คิดไม่เหมือนคนส่วนใหญ่ ทำไมเขาต้องผิด ?


.............. น่าสงสาร.................

               ผู้เขียนสังเกตเห็นพฤติกรรมของเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 คนหนึ่ง ...ที่มีพฤติกรรมที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง เช่น

       1. ตอนเช้าก่อนจะเคารพธงชาติจะนั่งอ่านหนังสือคนเดียว บริเวณที่ห่างจากผู้คน ขณะที่คนอื่น เดินทักทาย เดินคุยกัน หยอกล้อกัน อย่างสนุกสนาน

       2. ช่วงพักกลางวัน จะแยกตัวจากกลุ่มเพื่อนร่วมห้อง นั่งคนเดียวขณะที่คนอื่นจับกลุ่มเล่นกัน

       3. หลังเลิกเรียนรีบกลับบ้านไม่สนใจใครทั้งสิ้น

 

       เนื่องจากเป็นนักเรียนที่ไม่ได้สอนโดยตรง ทำให้ไม่ได้รู้พฤติกรรมภายในห้องเรียนว่าเด็กคนนี้เป็นคนอย่างไร ด้วยควมสงสัยและเป็นห่วงกับพฤติกรรมที่คล้ายเป็นคนเก็บกด และชอบแยกตัวอยู่คนเดียว พอมีโอกาสผู้เขียนจึงเข้าไปสอบถามปัญหา

       " สวัสดีครับคุณครู"  เด็กทักทายเมื่อเห็นผู้เขียนเดินเข้ามาหา

       " ครูนั่งด้วยได้ไหม ? "    ผมถามอย่างเป็นมิตร

       "ได้ครับ..เชิญครับคุณครู " คำเชิญอย่างสุภาพ

       หลังจากนั้นผู้เขียนได้ ชวน...คุยไปเรื่อย ๆ  ซึ่งขณะที่คุยได้ สังเกตอากัปกริยาซึ่งผู้เขียนสามารถสรุปได้ว่าเป็นเด็กที่ไม่มีปัญหาอะไร  ไม่ใช่คนที่เก็บกด   จึงเริ่มถามคำถามเข้าประเด็นที่ต้องการถึงเหตุการณ์ที่ สังเกตุเห็นในช่วงนี้   เด็ก..อ้ำ..อึ้ง...อยู่พักใหญ่ก่อนจะตอบด้วยเสียง เศร้า ๆ

      "เพื่อนในกลุ่มผมไม่ให้ผมเล่นด้วยครับ...เพราะเพื่อนบอกชอบขัดเวลาที่เพื่อนจะชวนกันทำผิดกฏโรงเรียนครับ"

     "ครูครับ.....ผมผิดด้วยหรือครับที่มีความคิดไม่เหมือนคนเพื่อน ๆ "

แค่นี้ผู้เขียน...ได้ฟังก็พอจะเดาเหตุการณ์ออก

   เฮ้อ....อ.อ.อ.....  

     ช่วงวัยรุ่น...เพื่อนช่างมีอิทธิพลเหนือสิ่งใดจริง ๆ ( เหมือนตอนที่เราเป็นวัยรุ่นนั่นแหละ) หลังจากนั้นผู้เขียนพูดปลอบใจ และยกตัวอย่างของผู้เขียนเอง ชักแม่น้ำทั้ง 5 โยงประเด็นเพื่ออธิบายให้ฟัง... แล้วผู้เขียนก็ขอตัวออกจากที่นั่งอยู่ปล่อยให้เด็กนั่งใช้ความคิดคนเดียว

   วันต่อมาผู้เขียน ก็ได้สนทนากับกลุ่มเพื่อนของเด็กคนนั้น ( เล็ง...ไปที่หัวโจกของกลุ่ม)พูดคุยและสนทนาแบบวัยรุ่นอย่างเป็นกันเองและสอบถามถึงสมาชิกในกลุ่มอีกคนที่หายไป ก็ได้คำตอบว่าคนในกลุ่ม " บอยคอร์ต " เพราะมีความคิดขัดแย้งกับคนในกลุ่ม

 

  ผู้เขียนจึงได้อบรม ( สนทนาภาษาวัยรุ่น ) ถึงข้อเสียที่จะกระทบต่อเพื่อนคนหนึ่งที่มีความสำพันธ์กันมาเนิ่นนานแต่ต้องถูกแยกออกจากกลุ่ม  และสิ่งที่พึงกระทำขณะอยู่ในสถาบันการศึกษา ในสถานะของการเป็นนักเรียน

หลังจากนั้นหลายวันเหตุการณ์ของกลุ่มนี้ก็กลับสู่สภาวะปกติ

ได้ผล... ประสบการณ์ของวัยรุ่นสมัยก่อนยังใช้ได้ผลกับวัยรุ่นสมัยใหม่..แฮะ...

คบคนพาลพาไปหาผิด  คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล

สังกต...เด็กของท่านให้ดีนะครับ ไม่ใช่เฉพาะในห้องเรียนเท่านั้น แต่ดูพฤติกรรมนอกห้องเรียนด้วย   วัยรุ่น  ...   อิทธิพลจากเพื่อนมีความสำคัญมาก  มีผลต่สภาพจิตใจและพื้นฐานสู่อนาคตของเด็กด้วย....ครับ

                                                                                                                              

หมายเลขบันทึก: 174940เขียนเมื่อ 3 เมษายน 2008 12:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

อืมม ฮืมม ครูครับ ... ผมมองเห็นภาพตัวเองตอนเด็กเลยล่ะเรื่องนี้

ขอบคุณครับครู :)

คุณ SINGHA _THE KOP / RODEO...เป็นคุณครูที่เยี่ยมมากเลยค่ะ...

เอาใจใส่ลูกศิษย์ในโรงเรียน...แม้จะไม่ใช่เป็นเด็กที่ได้สอนโดยตรง...ก็ยังอุตส่าห์เป็นห่วงเด็กๆ

เป็นคุณครูสอนเด็กวัยรุ่น...ก็ต้องเทคนิคการสอนแบบวัยรุ่น......ประมาณว่าเคยอายน้ำร้อนมาก่อน...

น่าชื่มชมจริงๆค่ะ....

คิดไม่เหมือนส่วนใหญ่...ใช่ว่าจะผิดค่ะ...(ต้องดูกันที่เหตุูผล...)

 

 

ดีใจแทนท่านผู้บริหารของสถานศึกษาแห่งนี้ด้วยค่ะ..ที่มีบุคลากรที่มีคุณภาพอย่างนี้  จิตวิทยาเจ๋งมั่กมาก..ที่สามารถล้วงความลับวัยโจ่ได้  55  นีแหละน๊า วัยรุ่น  เข้าใจยาก  แต่ไม่ยากสำหรับการทำความเข้าใจ!!!

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท