โลกใบใหม่...กับหัวใจที่เข้มแข็ง ตอนที่ 4


(ดิฉันไม่ได้งกนะคะแค่ไม่อยากเรียนบนศาลาวัดแล้วต่างหาก ( อิ อิ...)

ใช่เลย.....นี่แหละตัวตนของฉัน

 

ตอนที่  4  โลกใบใหม่....กับหัวใจที่เข้มแข็ง

 

                ตุ๊กตื่นได้แล้ว  มันเป็นเสียงที่ดิฉันคุ้นหูมาตลอด  13 ปี  ใช่ซินะวันนี้เป็นวันเสาร์  ดิฉันต้องตื่นและไปช่วยคุณแม่ทำงานนี่นา  แม่ของดิฉันเป็นคนขยันและรักความสะอาดมากๆ   ท่านจะคอยสอนลูก ๆ ตลอด (ดิฉันมีพี่น้องสองคนเป็นผู้หญิงหมดเลย  ดิฉันเป็นคนโตค่ะ)  ให้ดูแลรักษาความสะอาด  โดยเฉพาะเวลาทานข้าวเสร็จแล้วต้องล้างจานชามให้เรียบร้อยห้ามแช่เด็ดขาด  บางครั้งมันเยอะมากจนดิฉันอดถามคุณแม่ไม่ได้ว่า  ทำไมเราไม่เก็บไว้ล้าง
พรุ่งนี้ แม่บอกว่าเป็นผู้หญิงแช่ถ้วยชามไว้มันไม่ดี  บ้านใหนมีลูกสาวถ้าแช่ถ้วยชามไว้จะบ่งบอกเลยว่ามีแม่เป็นอย่างไร  กับคำตอบที่ได้รับมันทำให้ดิฉันไม่กล้าทำอย่างนั้น  (ก็เลยต้องล้างไปด้วย  ตบยุงไปพราง)  คุณแม่ของดิฉันเป็นคนที่มีเหตุผล  ทุกครั้งที่มีปัญหาพวกเราสองคนพี่น้องจะคอยปรึกษาคุณแม่ตลอด  น้องของดิฉันเป็นคนน่ารักและ
มีน้ำใจ   น้องบอกว่าดิฉันเป็นคนฉลาดแกมโกง   เวลาที่คุณแม่ใช้ให้ทำงานบ้านดิฉันจะชอบไปอ่านหนังสือ   ทำให้น้องต้องทำงานคนเดียว    นึกแล้วก็อดสงสารน้องไม่ได้
                การเรียนรู้ของดิฉันยังคงดำเนินต่อไป  เมื่อมีครูย้ายมาเพิ่มอีก  4  คน  เป็นผู้หญิง 3 คน  ผู้ชาย  1  คน   ตอนนี้โรงเรียนของเรามีครูถึง  6  คนแล้วนะ   (ขอบอก)      คงเป็นการเตรียมพร้อมกับการเรียนการสอนในปีการศึกษาใหม่   นี่เราจะเป็นรุ่นพี่แล้วเหรอ คำถามนี้ทำให้ดิฉันเริ่มวางแผนอะไรบางอย่าง  คำว่า รุ่นพี่  ต้องทำอะไรบ้างนะ   แล้วใครจะเป็นประธานนักเรียนล่ะ  (คิดซิ)  สิ่งเหล่านี้ใช่สำคัญไม่สำหรับดิฉัน  แต่สิ่งสำคัญที่สุดนั่นคืออาคารเรียนต่างหาก   แล้วน้องๆ ล่ะจะเรียนกันที่ใหน   รุ่นพี่ต้องเสียสละหรือไม่   คำถามนี้ใครตอบได้  (ไม่มี )  นึกอีกทีลองไปถามครูพงษ์ดีมั้ย  แล้วจะเริ่มถามยังไงดี    ครั้นพอจะถามก็เห็นแววตาที่สามารถสื่อความหมายทุกอย่างได้   แววตาที่เศร้าและเครียดของครูพงษ์ทำให้พวกเราอยากจะช่วยแต่ก็ไม่รู้จะช่วยได้อย่างไร   จึงได้แต่คอยให้กำลังใจเท่าที่เด็ก ๆ  อย่างพวกเราจะทำได้
                เช้าวันใหม่ดิฉันมาโรงเรียนตามปกติ  หลังจากเคารพธงชาติเสร็จแล้ว  ครูพงษ์ได้กล่าวทักทายด้วยแววตาเศร้าๆ  ซึ่งพวกเรามองเห็นและสัมผัสได้ว่าปัญหาเริ่มมีอีกแล้ว  ครูพงษ์ขอร้องให้นักเรียนทุกคนช่วยกันตัดไม้ไผ่มาคนละ 1  ลำ  ใครพอที่จะสามารถหาต้นไม้ขนาดพอที่จะทำเสาได้ก็ให้ช่วยกันนำมา  เพราะปิดเทอมนี้เราจะสร้างอาคารเรียนเพิ่มอีกหนึ่งหลัง  โดยขอความร่วมมือจากชาวบ้าน  ดังนั้นดิฉันและเพื่อนๆประมาณ 8 -10 ต่างช่วยกันไปหาไม้ไผ่และตัดต้นไม้ที่พอจะทำเสาได้ (ต่างจังหวัดมีป่าซึ่งพอจะหาได้อย่างสบายๆ  แต่ระยะทางก็ไกลประมาณ 3 กิโลเมตร)  ดีที่คุณตาปลูกต้นไผ่ไว้เยอะดิฉันก็เลยสบายไม่ต้องไปขอซื้อจากใคร   แต่ปัญหาที่ตามมาคือพวกเราจะขนไปได้อย่างไร (คิดและก็คิด)  ในเมื่อทุกคนปั่นจักรยานกันหมด
                วันรุ่งขึ้นเพื่อนๆ ต่างกุลีกุจอช่วยกันนำไม้ไผ่และเสา(ต้นไม้ที่เราไปตัดกันมา)  มาวางรวมกันไว้ที่กลางหมู่บ้านแล้วก็โชคดีที่คุณพ่อของเพื่อน (ฐานะดีเพราะมีรถขับ)  ช่วยขนไปส่งให้ที่โรงเรียน   และแล้วอาคารเรียนหลังใหม่ก็ถูกสร้างขึ้นจนได้  ดิฉันนั่งยิ้มมองด้วยความภาคภูมิใจ  เพราะตอนนี้น้องๆที่เข้ามาใหม่จะมีอาคารเรียนแล้ว  และที่สำคัญคือเค้าจะไม่มาแย่งอาคารเรียนหลังเดิมของเราเด็ดขาด  (ดิฉันไม่ได้งกนะคะแค่ไม่อยากเรียนบนศาลาวัดแล้วต่างหาก  ( อิ อิ...)
          ช่วงปิดเทอมเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขอีกแบบหนึ่งแต่ก็เศร้าที่ไม่ได้เจอเพื่อนๆและคุณครู  ดิฉันจึงหากิจกรรมต่างๆ ทำ  และรอว่าเมื่อไหร่โรงเรียนจะเปิดเทอมเสียที  แต่ก็ยังดีนะคะที่เทศกาลสงกรานต์จะมาถึงแล้ว  หนุ่มสาวที่ไปทำงานกรุงเทพต่างกลับมาเยี่ยมบ้าน  ดิฉันมองดูแต่ละคนสวยๆทั้งนั้น  ผิวขาวมาก  จนทำให้ดิฉันอยากจะไปทำงานกรุงเทพบ้าง  (อยากขาวและสวยๆเหมือนพี่ๆ)   แต่แม่ก็บอกว่าเรายังเด็ก  แต่ดิฉันก็ยังโชคดีที่คุณพ่อพาไปเยี่ยมคุณอาที่คลองเตย  จึงได้รู้จักกรุงเทพในอีกรูปแบบหนึ่ง   มันช่างสวยเหลือเกิน  หันกลับไปถามคุณอาอีกที  เอ๊ะ  คนกรุงเทพเค้าไม่หลับไม่นอนกันเหรอคะ  นี่ตีสองแล้วนะ คุณอาตอบอะไรมาดิฉันก็จำไม่ค่อยได้ (แก่แล้ว)คุณอาผู้หญิงพาดิฉันไปเที่ยวสวนสัตว์ดุสิต (เขาดิน)  ตอนนั้นก็สนุกตามประสาเด็ก  แต่จำได้ว่าเวลานั้นดิฉันคงเกิดการเรียนรู้แล้วล่ะ  หลายอย่างในกรุงเทพสอนให้ทุกคนเรียนรู้ที่จะเอาตัวรอดและอยู่ในสังคมได้อย่างปลอดภัย  และนั่นแหละจุดเริ่มต้นของการมากรุงเทพของดิฉัน  เปิดเทอมนี้คงต้องไปเล่าประสบการณ์ให้เพื่อนๆ  ได้ฟังกัน  และเชื่อว่าคุณครูต้องเปิดประเด็นในหัวข้อ ความประทับใจในช่วงปิดเทอมชัวร์  ที่บอกว่าชัวร์เพราะอะไรทราบมั้ยคะ  ก็ตอนนี้ดิฉันเป็นครูแล้วและก็ใช้คำถามนี้แหละช่วยทำให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์ของกันและกัน  ซึ่งต้องบอกว่าได้ผลดีเลยทีเดียวค่ะ  แล้วพบกันใหม่ใน  ตอนที่  5  โลกใบใหม่....กับหัวใจที่เข้มแข็ง  หวังว่าคงมีเพื่อนๆ พี่ๆ คอยให้กำลังใจเหมือนเดิมที่บ้านหลังนี้หลังเดิมนะคะ 

 

 

หมายเลขบันทึก: 174167เขียนเมื่อ 30 มีนาคม 2008 11:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

* อยากให้ทุกท่านเข้ามาคอมเม้นจัง

* อยากรุ้ว่าบันทึกที่เขียนน่าเบื่อหรือเปล่า

* ครูแคลหายไปใหนนะ

* สงสัยจะมาไม่ถูกทาง

* ผิดพลาดยังไงก็ขออภัยให้นะที่นี้ด้วยนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท