เทคนิคการนำเข้าอาหารแบบง่ายต่อDM

วันนี้มีผู้เป็นเบาหวานมารับบริการตัดเล็บหลังจากพบแพทย์แล้ว   บอกว่าแพทย์บ่นเรื่องค่าน้ำตาลสูงบ้าง  ค่าCrสูงบ้างหาว่าเขาไม่ช่วยดูแลสุขภาพ ไม่ควบคุมการทานอาหารจนทำให้น้ำหนักขึ้น ตนเองรู้สึกท้อใจและริ่มมีอาการเบื่อหน่ายที่จะดูแลเพื่อนเบาหวานขึ้นมาอีก    ซึ่งดิฉันพอรับฟังแล้วก็นึกอยากช่วยแอบมองดูน้ำหนักและค่าlabในแฟ้มพบว่าสูงขึ้นจริงๆ  แต่เราคงไม่ต่อว่าอีกหรอกแต่กลับเห็นใจเหมือนกันเพราะทุกคนก็มีความอยากเป็นกิเลสยั่วยุและเห็นสิ่งยั่วยุอยู่ทุกวันก็อาจมีบางช่วงตบะแตกได้เช่นกันอย่างช่วงเทศกาลงานบุญหรืองานสังสรรค์ต่างๆ  หรืออาจเกิดจากภาวะที่สภาพร่างกายเสื่อมลงก็อาจเป็นได้   ซึ่งเราต้องเข้าไปเป็นนักสืบค้นหาสาเหตุแล้วค่อยหาวิธีที่เหมาะสมช่วย

2 รายสำหรับวันนี้ที่สอบถามพบว่าสาเหตุจากตบะอาหารแตกจากทานจุบจิบตามใจชอบ  ส่วนใหญ่เป็นขนมเค็ก ถั่วบดเคลือบน้ำตาลอัดแท่ง  ทานไม่ตรงเวลา ไม่หิวไม่กิน  ไม่ค่อยมีกิจกรรมเนื่องจากอ้วนมากน้ำหนัก> 90 กิโลกรัมบอกว่าปวดเมื่อยตัวและเหนื่อยง่าย

โดยส่วนตัวแล้วครั้งแรกเรื่องอาหารต้องทำให้เป็นเรื่องง่ายๆ ดิฉันจึงให้เป็นเทคนิคการทานอาหารแบบเข้าใจง่ายๆเป็นแบบบรรยากาศแบบพูดคุยให้ระบายความรู้สึกและแอบสอดแทรกกันไปขณะตัดเล็บไปด้วย โดยแนะนำง่ายๆว่า

   1.  เลือกอาหารที่ดีมีประโยช์หลากหลาย   ที่ไม่แปรรูปเป็นธรรมชาติซึ่งจะปลอดภัยต่อสุขภาพ เช่น ส้มเป็นลูก ไม่ใช่นำมาแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ปั่น

   2.   เวลาและปริมาณที่กินต้องเหมาะสม  ไม่ควรปล่อยให้หิวจัดหรือกินมากเกินจนอิ่มจัดเนื่องจาก 

•  คนที่กินดึกแล้วนอน หรืออยู่บ้านเฉยๆกินแล้วนอนไม่มีกิจกรรม มักจะอ้วน และนอนไม่หลับเพราะกระเพาะอาหารมีการย่อยอาหารอยู่ส่วนการกินมากเกิน จะทำให้ระบบการย่อยอาหารต้องทำงานเพิ่มมากเกิดเป็นความเสื่อมตามมาและยังรบกวนภาวะการพักผ่อนที่ต้องฟื้นฟูสุขภาพ   หลังกินจึงไม่ควรนอน
• ควรทานให้ตรงเวลาห่างกัน 4-6 ช.ม ในแต่ละมื้อให้สัมพันธ์กับยาที่กินหรือฉีด แต่ถ้าชอบกินหลายมื้อให้เปลี่ยนปริมาณจากจานใหญ่เป็นขนาดเล็กลง จาก 3 มื้อเป็น 5 มื้อได้

   3.   เคี้ยวให้ละเอียดอย่างช้าๆ เทคนิคการเคี้ยวให้ละเอียดเป็นการกระตุ้นระบบการย่อยอาหารและระบบประสาทเพราะมีส่วนทำให้ความอยากอาหารลดลง เนื่องจากสมองต้องใช้เวลา 20 นาทีในการรับรู้ว่าท้องอิ่ม

   4.   เลือกกินอาหารที่ชอบในปริมาณที่เหมาะสม  จะเป็นการทำให้ความอยากลดลงได้ด้วย

   5.  ดื่มน้ำอย่างน้อย 5แก้วประจำคือ. ดื่มน้ำให้สัมพันธ์กับอาหารและกิจกรรมของร่างกายให้ได้ 6-10 แก้วต่อวันในหน้าร้อนแบบนี้คือ

        2แก้วแรก-ก่อนอาบน้ำเช้า 1แก้ว เย็น 1 แก้ว เพราะเรามักปัสสาวะน้ำทิ้งเวลาอาบน้ำอย่าง น้อย 2 ครั้งเราก็เติมเพื่อรักษาสมดุลย์น้ำเข้าน้ำออก

        3แก้วต่อมา -ดื่มอีก 1 แก้วหลังหรือขณะมื้ออาหาร เป็นการเจือจางน้ำตาลที่อยู่ในอาหารก่อนเข้าสู่กระแสเลือด

        3-5แก้วสุดท้ายเติมจิบระหว่างวันไปทีละน้อยการดื่มครั้งละมากๆไม่เกิดประโยชน์ทำให้ไตกรองน้ำทิ้งมากขึ้นเพราะเกินความต้องการในช่วงนั้น

   6. ดิฉันแนะนำให้ออกกำลังกายโดยสอนให้นวดโลชั่นที่เท้าจนแห้งและสอนท่าบริหารเท้าและยืดกล้ามเนื้อแขนไปด้วยโดยให้ทำบนเตียงหรือนั่งบนเก้าอี้ตนเอง

หลังสอนนวดโลชั่นและให้ลองบริหารเท้าและยืดกล้ามเนื้อแขนไปด้วยทั้ง 2 รายบอกว่ารู้สึกขามีแรงมากขึ้น  จึงแนะให้ทำเช้า-เย็นและหลังอาบน้ำ

ยุวดี  มหาชัยราชัน