เย็นวันนี้ที่บ้านหนองบัวแปะบรรยากาศเหมือนเป็นใจช่วยแต่งแต้มสีสันให้คำคืนนี้มีแต่ความเพลิดเพลินใจ พ่อตู้แม่ตู้ต่างประดับประดาร่างกายให้คณะวิทยากรฯ เป็นพระเอกนางเอกด้วย ผ้าขาวม้า,ผ้าสะโล่ง,ผ้าชิ่น ซึ่งทำมาจากผ้าไหมทั้งหมด
ศรีศรี สิทธิพระพรบวรวิเศษ อดิเรกเดโชชัยยะมังคะละดิเรก อเนกสวัสดีไมตรีจงมีแก่ท้าวพระยา เสนาอำมาตย์สีธาตุราชกุมาร ให้อยู่สุขสำราญตราบท่อเท่าภริยาทั้งบุตรตาและลูกเต้าขอให้ได้เป็นเจ้าเป็นใหญ่กว่าเพิ่นทั้งหลาย คีงสำบายบางล้ำเลิศ ข้าแก้วเกดกลางโฮงทั้งลี้พลและไพร่พร้อม อายุค่อยจากชีวัง ขอให้มีอายุยืนยาวบ่น้อย ขอให้ได้ฮอดฮ้อยเก้าขวบยาวนานพุ้นเญอ ฯลฯ มาเญอขวัญเอย...มากินข้าวผีให้เจ้าฮาก เค้ยวหมากผีให้เจ้าคาย ให้เจ้าคืนมาคายท้องเปล่า ให้เจ้ามาสืบสร้างดอมเจ้าแม่มารดา ทั้งปิตาและเชื้อโคตร อย่ากริ้วโกรธโกธา ให้เจ้ามารักษาตนตัวเจ้าตราบท่อเท่าเทียระฆา ข้าเทอณ อายุ วรรโร สุขัง พะลัง สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร อุบาทว์สวาหะ นะโมพุทธายะ มะอะอุ อุอะมะฯฯฯ
คำคืนอันม่วนชื่นพ่อตู้แม่ตู้ถ่ายทอดทำนองเพลิงกล่อมลูก เวทีประชันหมอลำทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ ปะทะกันอย่างดุเดือดด้วยคำสอยโต้กัน งานนี้ต้องชมคณะหมอลำจาก มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นำทีมโดยคุณแผ่นดิน ขอขอบพระคุณเป็นอย่างมากครับ
คืนนี้อากาศหนาวเย็นมากครับ ต้องก่อกองไฟไว้ข้างที่นอน กระผมจะหลับตาลงได้อย่างไรกับความเพลิดเพลินแสนจะปีติช่วงข้ามคำคืนที่กำลังจะผ่านพ้นไปในคืนนี้...
แสงตะวันสองฟ้าเปรียบกับการเริ่มต้นใหม่ของวิถีชีวิต ต่อจากนี้ไปชาวบ้านหนองบัวแปะ จะเป็นตัวของตัวเองไม่หวังพึ่งงบประมาณจากไหน เพราะต้นทุนอันมีค่ามหาสารคือความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันของหมู่บ้าน ชาวบ้านหนองบัวแปะที่พร้อมจะพัฒนาเป็นต้นแบบให้ลูกหลานอยู่อย่างพอเพียงมีความสงบสุข และนี้คือสิ่งที่ขาดหวังสูงสุดของพ่อตู้แม่ตู้
ทุนจากหยาดเหงื่อแรงกายของผู้เฒ่าผู้แก่ชาวบ้านหนองบัวแปะตาดำๆ ที่พร้อมใจกันทำเพื่อลูกหลานนั้น มิได้พึ่งคิดได้แต่เดียวนี้มันคิดได้ตั้งแต่โดนมาแล้ว บรรพบุรุษคิดสร้างไว้ให้แล้ว เพียงแต่ลูกหลานจะต่อยอดกันยังไงก็เท่านั้น
แหล่งน้ำดื่มน้ำกินที่ตีเป็นมูลค่าไม่ได้ สร้างความประหลาดใจให้กับผู้พบเห็นบรรพบุรุษมีกรอบแนวคิดอย่างไรไว้ให้ลูกหลานเป็นเวลาร้อยๆ ปี ที่ได้ทำบ่อน้ำกินนี้ไว้
ปล.บันทึกประจำวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2551 กับเรื่องราวเก่าๆ ครับ
สวัสดีคะคุณคนเดินดิน ( ลุ่มน้ำลำพังชู )
พี่เป็นลูกอีสานก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีโอกาสเห็นชุมชน และวัฒนธรรมชาวอีสานมาก สวนป่าฯเป็นแหล่งภูมิความรู้ที่มีคุณค่าสำหรับชุมชนแห่งหนึ่งของประเทศไทย ถ้าลูก-หลานเข้ามาช่วยกันสานต่อความรักในบ้านเกิด วัฒนธรรมของบ้านเรา ลองนึกดูสิค่ะว่าจะสุขมากขนาดไหน เราจะพบหน้ากัน อยู่ใกล้กัน ลูกหลานไม่ต้องจากบ้านไปไกล ความเอื้ออาทรต่อกันก่อให้เกิดความรักสามัคคีตามมา
เรียงร้อยเรื่องราวทั้งหมดได้ดีมากเลยคะ ขอชื่นชม เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
สวัสดีครับ อ.หมู
เดิมแรกกะว่าจะไม่ได้เขียนแล้วครับ เพราะผ่านมานานแล้วข้าน้อยเขียนบันทึกแต่ละทีก็มีปัจจัยหลายๆ อย่างที่ควรคำนึง เช่น เงิน เป็นต้น เราไม่มีเงินเดือนไม่มีงานทำไม่มีรายได้มากนักในแต่ละวัน พูดตรงๆ ก็คือ ยังต้องขอเงินแม่ใช้อยู่เลยครับ คิคิ
ในแต่ละเดือนนั้นข้าน้อยขอเพียงมีรายได้ 1,000 บาท ข้าน้อยก็อยู่ได้แล้วครับ บ้านไม่ต้องเช่าข้าวไม่ได้ซื้อ พืชผักสวนครัวก็ปลูกไว้เต็มรั้วบ้าน อยากกินกุ้ง,หอย,ปู,ปลา ก็ลงห้วยลงหนองน้ำ อันนี้เป็นภูมิรู้เฉพาะตนนะครับ
นอกจากเสียค่าน้ำ,ค่าไฟฟ้า แล้วยังต้องเสียค่า (GPRS) อีก ซึ่งอันหลังนี้ก็พิจารณาอยู่ว่าจะอยู่กับ ได้นานแค่ไหนมันจำเป็นจริงๆ ครับสำหรับชีวิตคนบ้านนอกธรรดาคนหนึ่ง ที่มีหัวใจใฝ่เรียนรู้
ขอขอบพระคุณ อ.หมู มากครับที่มาให้กำลังใจ สวัสดีครับ