การสื่อสารเรื่องเพศ : ตอน ถุงยางอนามัย กับวิธีใช้อย่างถูกต้อง


คำถาม : ถุงยางอนามัยใช้ก่อนหรือหลังอาหารครับ? คำตอบ : ถุงยางอนามัยไม่ใช่เกลืออนามัย จะใช่ก่อนหรือหลังอาหารไม่ว่ากันครับ แต่อย่าใช้ขณะกำลังทำอาหาร...เดี๋ยวแสบ ๆร้อน ๆ

    กรณีที่ 2 :  สยาม หมอหนุ่มอนาคตไกลเพิ่งจบการศึกษาระดับปริญญาโทเกียรตินิยมด้านเวชศาสตร์ครอบครัว ได้บรรจุเป็นข้าราชการตามเจตจำนงของผู้เป็นพ่อ-แม่ในโรงพยาบาลประจำจังหวัด ซึ่งแต่ละวันมีคนไข้มากมายหลายประเภทจนแทบจะSex เสื่อมอสุจิฝ่อเพราะไม่ได้พักทานข้าว ทำไมภาพของอาชีพหมอที่เขาใฝ่ฝันแต่วัยเยาว์ถึงกลายเป็นภาพตรงข้ามเหมือนขาวกับดำเช่นนี้ กำลังคิดยังไม่จบก็มีเสียงเรียกจากพยาบาลหน้าห้องคุณหมอค่ะ มีคนไข้จะเข้าไปแล้วนะคะ สิ้นเสียงก็มีคนได้เดินเข้ามา ไม่ปล่อยให้กูมีเวลาแม้แต่จะคิดเลยวุ้ย หมอสยาม บ่นกับตัวเองใจใจ คนไข้ที่เดินเข้ามาเป็นหญิงสาวหน้าตาซื่อ ๆท่าทางเรียบร้อย กิริยามารยาทดี ผิวพรรณหมดจด ไหว้ทักทายตามแบบกุลสตรีที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี แถมเมื่อคุณหมอชำเลืองดูชื่อและนามสกุลแล้วก็ต้องตกใจเพราะว่าเธอเป็นทายาทของผู้ดี มีตระกูล มีหน้ามีตาในสังคม เชิญนั่งครับ มีอะไรให้หมอช่วยเหลือบอกได้เลยครับไม่ต้องเกรงใจ คนไข้สาวหน้าแดงก่ำพร้อมกับบิดตัวไปมาก่อนที่จะตอบเบาๆ ว่า ดิฉันเพิ่งแต่งงาน ยังไม่อยากมีลูก จึงมาขอยาคุมกำเนิดค่ะ แค่นี้เองเหรอครับ เรื่องเล็กน้อยหมอสยามก็เขียนข้อมูลลงในบัตรคนไข้พร้อมกับลุกเดินไปที่ตู้ยาในห้องและหยิบยาแผงหนึ่งออกมาพร้อมอธิบาย นี่เป็นยาอย่างดีของโรงพยาบาลเราให้คุณกินทีละเม็ด ย้ำทีละเม็ดนะครับ กินตามลูกศร ห้ามย้อนศร ถ้าวันไหนลืมก็กินเม็ดต่อไปได้เลย ไม่ต้องกินล่วงหน้าผมให้ไป 3 แผงเลย พอยาใกล้หมดมาหาหมออีกที พอหมออธิบายจบคนไข้สาวก็ไหว้ก่อนที่จะออกไปเช่นเดียวกับตอนเข้ามา เฮ้อ...และแล้ววิถีชีวิตของหมอก็ดำเนินเรื่อยไปตามปกติจนหลังจากนั้นอีกครึ่งเดือน คนไข้คนเดิมก็กลับมาหลังจากที่หมดสยามดูประวัติก็แปลกใจที่ยังไม่ถึงกำหนดนัดจึงถามว่า คุณเพิ่งมาหาหมอเมื่อครึ่งเดือนก่อน และหมอให้ยาคุมคุณไป 3 แผง หมอนัดอีกครั้งเมื่อยาใกล้จะหมดนี่ครับ แล้ววันนี้คุณจะให้หมอช่วยเหลือเรื่องอะไร คนไข้สาวนั่งหน้าแดงนิ่งก้มหน้า จนสยามต้องถามย้ำอีกครั้งเบา ๆคุณครับฟังหมอพูดอยู่หรือเปล่า คนไข้สาวเงยหน้าขึ้นช้า ๆ พร้อมกับเอ่ยเบา ๆ ค่ะ ฟังอยู่...ที่มาวันนี้ก็จะมาขอยาเพิ่มแหละค่ะ เพราะว่ามันใกล้จะหมดแล้ว ดิฉันก็กินยาตามที่หมอบอกทุกอย่าง ไม่ลืมกินเลย ไม่กินย้อนศรด้วย ขนาดที่กินก็กินทีละเม็ด ทีละเม็ด ที่หมดเร็วเพราะบางวันก็ 3 ที บางวันก็ 5 ที ค่ะ

แล้วสถานการณ์นี้หล่ะเรามองเห็นอะไรอีก?

         จึงไม่แปลกใจเลยที่ในการสนทนากับกลุ่มวัยรุ่น คำถามมากที่สุดจะเป็นเรื่องของถุงยางอนามัย ทั้งประโยชน์และวิธีการใช้ แสดงให้เห็นว่า "วัยรุ่นยังเข้าไม่ถึงข้อมูล" และ สังคมมีการสื่อสารเรื่องเพศกับวัยรุ่นยังไม่พอเพียง

 

 

 

วิธีใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้อง

1.      ตรวจสอบวันเดือนปีที่หมดอายุ  ซึ่งบันทึกไว้หน้าซอง  และตรวจดูว่าไม่มีรอยฉีกขาดที่ซอง

2.   ฉีกซองถุงยางอนามัยอย่างระมัดระวัง  เพื่อป้องกันถุงยางอนามัยฉีกขาด นำถุงยางอนามัยออกจากซองอย่างระมัดระวัง อย่าให้โดนเล็บหรือของมีคม ให้ส่วนที่เป็นกระเปาะหันขึ้นด้านบน ขอบที่ม้วนอยู่จะหันออกด้านนอก

3.   ใช้มือจับตรงกระเปาะส่วนหัวบีบปลายถุงยางเพื่อไล่อากาศ สวมถุงยางอนามัยที่ส่วนหัวขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัว

4.   รูดถุงยางอนามัยจากปลายอวัยวะเพศชายให้ม้วนขอบอยู่ด้านนอก สวมถุงยางอนามัยแล้วรูดให้ขอบถุงยางสุดถึงโคนอวัยวะเพศ

5.   ในขณะร่วมเพศอาจจะใช้สารหล่อลื่นที่มีส่วนประกอบของน้ำ เช่น เควายเจล เพื่อป้องกันการเสียดสีอย่างแรงอันจะทำให้ถุงยางฉีกขาด

6.      ในขณะร่วมเพศหากถุงยางอนามัยหลุดหรือฉีกขาดควรหยุดภารกิจเพื่อเปลี่ยนชิ้นใหม่ทันที

7.   หลังเสร็จกิจควรรีบถอนอวัยวะเพศจากช่องคลอดในขณะที่อวัยวะเพศยังแข็งตัวไม่ต้องเอาแช่ไว้จนอวัยวะเพศอ่อนตัวโดยจับถุงยางอนามัยบริเวณโคนอวัยวะเพศเพื่อป้องกันมิให้ถุงยางอนามัยหลุดในช่องคลอด(หรือทวารหนักตามกรณี)

8.   รูดถุงยางอนามัยออก  โดยใช้กระดาษชำระหุ้มถุงยางก่อนที่จะถอด หากไม่มีกระดาษชำระต้องไม่ให้มือสัมผัสกับด้านนอกของถุงยาง ควรสันนิษฐานว่าด้านนอกของถุงยางอาจจะปนเปื้อนเชื้อโรคแล้ว

9.   ทำความสะอาดอวัยวะเพศหลังการร่วมเพศ (ไม่ต้องถึงขนาดล้างด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างแรงหรือลวกด้วยน้ำร้อน) ด้วยสบู่กับน้ำอุ่น หรือหากไม่มีอุปกรณ์ทำความสะอาดก็อาจจะล้างด้วยน้ำธรรมดาก็ยังดี และควรพึงระลึกด้วยว่า หากหลังเสร็จภารกิจทันทีแล้วรีบพรวดพราดไปทำความสะอาดแล้วทำความสะอาดอีกอาจจะส่งผลต่อความรู้สึกของฝ่ายตรงข้ามทำให้เกิดทัศนคติในเชิงลบได้

 

ข้อควรระลึกในการใช้ถุงยางอนามัย

1.   ควรเลือกถุงยางอนามัยที่มีขนาดเหมาะสม ( โดยทั่วไปในเมืองไทยมี  2  ขนาด คือ  49 และ 52  มม. ) ส่วนใหญ่รูปร่างคนไทยจะเหมาะกับขนาด 49 แต่เด็กวัยรุ่น รุ่นใหม่มีการเจริญเติบโตเร็ว มีสัดส่วนอวัยวะที่ใหญ่ขึ้น จึงต้องใช้ขนาด 52 หรือ 54 เลือกขนาดให้เหมาะสม หากคับไปก็จะทำให้ฉีกขาดและรู้สึกอึดอัด หลายคนกลัวอายเพื่อนและอยากอวดขนาดความใหญ่โตจึงใช้ขนาดที่ใหญ่กว่าของตนเองเวลาสวมก็ทำให้หลุดได้.....มีขนาดไหนใช้ขนาดนั้น ยินดีในสิ่งที่ตนได้ พอใจในสิ่งที่ตนมี

2.   ควรเตรียมถุงยางอนามัยมากกว่า  1  ชิ้น  เผื่อกรณีถุงยางอนามัยฉีกขาดหรือต้องการร่วมเพศซ้ำ หรือหากต้องการเปลี่ยนคู่ร่วมเพศกะทันหันในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ร่วมกันหลายคนในเวลาสถานที่เดียวกันในรูปแบบของการเซ็กซ์หมู่ หรือการสวิงกิ้ง (ซึ่งบางคนมองว่าเป็นความชอบส่วนบุคคล หรือบางคนมองว่าเป็นความผิดปกติทางจิตก็ว่ากันไป แต่ที่แน่ ๆ ยิ่งมีกิจกรรมทางเพศเกิน 1 คน ขึ้นไปความเสี่ยงสารพัดย่อมสูงขึ้นเป็นทวีคูณ)

3.   การสวมถุงยางอนามัยเมื่อมีแสงไฟสว่างพอประมาณ  จะง่ายกว่าสวมถุงยางอนามัยในความมืด แม้บางคนจะเพิ่มลูกเล่นด้านกลิ่น รส ของถุงยาง หรือใช้ถุงยางเรืองแสงในที่มืดก็แล้วแต่บุคคล ที่สำคัญควรสวมใส่ในเฉพาะที่ที่ทำกิจกรรม ไม่ต้องสวมโชว์ต่อหน้าสาธารณชนจะดีกว่า

4.   อีกฝ่ายหนึ่งอาจเป็นฝ่ายสวมถุงยางอนามัยให้  เพราะผู้ชายบางคนอวัยวะเพศอ่อนตัวง่ายหากต้องสวมเอง  หากบางคู่จะเพิ่มเทคนิคอื่นเข้าไป เช่น การสวมถุงยางอนามัยด้วยปาก แต่ต้องแน่ใจว่าฟันของผู้สวมใส่จะไปโดนถุงยางอนามัยจนฉีกขาด

5.   การหยด  K-Y Jelly (เควาย)  นอกจากทาภายนอกถุงยางอนามัยโดยรอบแล้ว  บางท่านแนะนำให้ทาภายในปริมาณเล็กน้อยบริเวณระหว่างอวัยวะเพศของผู้สวมใส่กับถุงยางอนามัย  เพื่อให้รู้สึกสัมผัสดีขึ้น  หากหยดปริมาณมากถุงยางอนามัยจะลื่นหลุดขณะร่วมเพศได้

6.   ห้ามใช้  Vaseline(วาสลีน) , Cream  หรือน้ำมันต่างๆ ทั้งน้ำมันใส่ผม น้ำมันหล่อลื่น น้ำมันหมู น้ำมันพืช ฯลฯ (ไม่ต้องประหยัดขนาดนั้น) ในการหล่อลื่นแทน  K-Y Jelly  หรือเจลที่มีส่วนประกอบของน้ำเพราะจะทำให้ถุงยางฉีกขาดได้

7.   การสวมถุงยางอนามัย  2  ชั้นขึ้นไป  จะทำให้ถุงยางฉีกขาดได้จากการเสียดสีกันเพราะเกิดความร้อนและถุงยางอนามัยทำขึ้นจากยางพารา

8.   หลีกเลี่ยงการร่วมเพศขณะมีภาวะมึนเมาจากสุรา  ทำให้โอกาสใช้ถุงยางอนามัยมีน้อย  อีกทั้งฤทธิ์แอลกอฮอล์มีผลทำให้หลั่งช้ากว่าปกติ  ซึ่งทำให้เลิกล้มการใช้ถุงยางอนามัยกลางคัน

9.   เมื่อใช้เสร็จแล้ว ไม่ต้องประหยัดถึงขนาดนำมาใช้ใหม่อีกรอบหรือหลายรอบ เพราะถุงยางอนามัยถูกผลิตมาเพื่อใช้สำหรับการร่วมเพศครั้งเดียวแล้วทิ้ง แต่หากถูกนำมาใช้ในรูปแบบอื่นก็อาจจะนำมาใช้ได้หลายครั้งตามสภาพ เช่น ใช้ห่อหุ้มกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ เพื่อป้องกันน้ำเข้า ใช้ทำเป็นยางรัดผม ยางมัดของ ฯลฯ

10. หลังจากที่ใช้และถอดออกเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องเอาเก็บไว้ดูต่างหน้า หรือเอาเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ให้คนอื่นได้อุจาดตา ควรทิ้งในที่เหมาะสม เช่น ถังขยะ และห่อให้มิดชิดก่อนทิ้ง ไม่ควรทิ้งลงในชักโครก เพราะอาจจะทำให้เกิดการอุดตันของท่อ และอาจเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของพนักงานสูบส้วมในกรณีส้วมเต็มได้

 

หมายเลขบันทึก: 178732เขียนเมื่อ 25 เมษายน 2008 19:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่าน


ความเห็น

อืม...ใช้กันอย่างนี้นี่เอง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท