บทความทางวิชาการ 3 บทความ (2)


รูปแบการจัดการความรู้ในสถานศึกษาให้คนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้

บทความที 3 รูปแบบการจัดการความรู้ในสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะคนในสถานศึกษาให้เป็นคนแห่งการเรียนรู้

           การสร้างคนในสถานศึกษาให้เป็นคนแห่งการเรียนรู้ และเป็นการเรียนรู้อย่างตลอดชีวิตสำหรับคนทุกคนในสถานศึกษา  โดยใช้รูปแบบของการจัดการความรู้ทีต้องนำระบบการจัดการด้านสื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาเป็นเครื่องมือในการดำเนินงาน  ดำเนินกิจกรรมอย่างเป็นระบบและมีความต่อเนื่องตลอดเวลา จึงจะทำให้คนทุกคนในสถานศึกษานั้น  มีนิสัยรักการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้......จึงขอนำเสนอรูปแบบการจัดการความรู้ในสถานศึกษา โดยสังเขปคือ

           รูปแบบการดำเนินงานจัดการความรู้ในสถานศึกษาแบ่งเป็น 6  ขั้นตอน คือ

ขั้นตอนที 1 การสร้าจิตสำนึกและความตระหนัก

                ขั้นตอนนี้สถานศึกษาจะใช้กิจกรรมมาพัฒนาคนทุกกลุ่มทีมีอยู่ในสถานศึกษา  ให้มองเห็นความสำคัญ ความจำเป็นในการพัฒนาตนเองอยู่เสมอและตลอดเวลา  ในการศึกษาหาความรู้ให้กับตนเองเพื่อจะได้มีความรู้ทีทันสมัย ทันเหตุการณ์ ทันคน ไม่เป็นคนล้าสมัย โดยใช้กิจกรรม

                1.1 การประชุม อบรม สัมนา จากทุกหน่วยงานอื่นจัดขึ้น  แล้วนำมาสรุปเป็นองค์ความรุ้ถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้รับทราบด้วย

                1.2 การพูดคุย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างบุคคลภายในและภายนอกหน่วยงาน เพื่อกระตุ้นให้ทุกคน มีข้อมูลในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยกันตลอดเวลา

                1.3 การจัดกิจกรรม การจัดนิทรรศการ การจัดงานวันวิชาการ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีโอกาสแสดงออกด้านความสามารถของตนเอง  ให้ทุกคนได้รับทราบ และเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความรู้ด้านต่างๆ ซึ่งกันและ  เป็นการยกย่องชมเชยผลงานของคน เป็นการกระตุ้นการทำงาน

ขั้นตอนท่ 2 การวางแผนการดำเนินงานร่วมกันทุกคนในสถานศึกษา

               เป็นการดำเนินการให้ทุกคนช่วยกันคิดหาวิธีการดำเนินกิจกรรมทุกอย่าง สำหรับทุกคนให้มีความต้องการทีตรงกันเป็นส่วนใหญ่ และมองเห็นว่าเกิดคุณค่าต่อการเรียนรู้อย่างแท้จริง โดยการแบ่งกล่มุคนในสถานศึกษา 3 กลุ่มคือ  กลุ่มนักเรียนนักศึกษา  กลุ่มข้าราชการครู  และกลุ่มบุคลากรอื่น ร่วมกันวางแผนการดำเนินงาน โครงการ กิจกรรม ทั้งหมด

ขั้นตอนท่ 3 ดำเนินกิจกรรมตามแผนงานทีกำหนดไว้

            3.1 กิจกรรมกลุ่มนักเรียนนักศึกษา  ได้แก่  กิจกรรมส่งเสริมการอ่านโดยทุกคนต้องอ่านหนังสือทุกวันๆละ 5 นาที กิจกรรมแข่งขันทักษะทางวิชาการ เดือนละ 1 ครั้ง  กิจกรรมศึกาค้นคว้าหาความรุ้จากห้องสมุด  กิจกรรมห้องสมุดเคลื่อนท่  กิจกรรมตอบปัญหาทั่วไปทุกวัน  กิจกรรมเสนอข่าวประจำวัน  กิจกรรมการจัดนิทรรศการในวันสำคัญ  กิจกรรมการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์  กิจกรรมการสืบค้นข้อมุลทางอินเทอร์เน็ต  กิจกรรมการเสนอผลงานผ่านทางสืออิเลคทรอนิกส์ เป็นต้น

            3.2 กิจกรรมของกลุ่มข้าราชการครู  ได้แก่ กิจกรรมการพัฒนาห้องสมุดเป็นแหล่งเรียนรุ้ทีทันสมัย  กิจกรรมการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต  กิจกรรมการรายงานผลการปฎิบัติงานผ่านทางสือมัลติมีเดีย  กิจกรรมการการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม กิจกรรมการจัดงาน จัดนิทรรศการทางวิชาการ กิจกรรมการวิจัยชั้นเรียนเพื่อการจัดการศึกษามุ่งประสิทธิภาพ  เป็นต้น

           3.3 กิจกรรมกลุ่มบุคลากรอื่น  ได้แก่ กิจกรรมการเรียนรู้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต กิจกรรมการเสวนาทางวิชาการ  กิจกรรมการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต กิจกรรมการจัดแหล่งเรียนรู้ในชุมชน  กิจกรรมการเรียนรูจากภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นต้น

ขั้นตอนท่ 4 การติดตามผลการดำเนินงาน

             เป็นการติดตามผลการดำเนินงานกิกรรมของกลุ่มทั้ง 3 กล่มุ เป็นระยะ  อย่างต่อเนื่อง มีการปรับปรุงแก้ไขปัญหาทีเกิดขึ้นอยู่เสมอ 

ขั้นตอนที 5 การประเมินผล การสรุปผล และการายงานผลการดำเนินงาน

             เป็นการประเมินผลการจัดกิจกรรม เมื่อสิ้นปีการศึกษา หรือสิ้นกำหนดเวลาทีกำหนดไว้ในกิจกรรม และร่วมกันสรุปผลการดำเนินงาน พร้อมรายงานผลการดำเนินงาน  ทั้ง 3 กลุ่ม ต่อคณะกรรมการดำเนินงานชุดใหญ่

ขั้นตอนที 6 นำผลการประเมินไปใช้ปรับปรุงพัฒนา

             เป็นการนำผลการประมินและรายงานกิจกรรม ทั้ง 3 กลุ่ม มากำหนดเป็นแผนการดำเนินงานในปีถัดไป หาจุดเด่น จุดออ่นของแต่ละกิจกรรมมาสรุปร่วมกันในกรรมการชุดใหญ่อีกครั้งหนึ่ง

             สรุปจะเห็นว่ารูปแบบการดำเนินงานการจัดการความรู้ในสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะคนในสถานศึกษาให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ ตลอดชีวิตทุกคน จะต้องมีปัจจัยต่างๆ มากมายเข้ามาสนับสนุนการดำเนินงาน จึงจะทำให้งานประสบความสำเร็จได้ ปัจจัยทีมาสนับสนุน ได้แก่ การวางแผนการดำเนินงานท่ดีมีขั้นตอน กิจกรรมท่ชัดเจน มีการติดตามประเมินผลการดำเนินงานเป็นระยะ มีการประเมินผล การสรุปผล และการนำผลการสรุปไปใช้พัฒนางานต่อไป  และนอกจากนี้ ยังต้องมีสื่อและเทคโนโลยีท่ทันสมัย การประสานความร่วมมือกันของบุคลากรในโรงเรียน การสนับสนุนจากผู้บริหารโรงเรียน  การจัดสรรงบประมาณในการดำเนินงานท่เพียงพอ การสนับสนุนกิจกรรมจากองค์กรภายนอก  การประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน การทำงานด้วยใจรักของคนทุกคนในองค์กร การรู้จักความรับผิดชอบต่อหน้าทีของทุกคนท่มาเกี่ยวข้องกับงานนี้ การเสียสละ การอุทิศตนเวลาต่องาน และ ปัจจัยอื่น ๆ อีก มากมาย ที เป็นตัวกำหนดความสำเร็จของการดำเนินงานทุกงาน

  โดย คเนพร  จันทวงศ์  อาทิตย์ ที 2  มีนาคม 2551  รหัสประจำตัว 5046701025

 

หมายเลขบันทึก: 168689เขียนเมื่อ 2 มีนาคม 2008 19:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท