึ่งที่ภูเก็ต คือ สำนักงานภาค ที่ 15 เจ้าหน้าที่เค้าให้ข้อมูลว่า ภูเก็ตเป็นเมืองมหัศจรรย์ มีทรัพยากรตลอดมา เริ่มจากทรัพยากรเหมืองแร่ในยุคแรกเริ่ม พอหมดแร่ก็มาเป็นทรัพยากรท่องเที่ยว ซึ่งทำให้ภูเก็ตคึกคักตลอดมา
แต่น้องเหว่าไปก็ไม่เห็นอะไรหรอกนะคะ เห็นแค่สนามบิน ห้องพักที่ภูเก็ตพาวิลเลี่ยน และห้องประชุมที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด
นอกจากสามที่นี้แล้วหนูก็ไม่ได้ไปชื่นชมเมืองที่ใหนเลย เป้นการเดินทางไปภูเก็ตที่น่าสงสารตัวเองมากเลย
ทำการบ้าน ชาวเฮฮาศาสตร์อย่าลืมส่งการบ้านนะครับ
1. ส่งภาพประกวด
2. สะท้อนความคิดเห็น
3. ข้อเสนอแนะ
4. ช่วยกันขอบคุณเจ้าภาพอย่างเป็นทางการ ขออนุญาตเสนอให้ท่านบางทราย เปิดผ้าขาวให้พวกเราลงชื่อขอบคุณ เพียงแต่คราวนี้ใช้หน้าบล็อกท่านบางทรายแทนป้ายผ้า แล้วพวกเราทยอยลงจารึกขอบคุณ ดีไหมครับ?
/// เอามาจาก บันทึกพ่อครู นะคะ ไม่ทราบว่า อ่านหรือยัง////
สวัสดีค่ะพี่บางทราย
รออ่านบันทึกนี้อยู่เหมือนกันค่ะ
ระลึกถึงนะคะ
เป็นการไปภูเก็ตครั้งนี้ ไม่ใช่ไปทัวร์แบบธรรมดา หาแบบนี้ไม่ได้ มีคุณค่าทั้งความรู้ ความสุขสนุกสนาน ที่มีคุณค่ายิ่งเหนือสิ่งอื่นใดคือความรู้สึกที่มีต่อกัน
น้องจิเจ้าขา... 2. โก๊ะจิจัง แซ่เฮ ^๐^!
ลุงบางทรายกำลังไล่เรียงเรื่องและรูปอยู่เจ้าค่ะ มันเยอะไปหมด ไม่รู้จะเอาอะไรก่อนหลัง อิอิ..
พร้อมกับงานด่วนมันเข้ามาเลยชงักไปน่ะครับ เดี๋ยวจะลงให้นะครับ อย่าเพิ่งร้องให้ ซี อายเค้า อิอิอิอิ
น้องกาเหว่าครับ 3. Kawao
อื้อ ช้าไปจริงๆ
ส่วนตัวพี่ชอบทุก ทริบ โดยเฉพาะ การเล่าเรื่องโบราณของภูเก็ต และการเดินท่องกลุ่มอาคารเก่าๆที่มีผู้บรรยายไปด้วย มันวิเศษที่สุดแล้ว หากเราไปเอง เดินดูเฉยๆ เราแค่เห็นว่าสวย แต่เรื่องราว ความหมาย กาลเวลาที่ผันผ่านมีสาระมากมายใครจะเล่าให้ฟัง ครั้งนี้เราอิ่มเอมจริงๆครับ ก็เพราะท่านอัยการ...จัดให้
เห็นด้วยครับกับข้อคิดตรงนี้
ทำการบ้าน ชาวเฮฮาศาสตร์อย่าลืมส่งการบ้านนะครับ
1. ส่งภาพประกวด
2. สะท้อนความคิดเห็น
3. ข้อเสนอแนะ
4. ช่วยกันขอบคุณเจ้าภาพอย่างเป็นทางการ ขออนุญาตเสนอให้ท่านบางทราย เปิดผ้าขาวให้พวกเราลงชื่อขอบคุณ เพียงแต่คราวนี้ใช้หน้าบล็อกท่านบางทรายแทนป้ายผ้า แล้วพวกเราทยอยลงจารึกขอบคุณ ดีไหมครับ?
/// เอามาจาก บันทึกพ่อครู นะคะ ไม่ทราบว่า อ่านหรือยัง////
เรียนพี่น้องเพื่อนฝูงทุกท่านที่ไปภูเก็ต
ตามที่ท่านครูบาเสนอแนะนั้น ผมจะเปิดบล็อคใหม่ก็แล้วกันนะครับ รอเดี๋ยวครับ
บางทราย
สวัสดีครับท่าน 6. นายประจักษ์
เป็นการไปภูเก็ตครั้งนี้ ไม่ใช่ไปทัวร์แบบธรรมดา หาแบบนี้ไม่ได้ มีคุณค่าทั้งความรู้ ความสุขสนุกสนาน ที่มีคุณค่ายิ่งเหนือสิ่งอื่นใดคือความรู้สึกที่มีต่อกัน
นี่แหละครับที่พวกเราเสียดายแทนเพื่อนๆที่ติดธุระกันหลายคน หาโอกาสนี้ยากมากๆครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ อ.บางทราย
สวัสดีค่ะพี่บางทราย
อิอิ ราณีก็ยังไม่ได้รายงานค่ะ แต่ก็ได้ซึมซับจากทุกบันทึก คิดถึงตอนเดินไปจริงๆ เลย ชอบค่ะ เห็นวิถีชีวิต ของชาวภูเก็ตจริง ๆ สุดยอดค่ะ ทุกอย่างที่ไป ประทับใจไปหมดในทุกวัน
แหมๆๆๆๆๆ หลวงพี่บางทรายนี่ถ่ายรูปก็เก่ง เขียนบันทึกนี่ก็สุดยอดเลย
อ่านบันทึกเกี่ยวกับเฮฮาศาสตร์มาทั้งหมดนี่ หลวงพี่บางทรายเขียนดีเป็นที่สองเลยนะครับ เนื้อหาครบถ้วน ถ้อยคำสละสลวย ...... ห้ามถามใครเขียนดีที่สุดนะครับ เป็นความลับของหน่วยงานครับ อิอิ
ขอบคุณป้าแดงคนสวย 15. pa_daeng [มณีแดง คนสวย แซ่เฮ]
อิอิอิอิ ท่านสะมะนึกะ จะเล่าให้ฟังภาพนั้น ผมเดินเข้าไปในตึกแล้วก็มองออกมาเห็นท่านกับน้าอึ่งอ็อบกำลังหามุมเด็ดน่ะซี วิญญาณนักหนังสือพิมพ์เก่า กล้องที่คล้องคออยู่รีบหยิบขึ้นมาจัดการซูมอินทันที แล้วก็กดชัตเตอร์ ฉับ ฉับ สวยซะไม่เมี๊ยะ ชอบ ชอบ อิอิ มันได้อารมณ์ ความรู้สึกที่ดี มากๆว่า ผู้เป็นเป้าหมายนั้นตั้งใจจริงขนาดไหน น่าจะเอาไปติดไว้ในตึกหลังนี้ด้วยนะครับ แต่ฝีมือห่างไกลท่านศิลปินนักถ่ายรูปภูเก็ตครับ
ห้า ห้า ห้า ก๊ากสสสส ท่านคุณหมอคนชอบแล่น.หรือร่น (วิ่ง)
18. คนชอบวิ่ง
แหมๆๆๆๆๆ หลวงพี่บางทรายนี่ถ่ายรูปก็เก่ง เขียนบันทึกนี่ก็สุดยอดเลย
อ่านบันทึกเกี่ยวกับเฮฮาศาสตร์มาทั้งหมดนี่ หลวงพี่บางทรายเขียนดีเป็นที่สองเลยนะครับ เนื้อหาครบถ้วน ถ้อยคำสละสลวย ...... ห้ามถามใครเขียนดีที่สุดนะครับ เป็นความลับของหน่วยงานครับ อิอิ
เดี๋ยวผมขอให้เสนอสภาโจ๊ก ให้ลงมติสั่งให้หน่วยงานเปิดเผยความลับออกมา อิอิ เอิ้ก....
ผมจะทะยอยลงครับ ขอบคุณมากครับ