โครงการนี้มีประโยชน์ ในแง่การบูรณาการการเรียนการสอนทั้งหมดทั้งภาษาไทย เลข สังคม และอื่น ๆ แต่อย่างไรก็ตามในแง่ของความร่วมมือ และเข้าใจระหว่างครู และเจ้าหน้าสาธารณสุขอาจจะน้อยไปสักนิด
และแล้วการเป็นวิทยากรในการจัดทำโครงงานของเด็กไทยทำได้ในจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี พิจิตร และกำแพงเพชร ก็เสร็จเสียที่ มีเด็กเข้ารับการอบรมทั้งสิ้นประมาณ 400 คน เรียนตั้งแต่ประถม 4 จนถึงมัธยม 5
สำหรับวิธีการอบรม ก็ปรับไปตามบริบทของผู้เข้ารับการอบรม เช่นเป็น power point จนถึงกับค่อย ๆ เขียนให้ดูเป็นตัวอย่างที่ละเรื่อง เนื้อหามีดังนี้ครับ
- ความหมายของสุขภาพ และโครงงานเพื่อสุขภาพ
- ปัญหา และการคิดชื่อเรื่อง
- การกำหนดวัตถุประสงค์ กำหนดตัวแปร และการตั้งสมมุติฐาน
- การคัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง และการดำเนินงาน
- การดำเนินโครงงาน และการเก็บข้อมูล
- การวิเคราะห์ข้อมูล และการนำเสนอข้อมูล
- การเขียนรายงาน และการนำเสนอผลงาน
การสอนก็จะเป็นการบรรยาย (น้อย ๆ) และการฝึกปฎิบัติ (มาก ๆ) สลับกันไป เด็ก ๆ ก็สนใจบ้าง ไม่สนใจบ้าง แต่สิ่งที่พอจะเก็บตกได้ก็คือ
-
เด็กคุยเก่งมาก จนผู้สอนอดใจที่จะดุเด็กไม่ได้ (รู้สึกถึงความเป็นครูจริง ๆ)
- ในแต่ละกลุ่มเด็ก จะมีเด็กที่เป็นผู้นำทางความคิดเสมอ ดังนั้นการสอนต้องอย่างเอนเอียงไปทางเด็กที่เก่ง จนทำให้เด็กที่ไม่เก่งเท่าตามไม่ทัน
-
เด็กยังอ่านหนังสือไม่แตก เขียนหนังสือไม่คล่อง และบวกเลขยังไม่ดีพอ ไม่ทราบปัจจุบันยังมีการสอนเลขคิดในใจอยู่หรือเปล่า
- อย่างไรก็ตามเด็กก็คือเด็ก เราสามารถดึงศักยภาพของเด็กออกมาได้ หากเข้าใจและใจเย็นพอ เพราะเมื่อถึงจุดสุดท้าย เด็กก็สามารถที่จะส่งการบ้าน นำเสนอผลงานกลุ่ม ได้พอสมควรแก่ความสามารถที่มีอยู่ได้
คิดว่าโครงการนี้มีประโยชน์ ในแง่การบูรณาการการเรียนการสอนทั้งหมดทั้งภาษาไทย เลข สังคม และอื่น ๆ แต่อย่างไรก็ตามในแง่ของความร่วมมือ และเข้าใจระหว่างครู และเจ้าหน้าสาธารณสุขอาจจะน้อยไปสักนิด ครูยังคิดว่างานที่มาหาคืองานเพิ่ม เจ้าหน้าที่ยังคิดว่างานของตนเองสำคัญกว่า ดังนั้นเมื่อใดก็ตามถ้าทั้งหมดคิดถึงผลประโยชน์ที่มีต่อเด็กเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เมื่อนั้นคงไม่มีใครบ่นเรื่องอะไร และอะไร อย่างแน่นอน ........ ขอบคุณครับ