การเดินทาง : soft adventure – สักหลาว ณ วังเวียง


 

วันประทับใจ...เหตุการณ์ประทับใจ เมื่อนึกถึงใจยังเต้นระทึก ไม่เลือนหาย สักที...ทั้งๆ ที่ทิ้งช่วงการเล่าเรื่องนี้นานพอสมควร เพื่ออยากทบทวนดูว่ายังจดจำเหตุการณ์และความรู้สึกนั้นได้หรือไม่

 

ต่อจาก... ถ้ำน้ำ

หลังเสร็จมื้อเที่ยงเราออกเดินทาง ต่อไปล่องแก่ง พายเรือคายัคไปตามแม่น้ำซอง เป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร และพักจุด สักหลาว ลงน้ำซอง ก่อนที่เราจะลงเรือ ท้าวไหวก็สอนวิธีการพายเรือคายัค และทักษะการล่องเรืองในแม่น้ำ เวลาที่เจอโขดหิน และการพายน้ำลึก ตื้น เราเห็นกระแสน้ำแล้วอยากจะเปลี่ยนใจ ในการจับคู่กันเอง ต่างคนก็อยากจะพายกับไกด์ แต่ด้วยจำกัดว่าไกด์เหลือสองคน คือ ท้าวกล้วยกับท้าวไหว ดังนั้นฉันกับติ๋วจึงต้องจับคู่กันไปโดยปริยาย ด้วยความที่ว่ายน้ำและแข็งแกร่งทั้งคู่ ส่วนพี่เอียดและพี่รุ่ง...ขอไปกับไกด์เป็นลำของพี่เอียดนั้นสามคน และคุณนัทไปกับไกด์ และฝรั่งสองคนไปด้วยกัน...

สักหลาว = กิจกรรมผาดโผนคล้ายกระโดดบันจี้จั๊ม โหนตัวไปกลางแม่น้ำและกระโดดลงน้ำ

 

จากนั้นก็ลำเลียงเรือลงสู่แม่น้ำ... ช่วงเริ่มต้นของการเดินทางโดยเรือคายัคนี่ทุลักทุเลพอสมควร ฉันกับติ๋ว...พายเบี้ยวซ้าย ขวาวนไปมาหลายรอบ และรั้งท้าย เราก็เลยตั้งสติและตั้งท่าใหม่ ปรับตัวและเรียนรู้ พอตั้งท่าได้ก็ต้องเจอโขดหินเล็ก...ทำให้เรือพุ่งเข้าชนพุ่มไม้กลางน้ำ... ไปแบบไม่เป็นท่า แต่เรือไม่คว่ำ ท้าวกล้วยก็เลยเข้ามาช่วย รวมทั้งท้าวไหว ก็ตะโกนแนะนำวิธีการบังคับเรือ ... ออกจากพุ่มไม้กลางน้ำได้ ก็เดินทางไปต่ออย่างกระท่อนกระแท่น ช่วงที่ลำบากที่สุด คือ โขดหิน และกระแสน้ำที่ไหลแรงและเชี่ยว ... คนพายข้างหน้าและหลังต้องทำงานประสานกัน...

 

สนุกและเหนื่อย...แต่มีความสุขมาก หัวเราะ....ตลอดเส้นทาง

 

เราเดินทางมาได้ครึ่งทาง ก็มาเจอจุดที่เขาสักหลาว ------> การโหนตัวและกระโดดพุ่งลงแม่น้ำ ขณะที่พายเรือผ่านเราก็มองดูว่าเป็นเรื่องกล้วยๆ ... เห็นฝรั่งเขากระโดดและเล่นท่าทางผาดโผนเป็นที่สนุกสนาน ... เรามองหน้ากันแล้วก็พยักหน้า...เราจะลอง

 

เมื่อเรือเทียบท่า... ติ๋วเดินลิ่วนำหน้า และปีนป่านขึ้นไปบนจุดกระโดดอย่างรวดเร็ว... สักพักถึงคิวของติ๋ว..ที่ต้องโหนเชือก โดยใช้แรงเหวี่ยงและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขนเหวี่ยงตัวเองไปตรงกลางแม่น้ำจุดที่ลึกที่สุด และปล่อยมือทิ้งตัวลงน้ำ... เราลุ้นกันไม่นานพอติ๋วโผล่ขึ้นมาจากน้ำก็ว่ายน้ำมาหา ติ๋วบอกว่าตอนกระโดดลงน้ำนั้น ความรู้สึกนานมาก และตอนที่ตัวกระแทกน้ำนั้นเจ็บ... แต่ก็สนุก...

 

แล้วเราก็เกิดอาการเกี่ยงกัน..ใครจะเป็นคนถัดไป ทีแรกฉันว่าจะตามติ๋วไป แต่พอแหงนหน้าดู แม้ความสูงจะไม่ต่ำกว่าเจ็ดเมตร แต่ฉันก็รู้สึกว่ามันสูงจัง รออีกนิดดูลีลาของคนอื่นๆ ไปก่อน... ระหว่างที่เราเชียร์คนนั้นเชียร์คนนี้ พี่รุ่ง ที่ดูเป็นผู้หญิ๊ง ผู้หญิงที่อ่อนหวาน ... และว่ายน้ำไม่เป็น เดินผ่านหน้าฉันไป และปีนขึ้นไปกระโดดลงมา แต่พี่รุ่งใส่เสื้อชูชีพด้วย -----> กล้าหาญมาก เอาล่ะสิ!!! พี่รุ่งที่บ่นไม่สบายบ่อยที่สุดในกลุ่มของเรา ... สร้างวีรกรรมครั้งหนึ่งในชีวิตแล้ว... พี่เอียดกับฉันก็เริ่มเกี่ยงกัน  พี่เอียดยืนกรานเป็นกระต่ายขาเดียวว่าเป็นตายอย่างไรฉันก็จะไม่หลวมตัวปีนขึ้นไป...

 

แต่ฉันนี่สิ...เริ่มลังเล เจ้าติ๋ว..ก็ผ่านหน้าไปกระโดดสองรอบแล้ว

ฉันหายใจเข้าลึก...เดินผ่านหน้านักท่องเที่ยวชาวจีนไป ไม่เป็นไร เราสายตาสั้น ถอดแว่นแล้วมองเห็นไม่ชัดหรอก บอกกับตัวเอง และปีนขึ้นไป เจอคนจีนวัยกลางคนยืนอยู่นานแล้วแต่ไม่กระโดด... ความรู้สึกของฉันขณะที่ปีนขึ้นไปนั้น เอ๊ะ!! ... ทำไมมันสูงขึ้นเรื่อยๆ เนี๊ยะ แต่มือกับเท้าก็ไม่ยอมหยุดปีนป่าย... เมื่อขึ้นไปถึงจุดกระโดดก็นึกในใจอีก... ฉันขึ้นมาทำไมเนี๊ยะ...ฉันอยากจะลง... และฉันก็หันไปบอกชายกลางคนชาวจีนท่านนั้นว่า “You Go” เขาก็ส่ายหน้า ทำนองว่าให้ฉันไปก่อน ... ก็ในเมื่อเขาไม่ไป ฉันก็ไม่ไป... เป็นว่าเราสองคนยืนอยู่นานมาก.. ในใจ นึกอยากจะลง แต่ปีนลงไม่ได้ ไม่ว่าลงทางไหนก็น่ากลัวทั้งนั้นทั้งรู้สึกขำและเวทนาตนเองเป็นที่สุดเลย...

 

น้องๆ พี่อยากจะลง ฉันบอกหนุ่มชาวลาวที่ยืนทำหน้าที่ดูแลการกระโดด

เอื้อยลง...ได้วิธีเดียว ต้องกระโดดลงน้ำ... โห!! ฉันนึกในใจ มองลงไปน่ากล้วมาก น้ำไหลเชี่ยว...ด้วยสิ

 

สักพัก...พี่รุ่งตามขึ้นไป บอกว่า กะปุ๋มขึ้นมานานแล้วนะ เมื่อไรจะกระโดด .. ฉันมองหน้าพี่รุ่งแล้วก็บอกว่า พี่รุ่งปุ๋มอยากจะลง... พี่รุ่งก็บอกว่า ถ้างั้นกระโดดเลย... ฮือฮือ... อยากจะร้องไห้...(นิสัยความเป็นเด็กแสดงออกมา) สักพักก็มีฝรั่งตามขึ้นมาอีกสองคน ตายละว๊า..เบียดกันมากเลย.. พี่รุ่งจึงตัดสินใจกระโดดลงไปอีกรอบ และหนุ่มชาวจีนยอมไต่ลงโดยไม่กระโดด...

 

ฝรั่งสองคน...มองหน้าฉันและบอกว่า “You Go”

ฉันก็บอกไปว่า ... “You Go” ให้คุณไปก่อน ฝรั่งก็ตอบกลับมาว่า ไม่ หากคุณไม่กระโดดเขาก็จะไม่กระโดด

โห!!...กดดันกันมาก...เลย

 

ฝรั่งบอกอีกว่า “You Can …” ฉันก็ตอบกลับไปว่า “No I can’t”

ฝรั่งบอกฉันว่า “It easy for you … you are strong”

ฉันทำหน้าจ๋อยๆ และบอกไปว่า ไม่...ฉันไม่ใช่คนแข็งแรง... การรับรู้ต่อตัวเองเริ่มบิดเบือน ขณะที่คุยกันอยู่นั้นมีฝรั่งอีกหลายคนเริ่มปีนมาออกัน ... ฉันต้องกระโดด... ฉันบอกกับตัวเอง ฉันต้องผ่านมันไปให้ได้ ฉันถามตัวเองว่าฉันกลัวอะไรเหรอ -----> กลัวตายเหรอ ฝึกมรณานุสติ มาแล้วไม่ใช่เหรอ

 

ฉันต้องผ่านมันไปให้ได้...ต้องเผชิญหน้ากับมัน เจ้าความขี้ขลาด ...

คำสั่งสอนของครูบาอาจารย์... ให้ตื่นรู้ดูจิต ... ผลุดขึ้นมา สติ กลับมา

สูดลมหายใจเข้าลึก... หันไปบอกฝรั่งว่า “OK ฉันจะกระโดด... เท่านั้นแหละหนุ่มน้อยฝรั่งท่านนั้นมองฉันอย่างเชื่อมั่นว่า ฉันทำได้... ฉันคว้ามือจับเพื่อโหนตัวไปกลางน้ำ... ตั้งท่า ตั้งสติ  ฝรั่งท่านนั้นจับแขนฉันและบอกว่า โอ้...คุณเป็นคนที่แข็งแรงมาก กล้ามเนื้อแขนคุณเป็นมัดๆ เลย สิ้นเสียงเขาฉันปล่อยตัวโหนไปเลยค่ะ ได้ยินแต่เสียงโห่ร้องเชียร์จากคนที่อยู่ข้างล่าง ... ฉันมองไม่เห็นชัดนัก เพราะไม่ได้ใส่แว่นตา ... พอไปถึงกลางน้ำแทนที่ฉันจะปล่อยมือ... ทิ้งตัวลงน้ำ แต่ไม่ปล่อย... แต่โหนตัวกลับมา...ทุกคนเงียบหมด เอ๊ะ!! ฉันทำอะไรลงไปเหรอเนี๊ย.. ฉันไม่กล้าปล่อยมือ แล้วแขนฉันจะรับน้ำหนักตัวฉันได้เหรือเปล่าเนี๊ยะ... โห!! ความคิด ปรุงแต่งขึ้นมาเยอะเลย... เมื่อโหนกลับมาที่ตรงกลางน้ำ...ต้องปล่อยมือแล้วนะปุ๋ม เธอจะมาโหนกลับไปกลับมาไม่ได้ มันต้องมีที่จบของเรื่อง ------> ฉันได้ยินเสียงปรบมือและตะโกนเชียร์...อีกครั้ง จากนั้นก็ปล่อยมือทิ้งตัวลงน้ำ...นานมากกว่าร่างกายนี้จะกระทบและสัมผัสน้ำ

 

ความมืด...ดับ แต่เห็น จิตสว่าง...

แสงจ้า...อีกครั้ง..พร้อมสูดลมหายใจ...ได้ยินเสียงปรบมือ

 

มองเห็นท้าวกล้วยเอาเรือ...มารอรับแล้วที่กลางน้ำ...

ฉันผ่าน... แล้ว ความกลัวที่จ่ออยู่ตรงหน้า...รุกรานฉันไม่ได้

อีกหนึ่งบททดสอบ...

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 179526เขียนเมื่อ 29 เมษายน 2008 17:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

สบายดีค่ะพี่ดร. 

* wow! congratulations !

* สำหรับที่ผ่านการสักหลาวค่ะ

* พี่เก่งจัง ปูยังมิกล้าเลย

* พี่ไปลาวบ่อยจังนะคะ ..

* คิดถึงวังเวียง คิดถึงลาวค่ะ

* จะเป็น armchair traveller อยู่ทางนี้ค่ะ

 

อ่านเรื่องท่องเที่ยววังเวียง สักหลาวของคุณแล้วเหมือนอยู่ในเหตุุการณ์นั้นจริงๆ สนุกมาก แต่นึกเสียวใส้แทนคุณ ที่ต้องพุ่งหลาวลงกลางแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกรากอย่างนั้น ตอนผมเป็นหนุ่มก็ชอบลองอะไรที่ตื่นเต้นเสียวใส้เหมือนหนุ่มสาวทั่วไป ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่มีค่าแก่ความทรงจำ มีโอกาสอยากไปลองสักหลาวดูสักครั้งที่ วังเวียง และต้องรีบไปด้วย เพราะอีกไม่กี่ปีคงปีนไม่ไหวแล้ว (ส.ว. อาวุโส)แถมกลัวความสูงอีกต่างหาก งั้นขอเป็นกองเชียร์อยู่ข้างล่างก็แล้วกัน

อิอิ สนุกกันใหญ่เลย

แต่พี่หนิงไม่กล้าสักหลาวหรอกค่ะ  กลัวไม่ลอยเพราะตามกฎ F=ma เพราะ m พี่เยอะ เจอแรงโน้มถ่วงของโลกอีก  หุหุ

สวัสดีค่ะ

เห็นภาพประกอบแล้ว ท่าทางสนุกมาก

พออ่านเรื่องเล่าก็มีทั้งความสนุก ความกล้าหาญ และธรรม

ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์นะคะ

ผู้สูงอายุแบบคนชอบวิ่งนี่เค้าอนุญาตให้โดดมั๊ยครับ  อิอิ

ซำบายดีค่ะ...คุณปูP  poo

นี่เป็นช๊อทที่สนุกมากเลย...ได้ทดสอบความแข็งแรงทางด้านร่างกายและจิตใจเลยค่ะ... ใครๆ ก็ทึ่งว่าพี่กะปุ๋มทำได้ยังงัย...ที่โหนตัวกลับไปกลับมา คนที่ทำได้นั้นต้องแข็งแรงมาก เพราะแรงเหวี่ยงแรง และจะมีแต่ฝรั่งไม่กี่คนที่ทำ  เพราะนั่นเขาเล่นท่าผาดโผนได้...นอกนั้นโหนไปทีเดียวก็กระโดดเลย เจ้าติ๋วว่ากล้าหาญสุด..กระโดดสองรอบก็ยังไม่โหนกลับไปมาเลย...

อิอิ...นึกไปแล้วก็ขำตัวเอง...

เสียดาย..ที่ลืมถ่ายภาพ เพราะทุกคนลุ้นกับพี่จนลืมที่จะหยิบกล้องมาถ่ายภาพ...

(^___^)

 

อ้อ...คุณปู พี่กะปุ๋มลืมบอกไปว่า...

ที่โหนกลับไปมานั้น ไม่ได้หมายถึงพี่เก่งนะคะ...แต่ไม่กล้าปล่อยมือต่างหาก...555... ต่อจากจุดนี้ยังมีเรื่องสนุกๆ...อีกนะคะ..เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง...

ตอนที่โหนกลับ กลับมานั้น... ในใจก็นึกว่า "ใครก็ได้ช่วยฉันที...ช่วยพาฉันลงไปหน่อย...ฉันอยากจะลง..."... 555

โอ๊ย..นึกแล้วก็อดขำไม่ได้

เล่าไปก็ยังหัวเราะไปด้วยนะเนี๊ยะ...อิอิ

(^_____^)

 

สวัสดีค่ะ... Uncle riceman...

"อ่านเรื่องท่องเที่ยววังเวียง สักหลาวของคุณแล้วเหมือนอยู่ในเหตุุการณ์นั้นจริงๆ สนุกมาก แต่นึกเสียวใส้แทนคุณ ที่ต้องพุ่งหลาวลงกลางแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกรากอย่างนั้น ตอนผมเป็นหนุ่มก็ชอบลองอะไรที่ตื่นเต้นเสียวใส้เหมือนหนุ่มสาวทั่วไป ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่มีค่าแก่ความทรงจำ มีโอกาสอยากไปลองสักหลาวดูสักครั้งที่ วังเวียง และต้องรีบไปด้วย เพราะอีกไม่กี่ปีคงปีนไม่ไหวแล้ว (ส.ว. อาวุโส)แถมกลัวความสูงอีกต่างหาก งั้นขอเป็นกองเชียร์อยู่ข้างล่างก็แล้วกัน"

กะปุ๋มก็เชื่ออย่างนั้นนะคะ ครั้งหนึ่งในชีวิต เมื่อผ่านไปเราก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสอีกหรือไม่ เมื่อมันผ่านเข้ามาแล้ว เราก็ลองดูซะ... ไม่ทำก็ได้ แต่หากเมื่อใจอยากจะทำและลองเรียนรู้ดู...สิ่งที่มีค่าที่สุด ก็คือ การเรียนรู้ ภายในเห็นกระบวนการทางจิตของตัวเองตลอดเวลานี่สิ มหัศจรรย์มาก...และที่สำคัญ คือ การได้เผชิญหน้าต่อความกลัว...ที่มันมักเกาะกินหัวใจ"คน"เรา...เสมอ

กะปุ๋มว่า...uncle riceman สูงแต่วัยแต่หัวใจยัง..smart อยู่เลยนะคะ...อิอิ

(^____^)

ยังติดใจ กับความกล้าของพี่ดร. ค่ะ

* ตอนนี้ยังอยู่ลาวบ่คะ  ..

* ทุกครั้งที่อ่านเรื่องพี่มักจะมีข้อคิด แฝงเสมอ

ชอบ ...

ความมืด...ดับ แต่เห็น จิตสว่าง...

แสงจ้า...อีกครั้ง..พร้อมสูดลมหายใจ...ได้ยินเสียงปรบมือ

 

มองเห็นท้าวกล้วยเอาเรือ...มารอรับแล้วที่กลางน้ำ...

ฉันผ่าน... แล้ว ความกลัวที่จ่ออยู่ตรงหน้า...รุกรานฉันไม่ได้

อีกหนึ่งบททดสอบ...

* เมื่อก่อนคุยกับใครเค้าไม่รู้เรื่อง ว่า ปรัชญา มีแต่อุดมคติ

* แต่พอมา ที่นี่ ใช่เลยค่ะ   ... gtk เป็นเครือข่ายที่แสนมหัศจรรย์

* ดีใจนะคะ ที่ได้รู้จัก ผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่เป็นผู้หญิงเหล็ก อีกคนนึง แห่งแดนอิสาน  ...

* จะรอ ฝึกจิต ผ่านบันทึกพี่ ดร. ค่ะ 

 

ไปเที่ยวสักหลาวด้วยนะครับ ทำให้ผมคิดถึงตอนเป็นเด็ก กระโดดฝั่งน้ำปาย

เตรียมตัวพร้อมแล้วครับ พาสปอร์ตผมยังใช้ได้ ดิเรกไปทำพาสปอร์ตใหม่แล้ว

เจอกันครับผม ดร.กะปุ๋ม

อยากไปด้วยๆ จะไปกันเมื่อไหร่เนี่ย..

ออกเดินทางจากขอนแก่นวันที่ 9 ค่ะพี่หนิง...

9 พค นอนที่เวียงจันทร์ (บ้านเพื่อนของกะปุ๋มค่ะ..)

10 ตื่นไปวังเวียง ค้างหนึ่งคืน...และเดินทางกลับจากวังเวียง...วันที่ 11 ค่ะ...

เตรียมพาสปอร์ต...แล้ว pack กระเป๋าไปพร้อมเราเลยค่ะพี่หนิง โทรหากะปุ๋มหรือคุณเอกก็ได้ค่ะ...

conferm...

อ้อ..ลืมบอกไปค่ะพี่หนิง...P  DSS "work with disability" ( หนิง )

คุณเอกกับคุณดิเรก...ตั้งใจจะไปสักหลาว...

คราวนี้แหละ...หากพี่หนิงไปด้วย...จะพาไปสักฯ ด้วยค่ะ..อิอิ

ขอบคุณ อ.P  นายประจักษ์ มากนะคะที่แวะมาทักทาย Icon น่ารักค่ะ

(^____^)

พี่แจ๋ว..(ขออนุญาตเรียกพี่นะคะ..อิอิ)...ขอบคุณที่แวะมาทักทายเสมอ .. วันนี้ได้ฤกษ์ดีที่พอมีช่องว่างของเวลาเข้ามาตอบความเห็น...

ขณะเผชิญหน้า...เราตื่นรู้และเร็วพอ..หรือไม่ที่จะตามอารมณ์ของเราเอง...เกือบอึดใจใหญ่เลยค่ะ..ที่กะปุ๋มจะได้สติตามว่า "กลัว"...แล้วพิจารณาหา เหตุแห่งความกลัวนั้น...เมื่อเจอเราก็ผ่านมันไปได้อีกครั้ง... ต้องคอยไม่ให้รากเหง้าของเมล็ดพันธุ์นี้งอกเงยในจิตใจเราค่ะ

(^____^)

คุณหมอสุธีคนชอบวิ่งไป...นิวซีแลนด์...กันไหมคะ...

(^____^)

น้องปู

เมื่อก่อนคุยกับใครเค้าไม่รู้เรื่อง ว่า ปรัชญา มีแต่อุดมคติ

* แต่พอมา ที่นี่ ใช่เลยค่ะ   ... gtk เป็นเครือข่ายที่แสนมหัศจรรย์

* ดีใจนะคะ ที่ได้รู้จัก ผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่เป็นผู้หญิงเหล็ก อีกคนนึง แห่งแดนอิสาน  ...

ขอบคุณ...นะคะ...พี่กะปุ๋มเป็นผู้หญิ๊ง...ผู้หญิงธรรมดาค่ะ..อิอิ แต่ก็ขอบคุณมากที่ยกตำแหน่งหญิงเหล็กให้ค่ะ...^__^...

พี่มองว่า "ปรัชาญา" คือ ความจริงแห่งธรรมชาติ และที่เราเป็นอยู่อย่างธรรมดา ธรรมดานี่แหละ ก็คือ ปรัชญา...

แวะมาคุยบ่อยๆ นะคะ...

(^___^)

พี่กะปุ๋ม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท