-
การเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับที่ออกไปจากระบบราชการ และมีเอกลักษณ์ของตนเองแตกต่างจากที่อื่น อาจเป็นสิ่งที่จำเป็นในการพัฒนามหาวิทยาลัย แต่ยังไม่ใช่สิ่งที่เพียงพอด้วยตนเอง ต้องมีการพัฒนาด้านอื่นๆ อีกมากด้วย
- การปฏิรูประบบอุดมศึกษาที่เกิดขึ้นเกือบทุกประเทศทั่วโลก แม้มีแนวทางต่างๆ กัน แต่เป้าหมายสำคัญเหมือนกันคือ ความต้องการที่จะปรับประสิทธิภาพ เพื่อการจัดการความรู้ (การศึกษา) ให้เกิดสังคมความรู้ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยความรู้
- ในบางประเทศ ปรับมหาวิทยาลัยของรัฐให้เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ที่เรียกว่า privertization ซึ่งมีระดับต่างๆกันด้วย บางแห่งปรับไปจนคล้ายหรือเหมือนมหาวิทยาลัยเอกชน ความแตกต่างระหว่างมหาวิทยาลัยของรัฐกับมหาวิทยาลัยเอกชนลดลงไป จนในที่สุดมีฐานะเท่ากัน รูปแบบนี้คล้ายที่เกาหลี ข้อด้อยของวิธีการนี้ คือ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในโอกาสเข้าสู่อุดมศึกษา และเกิดการแข่งขันแบบการตลาด
- มหาวิทยาลัยที่เรียกว่า corporatization คือการนำระบบการบริหารแบบเอกชนเข้าไปใช้ แต่ยังเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐและรักษาพันธกิจในภาคสาธารณะไว้ รูปแบบนี้คล้ายที่อังกฤษ กับ ญี่ปุ่น ข้อดี ข้อด้อย ยังเป็นที่ถกเถียง ไม่ชัดเจน ต้องเฝ้าดูตอไป
- ประเทศออสเตรเลีย ก็เป็น corporatization แต่มีกลยุทธ์ในการบริหารการเงินทีผูกการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินกับระบบการประเมินคุณภาพมหาวิทยาลัย และระบบเงินกู้ทางการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคตของนิสิต แบบนี้มีข้อดีที่ช่วยให้ช่วยให้มหาวิทยาลัยมีรายได้สูงขึ้นตามความจำเป็นในการพัฒนา และลดสัดส่วนการสนับสนุนจากรัฐ
- แต่ด้วยเสรีภาพในการบริหารจัดการภายในที่เพิ่มขึ้น ทำให้บางมหาวิทยาลัย ใช้กลยุทธ์ทางการตลาดในการหารายได้เพิ่ม เช่น
-
จากการขายบริการอุดมศึกษาสู่ต่างประเทศ หรือจัดตั้งสาขาในต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้มหาวิทยาลัยได้รับค่าธรรมเนียมการศึกษาสูง ผลลบที่อาจเป็นไปได้ เช่น ยอมให้จบง่ายเพราะจ่ายแพง
-
จากการรับทุนวิจัยจากภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม ผลลบที่อาจเป็นไปได้ เช่น เสรีภาพในการเลือกหัวข้อวิจัยและการเสนอผลงานวิจัยของอาจารย์
- ผลลบโดยรวมอย่างอื่น เช่น
- ผู้บริหารมหาวิทยาลัย อาจใช้นโยบายจำกัดการเปิดสาขาวิชาเฉพาะที่ให้รายได้สูง
- อาจารย์เคลื่อนค่านิยมไปในทางวิชาการเฉพาะที่ให้รายได้สูง
- ดังนั้น การออกนอกระบบของมหาวิทยาลัย พึงสังวรณ์สภาพที่ไม่พึงประสงค์เหล่านี้ ด้วยการสร้างค่านิยมในลักษณะพิเศษของมหาวิทยาลัยว่า
-
-
มหาวิทยาลัยต้องสร้างความเสมอภาคในโอกาสเข้าสู่อุดมศึกษา โดยฐานของความสามารถของแต่ละบุคคล และไม่กีดกันผู้มีรายได้น้อย
-
มหาวิทยาลัยต้องมุ่งประโยชน์สาธารณะเหนือประโยชน์ส่วนบุคคล
-
อาจารย์ นักวิชาการ ในมหาวิทยาลัยต้องมีเสรีภาพในการบุกเบิก คิดค้น และสร้างสรรค์ทางวิชาการ
อ้างอิงจาก ความเป็นอิสระของมหาวิทยาลัยไทย : จรัส สุวรรณเวลา สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2551
ดังนั้น การสรรหาผู้บริหารมหาวิทยาลัยของพวกเราเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
นอกจากจะต้องเลือกผู้ที่มีความสามารถในด้านการบริหารจัดการแล้ว อย่าลืมตรวจสอบเรื่องคุณธรรมจริยธรรมด้วยนะคะ
ใกล้วันเลือก นายกสภามหาวิทยาลัยท่านใหม่ของ มน. เข้ามาแล้ว วันที่ 18 มี.ค. ที่จะถึงนี้ อย่าลืม! อย่าลืม!