ปัญหา น้ำ และการจัดการ ดูจะเป็นปัญหาซ้ำซาก เรามักได้ยินการจัดสรรงบภัยแล้ง และมีการนำรถยนต์บรรทุกไปแจกน้ำให้ประชาชนในระยะนี้ วันนี้ผมเห็นเอกสารการสรุป ประชุมน้ำโลก ครั้งที่ ๓ ที่ประเทศญี่ปุ่น สรุปโดยคุณมนตรี จันทวงศ์ มูลนิธิฟื้นฟูชีวิตและธรรมชาติ ได้ทำการสรุปไว้น่าสนใจ
นับจนถึง พ.ศ.๒๕๕๑ เป็นเวลา ๕ ปีแล้ว คราวนี้รัฐบาลำทยมีส่วนร่วมที่สำคัญ ๓ ประการ คือ ๑.การเสนอรายงานโครงการประเมินสถานการณ์น้ำของโลกในส่วนของประเทศไทย กรณีศึกษาการพัฒนาและบริหารลุ่มน้ำเจ้าพระยา ๒.การเสนอแผนปฏิบัติการทรัพยากรน้ำของประเทศไทย และ ๓.การประชุมและจัดทำคำแถลงการณ์ร่วมระดับรัฐมนตรี ฯลฯ เป็นการประชุมระหว่างวันที่ ๑๙ - ๒๑ มีนาคม ๒๕๔๖
ที่ผมต้องนำเรื่องนี้มาเขียนซ้ำ เพราะน้ำเกี่ยวข้องกับชีวิตพวกเราอย่างมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยพสนิกรพระองค์ท่าน ได้ทรงมีพระราชดำรัส โครงการพระราชดำริ ฯลฯ ไม่น้อยเกี่ยวกับ น้ำ และ การบริหารจัดการ ความพอเพียง และการใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหา จนถึงวันนี้เราก็ยังเห็นราชการ องค์กรการกุศล พากันไปแจกน้ำให้แก่ประชาชนที่ขาดแคลนกันอยู่ ผมว่ายังไม่สายที่จะได้น้อมนำแนวทางพระราชทานมาปฏิบัติ มาร่วมมือ รวมใจแก้ปัญหาที่ต้นเหตุกันเถอะ
การแก้ไขปัญหาจะให้ได้ผล ทุกคนยอมรับกันว่า แก้ไขเป็นระบบ ไม่ใช่จะเอาแต่กำหนดว่า จะเก็บน้ำจากผู้ใช้น้ำอย่างเดียวโดยการอ่านมาตรวัดน้ำ มีวิธีการและกุศโลบายมากมาย จังหวัดไหนมีการแก้ไขปัญหาดี ๆ กรุณาได้สื่อสาร บอกบุญและแลกเปลี่ยนกันเข้ามาได้ครับ
๒๕ มีค.ที่ผ่านมา ที่เมืองทองธานี มีการประชุมเรื่องน้ำแห่งชาติ
ผมแวะไปเยี่ยมชาวเครือข่ายเราจากลำปาง ตัวแทนน้ำวัง ขณะเดินอยู่ก็เจอ ผอ.ศักดิ์และพวกตัวแทนลุ่มน้ำน่าน ตอนบ่าย ผมพามาที่สำนักงานทาฟ พร้อมตัวแทนน้ำจากน้ำยม จ.พะเยา ร่วมแจมมาด้วย
ผมไม่ใช่ผู้แทน แต่ร่วมแจมเสียครึ่งวันก็เห็นเถียงอย่างพี่ธนูว่านั่นแหละ
เขาถามว่า "น้ำใครหว่า?" เป็นเอกสาร ผมกลับดีกว่าเพราะเขายังไม่รู้ว่าเป็นน้ำของใครเลย
สวัสครับคุณ TAFS
ลงมือทำงานกันได้แล้ว และเอางานที่ทำมาถกกัน เพื่อให้มีการแก้ไข ไม่ลงมือทำงาน หรือทำในใจ ก็จะเป็นเหมือนที่กล่าวคือ ยังไม่รู้ว่าจะบริหารจัดการน้ำอย่างไร เพราะไม่รู้ว่า น้ำเป็นของใคร? ตื่นเถิดชาวไทย