มีความฝันอันงดงาม 2


คุณค่าของวรรณกรรม

ใครกัน...  ทำความฝันหายไป

เทพธิดาน้อยผู้ซุกซนองค์หนึ่ง  หลงทางเข้าไปในความฝันของเด็ก     เธอพบว่าความฝันของเด็กเหล่านั้นไม่มีความสนุกสนานอันใดเลย  เธอจึงได้เสกความฝันของเด็กให้กลายเป็นนิทานท้องฟ้า  มีเดือนดาว  มีเจ้าหญิง  เด็ก ๆ ต่างติดใจ  วันต่อมาเด็ก ๆ จึงเข้านอนแต่หัวค่ำ  เพื่อที่จะได้หลับฝัน

                เทพธิดาน้อยจะคอยสังเกตจิตใจของเด็กในตอนกลางวัน  แล้วเธอจะกลับมาเสกให้ฝันถึงสิ่งนั้นในตอนกลางคืน  นับแต่นั้นมาความฝันของเด็กจึงเต็มไปด้วยสีสันตลอดมา

                แล้ววันหนึ่งเมื่อเด็ก ๆ กลับต้องมีภาระหนักเพิ่มขึ้น  ในแต่ละวันครุ่นคิดแต่เรื่องเข้าใจยาก  ต้องเรียนพิเศษ  ต้องกวดวิชา  การบ้านที่มากมายไม่หวาดไม่ไหว  เทพธิดาน้อยรู้สึกสับสนมาก  เพราะที่ผ่านมาเคยเสกแต่เรื่องสนุกซุกซน  จึงไปปรึกษาเมฆและดาว  ดาวจึงแนะนำเทพธิดาน้อยใช้สิ่งบันทึกช่วยจำแล้วอธิษฐาน  คงจะเสกให้เด็ก ๆ ได้

                คืนหนึ่งหลังจากเสกฝันเสร็จ  เทพธิดาน้อยจึงเสกสมุดบันทึกตามคำแนะนำ  เมื่อเด็กคนแรกบนโลกตื่นมาตอนตีสี่เพื่อไปโรงเรียน  เทพธิดาน้อยจึงจดทันที  แต่เรื่องยากในใจเด็กมีมากเกินไป  ค่ำคืนเด็กก็หลับไปโดยไม่ได้ฝัน  แล้วตื่นมาด้วยความหม่นหมองไม่ร่าเริงแจ่มใส

ราตรีหนึ่งเทพธิดาน้อยก็เผลอหลับ  ความฝันของเด็กก็หายไปด้วย  เป็นความเดือดร้อนของผู้ใหญ่ที่ต้องคิดหาวิธีการให้เหล่าเด็ก ๆ ได้หลับอย่างมีความสุข  เช่นนิทานก่อนนอน  เพลงกล่อมเด็ก  แต่เด็กก็ใช่ว่าจะยอมหลับไปโดง่าย    เวลาผ่านไปเนิ่นนาน  เด็ก ๆ ก็พากันลืมเลือนความฝันเสียสิ้น

เมื่อขาดคนเสกฝัน  ดวงดาวก็คงเหงา  จึงได้กระซิบต่อกันให้รีบขึ้นเต็มท้องฟ้าทันทีที่ความมืดมาเยือน  เพื่อว่าเด็ก ๆ จะได้เห็นและเก็บและจดจำไปฝันบ้าง  แล้วเด็กน้อยคนหนึ่งก้ได้เห็น  ติดใจในความงดงามของดวงดาว  จึงออกมาดูทุกคืน  ความคิดคำนึงทำให้เธอได้เก็บเอาไปฝัน  ความฝันที่เธอไต่ขึ้นไปเล่นบนฟ้านั่นพร้อมกับเพื่อน ๆ อีกมากมาย 

เด็ก ๆ ได้พบเทพธิดาน้อยหลับอ่ยู่  ด้วยความคลับคล้ายคลับคลา  แล้วเด็ก ๆ ก็ได้เสกของเล่นขึ้นมาอวดกัน  เมื่อตื่นขึ้นคำถามหนึ่งที่เกิดขึ้นในใจของเทพธิดาน้อยคือ  เด็ก ๆ จะเหลืออะไรในฝัน  เมื่อไม่มีคนช่วยเสกให้

แต่เด็กทุกคนกลับถามและจะเสกสิ่งที่ต้องการให้  เทพธิดาน้อยจึงคิดได้ว่า  อันที่จริงแล้วเด็กคิดเองได้  ฝันเองได้  เทพธิดาน้อยจึงอำนวยพรให้เด็กไว้ว่า

เมื่อสำเนียงเสียงดาวดังกังวาล  ขอให้เด็กน้อยยิ้มหวานหลับนานถึงเช้าวันใหม่

แต่พรนี้จะใช้ได้เฉพาะวัยเยาว์เท่านั้น  เพราะเพียงความเยาว์วัยของเด็กเท่านั้นที่จะได้ยินเสียงกังวานของดวงดาว

นี่เป็นนิทานร่วมสมัยจากวรรณกรรมปฏิสัมพันธ์  ช่วงชั้นที่ ๑ 

อยากให้คุณอ่าน  อยากฝากคำถามกับสายลมและดวงดาวเช่นกันว่า  ใครกันทำความฝันของเด็ก ๆ หายไป  ใครกันทำจินตนาการของเด็ก ๆ หายไป  เด็กทุกคนฝันเองได้  คิดเองได้  ดั่งนิทาน  แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไร  ที่ทำให้ความฝันของเด็กหายไป

คืนความฝันให้พวกเขาเถอะ  อย่าเอาภาระอันหนักอึ้งโถมใส่พวกเขา  อย่าเอาความรู้ที่เด็กไม่มีวันได้ใช้ใส่เข้าไปในความคิดของเขา  เขามีวัยเยาว์ที่ไม่มากนัก  ให้เขาได้ยินสำเนียงของดวงดาวบ้าง  ให้เขาได้แหนหน้ามองความสุกสกาวของฟ้ายามค่ำคืนบ้าง  ก่อนที่เขาจะเข้านอนและหลับฝัน  แล้วตื่นมาในเช้าวันที่สดใส

                                                                                ครูธีระ    เงินแก้ว

หมายเลขบันทึก: 172422เขียนเมื่อ 22 มีนาคม 2008 22:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อืม ฝันดีฝันเด่น ขอชัดๆตรง 6 ตัวนะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท