จากซางคำถึงหมาน้อย (23)


หมอห้ามไม่ให้กินสัตว์ปีก แล้วตั๊กแตน จิ้งหรีดกินได้บ่

หมาน้อยเพื่อนรัก....

     เมื่อวันที่ 27-28 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมา เราและน้องๆ KM Team อีก 4 คนได้มีโอกาสเข้าไปร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่องสุขภาพและสุขภาพช่องปาก ในโครงการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ โดยชมรมผู้สูงอายุ ซึ่งมี คุณหมอนนทลี  วีรชัย เป็นหัวเรือใหญ่ งานนี้บอกได้อย่างเดียวว่า ถ้าเราไม่ได้ไปร่วมคงเสียดายแย่เลย... คุณพ่อคุณแม่จากชมรมผู้สูงอายุในเขตภาคอีสาน ท่านได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปาก... ซึ่งส่วนใหญ่เข้าไปในชมรมภายหลังจากเกษียณ  อยากจะเข้าไปรับใช้สังคมต่อ  อยากมีเพื่อน อยากมีกิจกรรมกับชุมชน  เราขอเล่าให้นายฟังเรื่องที่เราประทับใจก็แล้วกันนะ...

              คนแรกที่เราประทับใจ คือคุณแม่อุไรพร บุญหนา จากบ้านโสก จังหวัดชัยภูมิ คุณแม่เข้ามาอยู่ในชมรมผู้สูงอายุประมาณ 3 ปี ความสำเร็จของคุณแม่ คือคุณแม่จะอาศัยช่วงวันพระ ไปบรรยายสาธิตการแปรงฟันที่วัด โดยใช้ Model สาธิตของกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนั้นในทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ผู้สูงอายุจะมาออกกำลังกาย หลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้วทุกคนก็จะร่วมกันแปรงฟัน ช่วยกันตรวจฟัน และยังขยายการดูแลช่องปากไปยังกลุ่มเด็กนักเรียนด้วย โดยการแจกยาสีน แปรงสีฟัน ที่เราประทับใจที่สุดคือคุณแม่บอกว่า...แม่อยากจะช่วยดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุทุกคนเลย ค่าจ้างแรงงานแม่ไม่สนใจหรอกลูก แม่ทำด้วยใจ  แม่อยากจะให้ทุกคนมีฟันที่แข็งแรงคอยขบเคี้ยวอาหาร ถ้าแม่มีเวลาแม่จะออกไปเยี่ยมผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แล้วไปสอนเขาดูแลสุขภาพช่องปาก ซึ่งภูมิปัญญาที่เรามีมาแต่นมนานก็คือ การอมเกลือ ประมาณ 2 นาทีผสมกับน้ำอุ่น รับรองว่าไม่มีกลิ่นปาก ....นอกจากนี้ความเก่งของคุณแม่ คือ สามารถเขียนโครงการ ไปของบประมาณจาก สสส. และ อบต. ได้เพื่อจะนำมาดำเนินกิจกรรมในชมรมผู้สูงอายุ

           อีกท่านหนึ่ง คือคุณแม่บัวไข จากจังหวัดอำนาจเจริญ คุณแม่ท่านนี้วัย 62 ปี ที่เราชื่นชมคือคุณแม่ฟันสวยมากเลย คุณแม่ยิ้มและโชว์ฟันให้ดู เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ฟันทุกซี่ยังอยู่ครบ คุณแม่เคยได้รับรางวัลฟันสวยของจังหวัดด้วย สิ่งที่เราได้รับความรู้ในการดูแลสุขภาพช่องปากจากคุณแม่ คือ  ไม่เคี้ยวของแข็ง โดยเฉพาะแถวอีสานจะนิยมกินเม็ดมะขามคั่ว ถ้าอยากกินก็เอาไปแช่น้ำก่อน เม็ดมะขามจะนุ่มแล้วค่อยกิน  จะอมเกลือตอนเช้าทุกวัน และที่สำคัญจะไปพบหมอฟันทุกปีเพื่อขูดหินปูน...

          หมาน้อยเพื่อนรัก... นี่เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งที่เรามาเล่าให้เราฟัง จริงๆมีมุกเด็ดกว่านั้นอีก.. จำไม่ได้ว่าคุณพ่อท่านชื่อเรียงเสียงใด ท่านถามวิทยากรเกี่ยวกับเรื่องอาหารที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ... หมอมักจะห้ามให้ผู้สูงอายุกินโน่น กินนี่  โดย เฉพาะสัตว์ปีกไม่ให้กิน คุณพ่อถามว่า.. ตั๊กแตน จิ้งหรีดก็มีปีกทั้งนั้น กินได้บ่... หลังจากจบคำถาม ก็ได้ยินแต่เสียงฮากันลั่นทั้งห้องประชุมเลยแหละ...

          พอก่อนนะจ๊ะ.. ถ้าเจออะไรดีๆ เดี๋ยวเราจะมาเล่าให้นายฟังใหม่นะจ๊ะ.....

                      รัก.... ซางคำ

หมายเลขบันทึก: 173994เขียนเมื่อ 29 มีนาคม 2008 11:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:21 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • ใช่แล้วค่ะ ซึ่งคำตอบของ อ.พญ.อรพิชญา วิทยากรก็บอกให้คุณพ่อ คุณแม่ในห้องประชุมฟัง เรื่องคำถามที่ว่า ... "หมอมักจะห้ามให้ผู้สูงอายุกินโน่น กินนี่  โดย เฉพาะสัตว์ปีกไม่ให้กิน คุณพ่อถามว่า ... ตั๊กแตน จิ้งหรีดก็มีปีกทั้งนั้น กินได้บ่ ..." ว่า
  • สัตว์ปีกน่ะ คือ ไก่ เป็ด จ้ะ ส่วน "ตั๊กแตน จิ้งหรีดก็มีปีกนั้น" น่ะ กินได้ ไม่เป็นอะไร อิอิ ... ชัดเจน ว่า ภาษาชาวบ้าน กับภาษาทางการแพทย์ หรือนักวิชาการนี้น่ะ ไม่ตรงกันเลยนะคะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท