องค์กรใดๆที่จะประสบผลสำเร็จได้นั้นต้องมุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลมีขั้นตอนการพัฒนาองค์การดังนี้
1.การยอมรับปัญหาว่าองค์กรมีปัญหาอะไร
2.การเข้ามาขอที่ปรึกษา การพัฒนาองค์กร
3.การวิเคราะห์ปัญหา
4.การให้ข้อมูลย้อนกลับ
5.การวางแผนดำเนินงาน วางแนวทางแก้ปัญหา
6.การเลือกใช้เทคนิคการพัฒนาองค์กร
7.การประเมินผลการดำเนินงาน
เงื่อนไขความสำเร็จดังนี้
1.การพัฒนาองค์กรจะต้องเป็น เป็นการวางแผนการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบ
2.การพัฒนาองค์กรจะต้องเป็นความพยายามระยะยาวอย่างต่อเนื่อง
3.ผู้บริหารระดับสูงต้องรับทราบ รับรู้ เต็มใจ เข้ามามีส่วนร่วม
4.การเปลี่ยนแปลงต้องมีการสัมพันธ์กับนโยบายเป้าหมายองค์กร
5.การพัฒนาองค์กรต้องมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรม
6.เทคนิคการพัฒนาองค์กรที่นำมาใช้ควรเสริมด้วยประสบการณ์ที่ได้จากกิจกรรม
7.มุ่งพัฒนาทีมงานเน้นความรับผิดชอบของงานที่กลุ่มมาก กว่ารายบุคคล
นางสาวฉัตร์ติยา ไชยพยวน 5050504606
13. นายอภิเชษฐ ภาษี
เมื่อ อา. 01 มิ.ย. 2551 @ 09:28
679797 [ลบ]
ทำอย่างไรองค์กรจึงจะพัฒนาได้สำเร็จ? มีองค์กรใดบ้างที่ทำได้สำเร็จ ทำสำเร็จอย่างไร และได้ประโยชน์อะไร?
1. การวิเคราะห์หาความจำเป็น
เป็นการสำรวจหาข้อมูล ปัญหา อุปสรรค์ที่เกิดภายในองค์กร เพื่อทราบข้อมูลที่สำคัญและจำเป็นเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะต้องทำการพัฒนาเรื่องใด
2. การรวบรวมข้อมูลและจัดลำดับความจำเป็น
หลังจากที่ได้ข้อมูลมาจะเป็นการรวบรวม การจัดหมวดหมู่และจัดเรียงลำดับความสำคัญ
3. กำหนดเป็นแผนกลยุทธ์เพื่อหาวิธีการพัฒนา
เมื่อวิเคราะห์และวินิจฉัยปัญหาแล้วจะมีการกำหนดวางแผนกลยุทธ์เพื่อหาวิธีการพัฒนาให้ตรงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้
4. ดำเนินตามแผนปฏิบัติการ
ขั้นตอนนี้เป็นการนำแผนกลยุทธ์มาปฏิบัติโดยลงมือปฏิบัติจริงและใช้เครื่องมือสอดแทรกให้เข้ากับองค์การ
5. การประเมินและสรุปผลการพัฒนา
ตรวจสอบและชี้วัดได้ว่าการพัฒนาองค์การบรรลุตามวัตถุประสงค์หรือไม่
เงื่อนไขความสำเร็จดังนี้
1.การพัฒนาองค์กรจะต้องเป็น เป็นการวางแผนการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบ
2.การพัฒนาองค์กรจะต้องเป็นความพยายามระยะยาวอย่างต่อเนื่อง
3.ผู้บริหารระดับสูงต้องรับทราบ รับรู้ เต็มใจ เข้ามามีส่วนร่วม
4.การเปลี่ยนแปลงต้องมีการสัมพันธ์กับนโยบายเป้าหมายองค์กร
5.การพัฒนาองค์กรต้องมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรม
6.เทคนิคการพัฒนาองค์กรที่นำมาใช้ควรเสริมด้วยประสบการณ์ที่ได้จากกิจกรรม
7.มุ่งพัฒนาทีมงานเน้นความรับผิดชอบของงานที่กลุ่มมาก กว่ารายบุคคล
นายอภิเชษฐ ภาษี 5050504630
14. ไม่แสดงตน
เมื่อ อา. 01 มิ.ย. 2551 @ 11:29
679983 [ลบ]
การพัฒนาองค์การ คือ กระบวนการปรับปรุงประสิทธิภาพขององค์การ โดยใช้การวิจัยเชิงแก้ปัญหา ซึ่งมีลักษณะเป็นกระบวนการการแก้ปัญหาอย่างมีระบบเชิงวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1. การวิเคราะห์ปัญหาเบื้องต้นขององค์การ
2. การเก็บรวบรวมข้อมูลจากองค์การ
3. การป้อนข้อมูลย้อนกลับให้แก่องค์การ
4. สำรวจปัญหาขององค์การจากข้อมูลที่ได้รับทั้งหมด
5. วางแผนปฏิบัติการ
6. ลงมือปฏิบัติการ
เงื่อนไขความสำเร็จ
• การพัฒนาองค์การจะต้องเป็นเป็นการวางแผนการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบ มิใช่มองแต่ระบบย่อยใดระบบย่อยหนึ่งเท่านั้น
• การพัฒนาองค์การจะต้องเป็นความพยายามระยะยาวอย่างต่อเนื่อง
• ผู้บริหารระดับสูงต้องรับทราบ รับรู้ เต็มใจเข้ามามีส่วนร่วม ตั้งแต่เริ่มต้นการวางแผนงานจนถึงขั้นการลงมือปฏิบัติงานและชั้นวัดผลประเมินผล
• การเปลี่ยนแปลงต้องมีความสัมพันธ์กับนโยบาย เป้าหมายขององค์การ
• การพัฒนาองค์การต้องมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนทัศนคติ และพฤติกรรม
• เทคนิคการพัฒนาองค์การที่นำมาใช้ควรเสริมด้วยประสบการณ์ที่ได้จากกิจกรรม ที่เรียนรู้ที่เกิดขึ้นภายในองค์ด้วย
• มุ่งพัฒนาทีมงาน เน้นความรับผิดชอบของงานที่กลุ่มมากกว่ารายบุคคล
ผลประโยชน์ของการพัฒนาองค์การ
การพัฒนาองค์การนำมาซึ่งการเพิ่มผลผลิตในแก่องค์การ การปฏิบัติงานภายในองค์การ
อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดอัตราการว่างงาน การลาป่วย ลากิจ ลดความขัดแย้งภายในองค์การ ทำให้บุคลากรในองค์การมีความพึงพอใจสูงการพัฒนาองค์การนำมาซึ่งการเพิ่มผลผลิตให้แก่องค์การ การปฏิบัติงานภายในองค์การอย่างมีประสิทธิภาพทำให้บุคลากรในองค์การมีความพึงพอใจสูง และทำให้องค์การสามารถดำเนินการเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายขององค์การ
นายจิระศักดิ์ หวังปรุงกลาง 5050504626
15. สาวิตรี อุ่นแท่น 5050504620 (ศูนย์ปากช่อง)
เมื่อ จ. 02 มิ.ย. 2551 @ 11:51
681314 [ลบ]
องค์กรจะพัฒนาได้สำเร็จจะต้องอาศัยเทคนิคในการพัฒนาจึงจะประสบผลสำเร็จ
เทคนิคการพัฒนาองค์การหรือที่เรียกกันว่าเครื่องมือสอดแทรกนั้นมีอยู่มากมายหลายอย่าง โดยสามารถแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ดังนี้
1. เทคนิคการพัฒนาองค์การระดับบุคคล
1.1 การวางแผนชีวิตและอาชีพ
1.2 การวิเคราะห์บทบาท
1.3 การทำให้งานมีความหมาย
1.4 การกำหนดเวลาทำงานแบบยืดหยุ่น
1.5 การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ในองค์การ
1.6 การพัฒนาแบบของผู้บริหาร
2. เทคนิคการพัฒนาองค์การระดับระหว่างบุคคล
2.1 การให้คำปรึกษาในกระบวนการทำงาน
2.2 การวิเคราะห์พฤติกรรม
2.3 การเจรจาต่อรองเพื่อให้ได้บทบาทที่เหมาะสม
3. เทคนิคการพัฒนาองค์การระดับกลุ่ม
3.1 การสำรวจข้อมูลและการส่งข้อมูลย้อนกลับ
3.2 การพัฒนาทีมงาน
3.3 การพัฒนาคุณภาพงาน
3.4 การใช้ทีมงานเพื่อการบริหารโดยยึดวัตถุประสงค์
3.5 การพัฒนาคุณภาพชีวิตในการทำงาน
4. เทคนิคการพัฒนาองค์การระดับระหว่างกลุ่ม
4.1 การพัฒนาความสัมพันธ์อันดีระหว่างกลุ่ม
4.2 การพัฒนาความสัมพันธ์อันดีระหว่างกลุ่มแบบกริด
4.3 การพัฒนาความสัมพันธ์อันดีระหว่างกลุ่มที่มากกว่าสองกลุ่มขึ้นไป
5. เทคนิคการพัฒนาองค์การระดับองค์การ
5.1 เทคนิคการพัฒนาโครงสร้างขององค์การ
5.1.1 การออกแบบโครงสร้างขององค์การ
5.1.2 การออกแบบงาน
5.1.3 การจัดระบบค่าตอบแทนที่เป็นธรรม
5.1.4 การจัดระบบการประเมินการปฏิบัติงาน
5.2 เทคนิคการพัฒนาพฤติกรรมและกระบวนการทำงาน
5.2.1 การประชุมปรึกษาหารือเพื่อการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
5.2.2 การพัฒนาองค์การแบบกริดขั้นที่ 4, 5 และ 6
5.2.3 การพัฒนาความสัมพันธ์อันดีระหว่างองค์การกับสิ่งแวดล้อม
จากที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด จะเป็นเครื่องมือสอดแทรกที่ใช้กันอยู่ทั่วไปในองค์การต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม การที่จะทำความเข้าใจในเรื่องของการใช้เครื่องมือสอดแทรก เพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในองค์การให้ดีนั้น เราจะต้องทำความเข้าใจความหมายของการพัฒนาองค์การอีกอย่างหนึ่ง คือ การทำหรือกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นภายในองค์การ เช่น "การฝึกอบรม" เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่ง ที่คาดว่าจะมีผลทำให้ทรัพยากรมนุษย์เกิดการเปลี่ยนแปลง เป็นผลการพัฒนาความรู้ ความชำนาญ และทัศนคติ จะนำไปเสริมสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขององค์การ
ดังนั้นคำว่า "เครื่องมือ" ในที่นี้ก็คือ การเข้าช่วยเหลือของผู้นำการเปลี่ยนแปลง เพื่อก่อให้เกิดความสำเร็จในระบบสัมพันธ์ระหว่างบุคคลสองฝ่าย และกลุ่มในแนวความคิดของการพัฒนาองค์การ
แนวความคิดเกี่ยวกับเครื่องมือ ที่ผู้นำการเปลี่ยนแปลงควรจะยึดถือ มีหลักสำคัญ 3 ประการด้วยกันคือ
1.) ผู้นำการเปลี่ยนแปลงจะต้องเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่สมบูรณ์ และปัญหาที่ค้นพบให้แก่ผู้รับบริการอย่าง เปิดเผย และข้อมูลนั้นควรจะเป็นตัวแทนของระบบองค์การทั้งหมดในส่วนรวม มิใช่เฉพาะคนใดคนหนึ่งหรือส่วนใดส่วนหนึ่งขององค์การเท่านั้น
2.) ผู้รับบริการจะต้องมีสิทธิเลือกทางเลือกอย่างอิสระ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ผู้รับบริการไม่ควรจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของผู้นำการเปลี่ยนแปลง
3.) ผู้รับบริการจะต้องมีความรับผิดชอบผูกพันทางใจสูง หากเราพิจารณาถึงการสร้างบ้าน เครื่องมือหรือเทคนิคที่ใช้ก็จะมีหลักการอยู่ว่า จะสร้างอย่างไรจึงไม่ทำให้บ้านทรุด น้ำหนักของพื้นบนของบ้านจึงจะทานได้ เหล็กควรจะเป็นกี่หุน ตอกเข็มลึกเท่าใด ต่าง ๆ เหล่านี้ถือว่าเป็นเทคนิคในการสร้างบ้าน จะต้องทำความเข้าใจก่อนลงมือสร้าง ในด้านการพัฒนาองค์การก็เช่นกัน จำเป็นต้องศึกษาก่อนว่า ใครเป็นผู้มีอำนาจอยู่ในองค์การนั้น อำนาจนั้นได้มาอย่างไร ใครเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการตัดสินใจที่ผ่าน ๆ มา รวมทั้งระบบการติดต่อสื่อสารเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้จำเป็นจะต้องศึกษาให้ทราบข้อมูลที่แท้จริง เทคนิคต่าง ๆ เหล่านี้ถือเป็นเครื่องมือช่วยในการศึกษาองค์การว่าควรจะเริ่มที่ใด? ควรจะพัฒนาต่อไปอย่างไร และควรจะมีวิธีการเช่นไรบ้าง เป็นต้น
16. น.ส.ศิรินภา โพธิ์ทอง รหัสนักศึกษา 5050504638
เมื่อ จ. 02 มิ.ย. 2551 @ 12:42
681404 [ลบ]
ทำอย่างไรองค์กรจึงจะพัฒนาได้สำเร็จ? มีองค์กรใดบ้างที่ทำได้สำเร็จ ทำสำเร็จอย่างไร และได้ประโยชน์อะไร?
ตอบ -ทำอย่างไรองค์กรจึงจะพัฒนาได้สำเร็จ
ความสำเร็จในการพัฒนาองค์กรขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหรือปัจจัยต่าง ๆ หลายประการด้วยกัน และเงื่อนไขที่จะส่งผลต่อความสำเร็จของการพัฒนาองค์การ ดังนี้
1.เงื่อนไขเกี่ยวกับองค์การเป้าหมาย
2.เงื่อนไขเกี่ยวกับผู้บริหารระดับสูงขององค์การ
3.เงื่อนไขเกี่ยวกับผู้นำการเปลี่ยนแปลง
4.เงื่อนไขเกี่ยวกับองค์การหน่วยเหนือขององค์การเป้าหมาย
5.เงื่อนไขเกี่ยวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- มีองค์กรใดบ้างที่ทำได้สำเร็จ ทำสำเร็จอย่างไร และได้ประโยชน์อะไร?
องค์กรตัวอย่าง
กรรมการผู้จัดการ ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ไทย) ธุรกิจไอทีเป็นธุรกิจที่พัฒนาและเติบโตค่อนข้างเร็ว เนื่องจากเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจไอทีต้องพัฒนาตามอย่างรวดเร็ว
บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด หรือที่รู้จักกันในนามของ HP เป็นบริษัทหนึ่งที่ทำธุรกิจไอทีและได้รับการยอมรับจากลูกค้าอย่างกว้างขวางทั้งในระดับองค์กรและกลุ่มผู้บริโภค ความสำเร็จของ HP นี้ ผู้บริหารอย่าง "คุณสรรพัชญ โสภณ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่าไม่ได้มาจากตัวผู้บริหารเพียงคนเดียว หากแต่มาจากทีมงาน HP ทั้งองค์กรที่ช่วยกันผลักดันจนทำให้ HP ประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับจนถึงทุกวันนี้
แม้ความสำเร็จจะมาจากทีมงาน แต่ผู้นำที่ดีย่อมทำให้องค์กะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก นอกจากผู้บริหาร HP แล้ว "คุณสรรพัชญ" ยังเป็นบุคคลหนึ่งที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในแวดวงธุรกิจไอที และยังเคยดำรงตำแหน่งคณะผู้บริหารในหลายองค์กร รวมถึงเคยดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคมธุรกิจคอมพิวเตอร์ไทยด้วย เรียกว่าเป็นบุคคลหนึ่งที่คลุกคลีอยู่ในวงการไอทีมาโดยตลอด แต่กว่าจะมาเป็นผู้นำระดับแนวหน้าได้นั้น "คุณสรรพัชญ" ใช้หลักการบริหารแบบชาวสวน ที่ดูแลพนักงานแบบต้นไม้ เพื่อให้ผลิดอกออกผลให้มากที่สุด
"การบริหารองค์กรก็เหมือนเราเป็นชาวสวน พนักงานเป็นต้นไม้ หน้าที่ของเราคือจะทำอย่างไรให้ทุกต้นมีโอกาสได้เจอแสงแดดเท่ากัน รดน้ำเท่าเทียมกัน ให้ปุ๋ยเท่าเทียมกัน ดูแลเรื่องของแมลงต่าง ๆ นั่นคือหน้าที่เรา ถ้าสวนเราใหญ่โต สวยงาม ออก ดอก ออกผลเยอะ ก็มีความสุข ต้นไหนที่มีกาฝากเยอะเราก็ตัดทิ้ง เพื่อไม่ให้รบกวนต้นอื่น นั่นเป็นวิธีการที่ผมนำมาใช้ในการบริหารองค์กร คือให้โอกาสพนักงานเติบโตในองค์กรของเรา ให้เขาแสดงความสามารถออกมาเต็มที่ นั่นคือความแข็งแรงขององค์กร วัฒนธรรมองค์กรคือสิ่งที่เราทำอยู่เป็นประจำ เหมือนเราอยู่บ้าน เป็นบ้านที่น่าอยู่ มีการปฏิบัติต่อกันที่ดี คนก็อยากอยู่ในบ้าน บ้านก็มีความสุข ร่มรื่น องค์กรก็เช่นเดียวกัน เราต้องดูแลเขาดี ให้โอกาสเขา เหมือนที่เคยทำในอดีต ถ้าบอกว่าองค์กรต้องการให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นได้ ก็เปิดเวทีให้เขาแสดงความคิดเห็น นั่นคือวัฒนธรรมองค์กร เพราะฉะนั้น HP เมืองไทย วัฒนธรรมอาจจะไม่เหมือนกับ HP ประเทศอื่น เพราะการทำงานแตกต่างกัน"
"หน้าที่หลักในการเป็นผู้บริหารมืออาชีพ คือทำอย่างไรจะทำให้องค์กรที่เรารับจ้างเข้ามาบริหารเติบโตก้าวหน้า อีกอย่างเรื่องของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญมาก สินค้าจะไม่ดีเลยถ้าคนไม่ดี จะทำอย่างไรที่จะให้คนเติบโตก้าวหน้าไปกับเรา ให้องค์กรเป็นที่อยากทำงานของคนข้างนอก"
นอกจากตัวผู้นำที่ทำหน้าที่ผลักดันให้องค์กรประสบความสำเร็จแล้ว อีกภาระหนึ่งนั่นคือการดูแลบุคลากรในองค์กร "คนในองค์กรจะเติบโตมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับเมล็ดพันธุ์ว่าจะเก่งหรือไม่เก่ง ต้องให้ทุกคนมีโอกาสได้ในสิ่งที่เท่าเทียมกัน ต้นไม้ต้นไหนไม่ดีมีกาฝากขึ้นมาก็ต้องตัดทิ้งและเปลี่ยนแปลง คนที่ดีก็ต้องให้เติบโตพัฒนาต่อไป
การดูแลที่ดีที่สุดคือการให้ข้อมูล ให้ความรู้ให้มากที่สุด ทุกคนต้องเรียนรู้ได้มากกว่าแต่ก่อน เพราะเราแข่งขันกันเยอะมาก ที่ HP มีเครื่องมือต่าง ๆ ให้ได้ศึกษามากมาย มอบหมายงานให้เหมาะกับคน ให้ต่างคนต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อเรียนรู้จากการทำงาน"
"ทุกองค์กรให้ความสำคัญเรื่องคน คนยิ่งให้โอกาสได้ใช้ความรู้มากเท่าไรก็ยิ่งเก่งมากขึ้นเท่านั้น หลักการคือให้แสดงความสามารถของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ แต่องค์กรต้องยอมรับในความสามารถของเขาก่อน ที่ HP จะให้โอกาสพนักงานค่อนข้างมาก ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงผู้บริหารทั้งนั้น ทุกสัปดาห์จะมีการพบปะกับพนักงานทุกคน ทั้งช่าง พนักงาน และตำแหน่งอื่น ๆ เพื่อให้พูดคุยแสดงความคิดเห็น ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกัน
"ผมได้ไอเดียมากมายจากการพบกับพนักงาน พยายามจะจัดให้มีการพูดคุยกันแบบนี้ทุกสัปดาห์ ที่ผ่านมาก็ทำมา 1 ปีกว่าแล้ว ที่สำคัญการดึงไอเดียมาใช้ทำให้ทำงานได้ตรงและคล่องตัวมากขึ้น"
"เรื่องการทำงานเป็นทีมถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุด การทำงานคนเดียวไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก ต้องทำกันเป็นทีม แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝน เพราะบางคนชอบเก่งคนเดียว และคนที่เก่งมาก ๆ ส่วนใหญ่จะทำงานเป็นทีมไม่ค่อยได้ จึงต้องฝึกให้แสดงความคิดเห็นและความสามารถร่วมกัน แล้วให้รางวัลเป็นทีม เป็นการสร้างบรรยากาศ ในการทำงานร่วมกัน คนเก่งคนเดียวทำงานไม่ได้ ต้องช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เพื่อให้องค์กรเติบโตไปข้างหน้าได้"
แม้ว่าจะทำงานได้ดีเพียงใดก็ตาม แต่สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือปัญหา ยิ่งเจอปัญหาเร็ว เท่าไรก็ยิ่งประสบความสำเร็จได้เร็วเท่านั้น "จุดแข็งของ HP คือเป็นบริษัทไอทีเซอร์วิสที่มีสินค้าครบวงจร แต่ก็เป็นองค์กรใหญ่ที่จะต้องทำให้คนในองค์กรเดินไปในทิศทางเดียวกัน เป็นการจัดบ้านให้เข้าที่ทุกอย่างไปได้ดีเกินคาด เพราะปัญหาที่คิดว่าจะเยอะก็ไม่เยอะอย่างที่คิด สำหรับปัญหานั้นถือว่าเป็นเรื่องปรกติของการทำงาน เพราะหน้าที่ของผมคือต้องแก้ปัญหา ถ้าไม่มีปัญหาก็ไม่มีงานทำ"
"ผมชอบเจอปัญหา และชอบแก้ปัญหา พอมีการพูดคุยกันเป็นประจำทุกอาทิตย์ ทำให้ผมได้ไอเดียจากพนักงานมาแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทุกคนจะช่วยกันคิด วิเคราะห์ ข้อดี ข้อเสีย แล้วตัดสินใจแก้ปัญหา ที่ผ่านมามีการแข่งขันกันตลอดเวลา มีคนที่อยู่ได้และอยู่ไม่ได้ เราต้องเปลี่ยนแปลง และปรับปรุงตัวเองให้ดีที่สุด นั่นคือสิ่งที่เราจะอยู่รอดได้ จะทำอย่างไรให้คนมีความเข้าใจ ในสินค้าให้ดี เข้าใจความต้องการของลูกค้าให้ถ่องแท้ ให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุดจากสินค้าของเรา ถ้าเป็นอย่างนั้นได้เขาต้องซื้อเรา เสนอสินค้าที่เหมาะสม และบริการที่เหมาะสม ในราคาที่ยุติธรรม"
ทุกวันนี้แม้จะยังบอกไม่ได้ว่าประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ช่วยตอกย้ำในเรื่องนี้คือความเจริญเติบโตของต้นไม้ที่ชาวสวนอย่าง "คุณสรรพัชญ" ได้ปลูกไว้
"อย่างที่บอกว่าผมเป็นชาวสวนคนหนึ่ง ถ้าต้นไม้ที่ผมปลูกเติบโตขึ้นก็ถือว่าผมประสบความสำเร็จ ที่ผ่านมาผมก็มีลูกน้องหลายคนที่ทุกวันนี้กลายเป็นผู้บริหารของบริษัทต่าง ๆ มากมาย ถือว่าผมมีส่วนร่วมในการผลักดันความสำเร็จของคนอื่น ๆ ตรงนี้ทำให้รู้สึกว่ามีความสุขที่เห็นคนเติบโตในหน้าที่การงาน"
"การที่คนเราจะประสบความสำเร็จได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง แต่พื้นฐานคือต้องเป็นคนที่ทำงานหนัก ทำงานเป็น ทำงานร่วมกัน คนเก่งคนเดียวทำงานไม่ได้ ต้องช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เพื่อทีม หน้าที่ของผมคือการทำอย่างไรก็ได้ให้ลูกน้องเอาความรู้ ความสามารถ ออกมาใช้ให้ได้มากที่สุด ยิ่งมากเท่าไรยิ่งดีเท่านั้น ดังนั้น จึงต้องเปิดโอกาสให้แก่พนักงานทุกคน ผู้บริหารจะต้องเป็นคนที่ฟังมากกว่าพูด ไม่ใช่พูดอย่างคิดอย่าง และทำอีกอย่าง แต่ต้องเป็นคนพูดในสิ่งที่คิด ทำในสิ่งที่พูด พนักงานก็จะเกิดความชัดเจนและเข้าใจว่าจะต้องทำงานกันอย่างไร"
"ที่สำคัญคือต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงเร็ว เราเองก็ต้องเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ต้องยอมรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น คู่แข่งเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง ถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลง ก็คงอยู่ไม่ได้ ต้องปรับตัวและคิดว่าความต้องการใหม่ ๆ คืออะไร แล้วตัวเราเองคิดอย่างไร"
"คนเรามีตัวเลือกในการทำงานหลายอย่าง ผมเองเลือกที่จะเป็นลูกจ้าง หรือบางคนอาจเลือกเป็นเจ้าของกิจการก็ได้ ผมเป็นลูกจ้างทำงานมากว่า 30 ปี ผมคิดเสมอว่าตัวเองเป็นเจ้าของกิจการ ต้องคิดว่าเราทำงานเพื่อผลประโยชน์ขององค์กร ความเป็นมืออาชีพของเราจะช่วยพัฒนาองค์กร ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้องค์กรเติบโตและพัฒนาต่อไปได้ ถ้าคิดได้แบบนี้ก็สามารถจะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน" คุณสรรพัชญ กล่าวทิ้งท้าย
- ประโยชน์ของการพัฒนาองค์กร
การพัฒนาองค์การนำมาซึ่งการเพิ่มผลผลิตในแก่องค์การ การปฏิบัติงานภายในองค์การอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดอัตราการว่างงาน การลาป่วย ลากิจ ลดความขัดแย้งภายในองค์การ ทำให้บุคลากรในองค์การมีความพึงพอใจสูง
17. จีราพร โคตรทองทิพย์ รหัส 5050504605 (ศูนย์ปากช่อง)
เมื่อ จ. 02 มิ.ย. 2551 @ 15:21
681626 [ลบ]
1. การพัฒนาองค์การ คือ ความพยายามอย่างมีแผน ที่มุ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมขององค์การ เป็นความพยายามที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบขององค์การ ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ควรมุ่งเน้นที่การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมขององค์การเป็นหลัก ไม่ใช่การมุ่งเน้นที่การเปลี่ยนแปลงของบุคคล แต่การเปลี่ยนแปลงของบุคคลที่เกิดขึ้น เป็นผลพลอยได้ของการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมขององค์การ
วัตถุประสงค์ของการพัฒนาองค์การ
การพัฒนาองค์การนั้นควรมุ่งเพื่อพัฒนาการทำงานเป็นทีมให้มีประสิทธิภาพ เนื่องจากวัตถุประสงค์ของกลุ่มย่อยและกระบวนการหรือวิธีการดำเนินงานให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของกลุ่มย่อยนั้น หากมีความขัดแย้งกันระหว่างกลุ่ม หรือขัดแย้งกับวัตถุประสงค์ขององค์การเอง จะเป็นหนทางสู่ความล้มเหลวขององค์การโดยส่วนรวมได้ ดังนั้นการพัฒนาองค์การ จึงควรมุ่งความสนใจไปที่การวางเป้าหมาย และการวางแผนในการสร้างวัตถุประสงค์ขององค์การอย่างมีระบบ ทั้งนี้ต้องหมายรวมถึงการมีส่วนร่วมของผู้นำการเปลี่ยนแปลงต้องเข้ามามีบทบาทและหน้าที่ ในการกระตุ้นให้องค์การสามารถสร้างวัตถุประสงค์ขึ้นทั้ง 3 ประเภท คือ
1. วัตถุประสงค์ของสมาชิกทุกคนในองค์การ
2. วัตถุประสงค์ของทีมงาน
3. วัตถุประสงค์ขององค์การ
ปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดการพัฒนาองค์การ
1. ความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ทางด้านวิทยาการสมัยใหม่
2. ความล้าสมัยอย่างรวดเร็วของผลผลิตหรือผลิตภัณฑ์
3. การเปลี่ยนแปลงทางด้านทัศนคติและค่านิยมของกลุ่ม
4. ปัญหาขององค์การ แบบระบบราชการ
5. ผลจากทฤษฎีการบริหาร ที่เปลี่ยนแปลงจากแนวการบริหารเชิงวิทยาศาสตร์
6. ผลจากการฝึกอบรมโดยใช้ห้องปฏิบัติการ
7. ผลจากวิธีการสำรวจข้อมูลและการส่งข้อมูลย้อนกลับ และ
8. ผลจากระบบเทคนิคและสังคม
18. จีราพร โคตรทองทิพย์ รหัส 5050504605 (ศูนย์ปากช่อง)
เมื่อ จ. 02 มิ.ย. 2551 @ 15:32
681637 [ลบ]
การพัฒนาองค์การ คือ กระบวนการปรับปรุงองค์การให้กลับสู่สภาวะใหม่ที่เหมือนเดิมหรือดีกว่าเดิม โดยมุ่งที่ความกล้าในการยอมรับการเปลี่ยนแปลง เน้นให้องค์การมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ที่จะนำเอาความใหม่และแปลกทั้งทางด้านเทคนิค วิทยาการ และทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่ามาสู่องค์การ
การพัฒนาองค์การ คือ กระบวนการปรับปรุงประสิทธิภาพขององค์การ โดยใช้การวิจัยเชิงแก้ปัญหา ซึ่งมีลักษณะเป็นกระบวนการการแก้ปัญหาอย่างมีระบบเชิงวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1. การวิเคราะห์ปัญหาเบื้องต้นขององค์การ
2. การเก็บรวบรวมข้อมูลจากองค์การ
3. การป้อนข้อมูลย้อนกลับให้แก่องค์การ
4. สำรวจปัญหาขององค์การจากข้อมูลที่ได้รับทั้งหมด
5. วางแผนปฏิบัติการ
6. ลงมือปฏิบัติการ
สาระสำคัญของการพัฒนาองค์การ
1. การพัฒนาองค์การเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบใหญ่
2. มิใช่มุ่งเน้นเฉพาะระบบย่อยบางระบบเท่านั้น องค์การจะประกอบไปด้วยระบบย่อยต่าง ๆ เช่น ด้านวัตถุประสงค์, ด้านสังคม-มนุษย์, ด้านเทคโนโลยี, ด้านงาน, ด้านโครงการ และด้านการประสานกับสิ่งแวดล้อมภายนอก เป็นต้น
3. การพัฒนาองค์การเป็นกระบวนการแก้ปัญหาที่ต่อเนื่อง โดยเน้นการฝึกทักษะด้านการกำหนดวัตถุประสงค์ และการวางแผน ตั้งแต่ระบบบุคคลจนถึงระดับองค์การ
4. การพัฒนาองค์การเป็นกระบวนการวางแผนเพื่อการเปลี่ยนแปลง โดยใช้แม่แบบของฐานข้อมูลและแม่แบบการวิจัยเชิงแก้ปัญหา
5. การพัฒนาองค์การ มุ่งเน้นที่การสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพสำหรับองค์การ เพราะ
5.1ความสำเร็จขององค์การ สืบเนื่องจากประสิทธิภาพของทีมงาน
5.2วัฒนธรรมของทีมงาน มีอิทธิพลอย่างสูงต่อพฤติกรรมของบุคคล
5.3การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม กระบวนการ วิธีการทำงานของกลุ่ม ตลอดจนแบบแผนความสัมพันธ์ภายในกลุ่ม และระหว่างกลุ่ม จะเป็นวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพขององค์การอย่างถาวร
19. จีราพร โคตรทองทิพย์ รหัส 5050504605 (ศูนย์ปากช่อง)
เมื่อ จ. 02 มิ.ย. 2551 @ 15:38
681642 [ลบ]
การพัฒนาองค์การ คือ กลยุทธ์เชิงพฤติกรรมที่ถูกใช้เพื่อการวิเคราะห์ความจำเป็นของการเปลี่ยนแปลงภายในองค์การ และการดำเนินการเปลี่ยนแปลงภายในองค์การ เราจะเริ่มต้นด้วยการพิจารณาลักษณะของการพัฒนาองค์การก่อน แล้วต่อมาจะเป็นขั้นตอนกระบวนการการพัฒนาองค์การ และเทคนิคของการพัฒนาองค์การบางอย่าง
ลักษณะของการพัฒนาองค์การ
การพัฒนาองค์การ เป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงองค์การ เพื่อการวิเคราะห์แหล่งที่มาของปัญหาภายในองค์การ และการดำเนินแผนงานเพื่อการแก้ไขปัญหาขององค์การ การพัฒนาองค์การจะเป็นกระบวนการร่วมมือร่วมใจของสมาชิกที่ถูกกระทบจากการเปลี่ยนแปลงขององค์การ พวกเขาจะต้องมีส่วนร่วมวิเคราะห์ปัญหาขององค์การอย่างจริงจัง และพัฒนาแนวทางการดำเนินงานใหม่ขึ้นมา เพื่อการแก้ปัญหาภายในองค์การของพวกเขา
ตัวอย่างปัญหาขององค์การ
ทุกองค์การย่อมจะต้องเคยเผชิญกับปัญหาที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในขึ้น การเปลี่ยนแปลงภายในอาจจะเป็นค่านิยม ทัศนคติ และพฤติกรรมของสมาชิกภายในองค์การ ตลอดจนโครงสร้างและกลยุทธ์ขององค์การ เป็นต้น ตัวอย่างเช่น
1. ความขัดแย้งระหว่างบุคคล
ผู้บริหารสองคนภายในแผนกเดียวกัน ไม่ชอบกันเป็นการส่วนตัว ความสัมพันธ์ระหว่างการทำงานของพวกเขาจะเป็นการโต้แย้งกันอยู่บ่อยครั้ง และมีการต่อสู้ทางการเมืองอย่างรุนแรง ผู้บริหารแต่ละคนเชื่อว่าความสัมพันธ์ที่ไม่ดีและความขัดแย้งของพวกเขา ไม่ได้เป็นความรับผิดชอบของพวกเขา ความไม่สามารถทำงานร่วมกันของพวกเขา ได้ทำให้เกิดปัญหาอย่างรุนแรงแก่ผู้บังคับบัญชาของพวกเขา เมื่อการบรรลุความสำเร็จของงานขึ้นอยู่กับความร่วมมือระหว่างกันของพวกเขา ซึ่งนี่คือปัญหาอย่างหนึ่งขององค์การ
2. การสร้างทีมงาน
ทีมงานถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ที่องค์การมองว่าเป็นหัวใจของการแข่งขัน และความสำเร็จขององค์การในอนาคต ทีมงานจะประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหลายแผนกงานภายในองค์การ สมาชิกแต่ละคนของทีมงานต่างมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับหน้าที่ของพวกเขา ผลงานของทีมงานภายในระยะแรกจะมีความคืบหน้าน้อยมาก ความขัดแย้งจะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ซาก ๆ แทนที่จะเป็นความร่วมมือของ "ทีมงาน" องค์การจะมีทีมงานที่เข้มแข็งและฉลาดไม่ได้ ตราบใดที่สมาชิกแต่ละคนกำลังเดินไปในทิศทางของเขาเอง ทำให้ความคืบหน้าของโครงการมีน้อยมาก ผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสำเร็จขององค์การจะต้องเกิดขึ้น นี่คือปัญหาอย่างหนึ่งขององค์การ
3. ความขัดแย้งระหว่างกลุ่ม
พนักงานฝ่ายการตลาดของบริษัทแห่งหนึ่ง จะมองว่างานของพวกเขาคือ การเพิ่มยอดขายของสินค้าให้สูงสุดเพื่อเอาชนะคู่แข่งขัน พนักงานฝ่ายผลิตของบริษัทเดียวกัน ก็จะมองว่างานของพวกเขาคือ การลดต้นทุนการผลิตด้วยการรักษาคุณภาพของสินค้าไว้คงเดิม แผนการตลาดมักจะยอมรับเงื่อนไขพิเศษจากลูกค้า เช่น การเปลี่ยนแปลงตัวสินค้าและวันส่งมอบสินค้า เพื่อการเพิ่มยอดขายของพวกเขา ในขณะเดียวกันฝ่ายผลิตมักจะคัดค้านเงื่อนไขเช่นนี้ เพราะว่าต้นทุนการผลิตของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากงานพิเศษและค่าล่วงเวลา และจะเป็นอุปสรรคต่อเป้าหมายการลดต้นทุนของพวกเขา ผลที่เกิดขึ้นคือ สองแผนกงานนี้จะมีความขัดแย้งเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ความไม่ไว้วางใจสูงขึ้น และการติดต่อสื่อสารแย่ลง เราจะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองแผนกนี้อย่างไร? นี่คือปัญหาอย่างหนึ่งขององค์การ
4. การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
การคุกคามของผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ต่อองค์การกำลังเพิ่มสูงขึ้น องค์การบางแห่งได้เพิ่มงบประมาณให้แก่นักวิจัยและวางแผนเกือบเท่าตัว ด้วยงบประมาณจำนวนนี้ เจ้าหน้าที่ของแผนกวิจัยและวางแผนจึงได้เพิ่มจำนวนสูงขึ้นด้วย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่มีความสามารถ แต่ผลงานของแผนกวิจัยและวางแผนไม่ได้ดีขึ้นกว่าเดิมเท่าไรนัก การลงทุนอย่างมากภายในแผนกการวิจัยและวางแผน เป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือไม่ เจ้าหน้าที่ใหม่หลายคนได้ร้องเรียนว่า ความสามารถของพวกเขาได้ถูกใช้ประโยชน์น้อยไป และเริ่มมองว่าพวกเขาควรจะทำงานภายในองค์การอยู่ต่อไปหรือไม่ ? ทำไมการลงทุนอย่างมากเช่นนี้ไม่ได้ผลคุ้มค่าเลย นี่คือปัญหาอย่างหนึ่งขององค์การ
5. การตกต่ำทางเศรษฐกิจ
การตกต่ำทางเศรษฐกิจที่ยาวนาน ส่งกระทบต่อตลาดและยอดขายขององค์การเป็นอย่างมาก ผู้บริหารขององค์การเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงจะต้องเกิดขึ้น แต่ไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างภายในองค์การ ขวัญและกำลังใจของพนักงานในองค์การจะต่ำ พวกเขาไม่แน่ใจว่าจะถูกปลดออกจากงานหรือไม่? ผู้บริหารขององค์การควรจะดำเนินการอย่างไร? นี่คือปัญหาอย่างหนึ่งขององค์การ
6. คู่แข่งขันรายใหม่
องค์การประสบความสำเร็จและมีความมั่นคงอย่างสูงเป็นเวลาหลายปี เนื่องจากส่วนแบ่งการตลาดที่มากกว่าคู่แข่ง บริษัทมีชื่อเสียงทางด้านคุณภาพของสินค้าสูงและได้รับการยอมรับจากลูกค้าอย่างกว้างขวาง แต่ก็มีคู่แข่งขันจากต่างประเทศได้รุกเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาด ด้วยคุณภาพสินค้าที่เหนือกว่าและราคาต่ำกว่า ผู้บริหารขององค์การไม่รู้ว่าจะตอบโต้การคุกคามฐานะทางตลาดของพวกเขาอย่างไร นี่คือปัญหาอย่างหนึ่งขององค์การ
7. การเปลี่ยนแปลงเป้าหมายของผู้บริหาร
เทคนิคการพัฒนาผู้บริหารขององค์การขนาดใหญ่ อย่างหนึ่งคือ การโยกย้ายผู้บริหารวัยหนุ่มไปยังบริษัทสาขาต่างประเทศทั่วโลก ในอดีตการโยกย้ายเหล่านี้จะเป็นที่ต้องการของผู้บริหารวัยหนุ่ม เพราะว่าเงินเดือนของพวกเขาจะเพิ่มสูงขึ้นมาก และพวกเขาจะมีโอกาสเป็นผู้บริหารอาวุโสขององค์การในอนาคตได้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ สัดส่วนของผู้บริหารวัยหนุ่มที่ปฏิเสธการโยกย้ายเช่นนี้ได้เพิ่มสูงขึ้น พวกเขาได้อ้างครอบครัวและเหตุผลส่วนตัวเป็นข้อปฏิเสธของพวกเขา ผู้บริหารวัยหนุ่มหลายคนกล่าวว่าพวกเขาจะลาออกจากบริษัทถ้าถูกบังคับ นี่คือปัญหาอีกอย่างหนึ่งขององค์การ
ข้อจำกัดของการพัฒนาองค์การ
ถึงแม้ว่าการพัฒนาองค์การจะเป็นวิธีการที่มีข้อ