Nan & Ball Chongbunwatana
นายและนาง คมกฤชและประณยา จองบุญวัฒนา

7: ผู้นำการเปลี่ยนแปลง


ผู้นำการเปลี่ยนแปลงควรเลือกใช้ภาวะผู้นำตามสถานการณ์ โดยมีภาวะผู้นำ 4 ระดับคือ Directing (สั่งการ) Coaching (สอน) Supporting (ให้กำลังใจ/สนับสนุน) Delegating (มอบหมายงาน/สอนแบบปล่อยให้ทำเอง)

ผู้นำการเปลี่ยนแปลง

Post Today - ผู้นำเหนือระดับ เขียนโดยเค็น แบลงก์ชาร์ต และอีก 13 ท่าน เผยว่าองค์กรที่มีผลสัมฤทธิ์ยอดเยี่ยมนั้น มีวิธีการทำงานร่วมกับลูกค้า พนักงาน และผู้นำอย่างไร เค็น ดังจากหนังสือหลายเล่มรวมถึง ผู้จัดการหนึ่งนาที และผู้นำตามสถานการณ์ ...

มีแนวทางพร้อมตัวอย่างมากมายเหมาะสำหรับทุกคนในองค์กร วันนี้จะนำเรื่อง นำการเปลี่ยนแปลงมาเล่าสู่กันฟัง มาร์ก ทเวน เคยพูดไว้ว่าคนประเภทเดียวที่ชอบการเปลี่ยนแปลง คือเด็กที่ใส่ผ้าอ้อมเปียก

ใครก็รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงจำเป็น แต่ทำไมถึงเปลี่ยนกันได้ยากเย็นนัก คำตอบคือเวลาเราทำอะไรใหม่ๆ นั้น ผลงานจะตกลงเป็นธรรมดา ผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่เก่งจะตระหนักถึงเรื่องนี้ และพยายามนำการเปลี่ยนแปลงโดยให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด

70% ของการเปลี่ยนแปลงล้มเหลว มีการตั้งสมมติฐานไว้ว่าสาเหตุใหญ่มาจากภาวะผู้นำ เราพอจะคาดการณ์สาเหตุที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงล้มเหลวดังนี้

  • ผู้นำคิดว่าการประกาศการเปลี่ยนแปลงแล้ว การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้น
  • มองข้ามความกังวลใจของพนักงาน
  • คนที่จะต้องเปลี่ยนไม่ได้มีส่วนร่วมในการวางแผนการเปลี่ยนแปลง
  • ไม่สามารถสื่อสารสาเหตุการเปลี่ยนแปลงให้คนเห็นได้อย่างชัดเจน
  • วิสัยทัศน์ไม่ชัดเจน หรือสื่อสารวิสัยทัศน์ไม่ดีพอ
  • ไม่มีโครงการนำร่องเพื่อเรียนรู้ว่าตกหล่นอะไรบ้างก่อน
  • ระบบสนับสนุนขององค์กรหรือโครงการอื่นๆ ไปคนละทิศทางกับการเปลี่ยนแปลง
  • เปลี่ยนแปลงมากจนขาดการโฟกัส
  • คนไม่ได้รับการสนับสนุนให้มีทักษะใหม่รองรับการเปลี่ยนแปลง
  • ผู้นำไม่น่าศรัทธา สื่อสารน้อยเกินไป ส่งข่าวสารสับสน และไม่ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี

ในเรื่องความกังวลใจของคนกับการเปลี่ยนแปลง มี 6 ระดับเรียงตามลำดับดังนี้

1.       กังวลใจเรื่องข้อมูล

2.       กังวลใจในเรื่องของตนเอง

3.       กังวลใจในเรื่องการดำเนินการเปลี่ยนแปลง

4.       กังวลใจในผลลัพธ์จากการเปลี่ยนแปลง

5.       กังวลใจในเรื่องความร่วมมือ

6.       กังวลใจในอนาคตหลังการเปลี่ยนแปลงสำเร็จ

หนังสือได้แนะนำแนวคิดเรื่องผู้นำตามสถานการณ์ โดยมีแนวคิดว่าผู้นำควรเลือกใช้ภาวะผู้นำตามสถานการณ์ โดยมีภาวะผู้นำ 4 ระดับคือ Directing (สั่งการ) Coaching (สอน) Supporting (ให้กำลังใจ/สนับสนุน) Delegating (มอบหมายงาน/สอนแบบปล่อยให้ทำเอง)

หนังสือแนะนำภาวะผู้นำสำหรับแต่ละช่วงของความกังวลใจดังนี้

- กังวลใจเรื่องข้อมูล ใช้ Directing

เมื่อเริ่มจะเปลี่ยนแปลงคนยังขาดความรู้และข้อมูล แต่ยังมีไฟอยู่ พวกเขาอยากรู้อยากเห็น อยากได้ข้อมูล เราจะต้องทำอะไรต่างไปจากเดิมบอกเขาไปตรงๆ อย่างชัดเจน ดีกว่าการพยายามให้กำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจ บอกรายละเอียดของแผนงานให้เขาเห็นภาพที่ชัดเจน

- กังวลใจในเรื่องของตนเอง ใช้ Coaching

พอคนมีข้อมูลเพียงพอแล้ว เขาจะกังวลใจว่าตัวเองจะมีทักษะเพียงพอกับการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ผู้นำต้องสอนเขา คนอาจจะต้องการการบอกทิศทางและความชัดเจนอยู่ แต่ว่าเขาต้องการการให้กำลังใจว่าเขาสามารถพัฒนาทักษะใหม่ได้ อาจเปิดให้มีเวทีเพื่อให้เขาได้ระบายความกังวลใจของตนออกมา ผู้นำต้องสร้างความมั่นใจให้พวกเขา รวมทั้งการตอกย้ำวิสัยทัศน์ เป้าหมาย และความคาดหวัง

- กังวลใจในเรื่องการดำเนินการเปลี่ยนแปลง ใช้ Coaching

คนจะวิตกว่ามีการวางแผนรับการเปลี่ยนแปลงดีมากพอหรือยัง พวกเขาอาจจะมองเห็นปัญหามากกว่าผู้นำ เพราะเขาอยู่หน้างาน ตอนนี้คือเวลาที่ควรลองโครงการนำร่องเพื่อดูว่ามีปัญหาหรือรายละเอียดอะไรที่มองข้ามไปบ้าง เป็นตอนที่จะต้องให้คนที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมให้มาก ผู้นำต้องจัดการให้ระบบสนับสนุนต่างๆ และโครงการการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ มีทิศทางที่สอดคล้องกัน

- กังวลใจในผลลัพธ์จากการเปลี่ยนแปลง ใช้ Supporting

ความกังวลใจลดลงไปมาก คนเริ่มเห็นผลที่ดีจากการเปลี่ยนแปลง ควรมีการแลกเปลี่ยนเรื่องราวที่ดีที่ได้รับจากการเปลี่ยนแปลง เป็นการปลุกกระแส และสื่อสารการเปลี่ยนแปลงออกไป

- กังวลใจในเรื่องความร่วมมือ ใช้ Supporting

คนเริ่มตระหนักถึงผลดีของการเปลี่ยนแปลงที่มีมากขึ้น พวกเขากระตือรือร้นอยากขยายผล ควรมุ่งความสนใจในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมอื่นๆ ผู้นำทำหน้าที่เสมือนเชียร์ลีดเดอร์ปลุกกระแสเชิงบวก ขยายผลการเปลี่ยนแปลงออกไปให้เต็มที่ ตีฆ้องร้องป่าว

- กังวลใจในอนาคตหลังการเปลี่ยนแปลงสำเร็จ ผู้นำผสมผสานระหว่าง Supporting and Delegating

ผู้นำลดการสั่งการลง สนับสนุน ให้กำลังใจกับคนเป็นเจ้าของการเปลี่ยนแปลง

ประณยา จองบุญวัฒนา

8 มีนาคม 2551

เนื้อหาทั้งหมดนำมาจาก www.msn.com ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ค่ะ

หมายเลขบันทึก: 169811เขียนเมื่อ 8 มีนาคม 2008 23:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ความไม่แน่นอนคือสิ่งที่แน่นอน ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเลี่ยงได้

นี่คือสัจธรรมค่ะ

ถึงแม้ผู้บริหารจะใช้หลักหรือแนวคิดในเรื่องของการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ได้เรียนมา (หรือจากประสบการณ์) มาใช้

 แต่การต่อต้านการเปลี่ยนแปลงก็ยังคงมีอยู่เป็นประจำ สาเหตุหนึ่งอาจจะมาจากแนวคิดที่ว่าการจะบริหาร หรือนำการเปลี่ยนแปลงได้นั้น มาจากการใช้หลักการ เหตุผล คำอธิบายต่างๆ เพื่อชี้นำให้เกิดการยอมรับการเปลี่ยนแปลง แต่จริงๆ แล้ว การจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้นั้น อารมณ์อาจจะสำคัญกว่าเหตุผลแน่นอนค่ะ

ผู้บริหารต้องตั้งหลักดีๆ ก่อนที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆค่ะ

ลืมไปค่ะ เคยเขียนประสบการณ์เล็กๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ด้วยค่ะ

P  ขอบคุณ คุณ Sasinanda  นะคะ

  • ได้ไปอ่านตามที่พี่แนะนำแล้ว ดีมีประโยชน์มากเลยค่ะ
  • อ่านเรื่องที่มาจากผู้ที่มีประสบการณ์จริง แณณเลยได้เรียนรู้ทางลัดค่ะ  
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท