โยนีปีศาจ : ปาจิตตกุมารชาดก


นางอรพิมพ์จึง ควักนมทั้งสองข้างออกมา ปาเข้าป่า กลายเป็นต้น "นมนาง" จากนั้นนางจิกแก้มอวบอิ่มจิ้มลิ้มเป็นพวง เหวี่ยงทิ้งไปกลายเป็นต้น "แก้มอ้น" และควักโยนีขึ้นปาเข้าป่ากลายเป็นต้น "โยนีปีศาจ"

 ในสมัยพระบรมราชาธิราชที่ 3 (พ.ศ.2025-2034) ได้กล่าวถึงนิทานเรื่องท้าวปาจิตไว้ใน "โคลงทวาทศมาส" ความว่า


ประจิตเจียนเหน้าหน่อ ................อรพินท์
พระพิราไลยปลง.........................ชีพแล้ว
คืนสมสุดาจินต์...........................รสร่วม กันนา
กรรมแบ่งกรรมแก้วแก้ว.............ช่วยกรรม

นิทานเรื่องท้าวปาจิตนางอรพิมพ์/อรพินทุ์ เป็นตำนานเมืองพิมาย (นิทานปัญญาสชาดก เรื่อง "ปาจิตตกุมารชาดก")  ต่อมาใน สมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี  กวีได้ร้อยกรองไว้ในรูปกลอนสุภาพ 

กลอนตำนานท้าวปาจิตนางอรพิมพ์  เป็นเอกสารสมุดไทย ค้นพบที่ วังหลัง ลีลากลอนสุภาพของสุนทรภู่นั้นมีแม่แบบมาจาก กลอนตำนานท้าวปาจิตนางอรพิมพ์ ซึ่งชำระพิมพ์โดยกรมศิลปากรเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๓

อนึ่ง ต้นเรื่องนิทานคำกลอนจันทโครพ ก็มีความคล้ายคลึงกับนิทานเรื่องท้าวปาจิตนางอรพิมพ์ รวมถึง ฉากลาวัด ในกลอน รำพันพิลาปของสุนทรภู่ ตรงกับฉาก ภายในวัดเทพธิดาราม ผู้ชำระนิทานเรื่องนี้คือทิพวัน บุญวีระ ข้าราชการบำนาญ กรมศิลปากร

 นิทานเรื่องท้าวปาจิตนางอรพิมพ์มีเรื่องย่อดังนี้
กาลครั้งหนึ่ง ณ ประเทศเขมร มีเมืองหลวงชื่อ "นครธม" มีกษัตริย์พระนาม "พระเจ้าอุทุมราช" มีพระโอรสพระนามว่า "ปาจิต"

พระราชโอรส ปาจิต ไม่ทรงปลงใจกับสาวงามคนใด พระราชบิดาจึงให้โหรหลวงได้ทำนายดวงพระชะตา ฝ่ายโหรหลวงได้ทำนายดวงพระชะตาว่า เนื้อคู่พระปาจิตกำลังอยู่ในท้องแม่ ขอให้มุ่งหน้าไปตามทิศพายัพสู่เมืองพิมาย จะเจอหญิงท้องแก่ผู้ยากไร้ หญิงผู้นี้ เวลาเดินกลางแดดจะมีกลดวิเศษกั้นแดดให้เสมอ


พระปาจิตได้ฟังดังนั้น จึงออกเดินทาง จนเข้าเขตเมืองพิมาย ที่บ้านสัมฤทธิ์ เจอหญิงท้องแก่ดำนากลางแดด มีกลดวิเศษบังแดดไว้ จึงเข้าไป ถามไถ่ ได้ความว่าแกชื่อ "ยายบัว" พระปาจิตเลยขออาศัยอยู่ด้วย กระทั่งยายบัวคลอดลูก ทาริกานั้นได้นามว่า อรพิมพ์ พระปาจิตช่วยเลี้ยงมาจนโต

พระปาจิตเดินทางกลับบ้านเมืองตนเพื่อเตรียมยกขันหมาก ฝ่ายพระเจ้าพรหมทัต ผู้ครองเมืองพิมาย ทราบกิตติศัพท์ความงามของนางอรพิมพ์ จึงยกพลชิงนางมาเป็นมเหสี แต่นางอรพิมพ์ไม่ยอมและตั้งสัจจาธิษฐานว่า หากมิไม่ใช่พระปาจิตแล้ว ขอชายอื่นไม่สามารถแตะต้องตัวนางได้

พระปาจิตแห่ขบวนขันหมากกลับมา พบว่านางอรพิมพ์ถูกพระเจ้าพรหมทัตชิงตัวไป จึงรีบเดินทางขอเข้าเฝ้าพระเจ้าพรหมทัต โดยใช้กโบบายลวงว่าเป็นพี่ชายนางอรพิมพ์ พระเจ้าพรหมทัตหลงเชื่อพาพระปาจิตไปเข้าพบกับนางอรพิมพ์ในยามราตรีมีงานเลี้ยง นางอรพิมพ์จึงมอมเหล้าพระเจ้าพรหมทัตจนสลบ พระปาจิตจัดแจงชักดาบสังหารพระเจ้าพรหมทัต

จากนั้นทั้งสองก็ รอนแรมหลบหนีเข้าป่ากว้าง พบกับนายพราน นายพราน มีจิตปฏิพัทธ์ต่อ นางอรพิมพ์ จึงยิงศรสังหารพระปาจิต จากนั้นนายพราน ก็พานางอรพิมพ์จากไป อรพิมพ์แสร้งบอกนายพรานว่าเดินไม่ไหว ให้นายพรานหาควายมาใช้เป็นพาหนะพานางอรพิมพ์ซ้อนท้าย เมื่อได้ควายและเดินทางไปได้ไม่ไกลนัก นางอรพิมพ์จึงฉวยดาบสังหารนายพรานจนตายแล้วกลับมายังที่ศพพระปาจิต

นางอรพิมพ์ครวญคร่ำรำพันโศกาดูร เทวษ ทุมนา นัก เดือดร้อนถึงพระอินทร์และพระวิศสุกรรม ต้องแปลงร่างมาเป็นงูเห่ากับพังพอนต่อสู้กัน เมื่อฝ่ายหนึ่งพลาดท่าถูกกัดตาย อีกฝ่ายจะไปกัดแทะเปลือกไม้สมุนไพร มาพ่นใส่ให้ฟื้น ผลัดกันฟื้นผลัดกันตายอยู่อย่างนี้ นางอรพิมพ์จึง นำสมุนไพร นั้นใช้รักษาพระปาจิต จนฟื้น

ทั้งคู่เดินทางจนมาถึงแม่น้ำใหญ่ กำลังคิดจะว่ายข้าม ปรากฎว่ามีเรือลำหนึ่งผ่านมา มีคนขับเป็นตาเถร ตาเถรเห็นนางอรพิมพ์ก็มีจิตปฏิพัทธ์ จึงใช้อุบายรับนางอรพิมพ์ข้ามฝากแต่เพียงผู้เดียว นางอรพิมพ์และพระปาจิตหลงเชื่อ ตาเถรแทนที่จะพานางอรพิมพ์ข้ามแม่น้ำ กลับพายเรือกลับบ้าน นางอรพิมพ์ไม่รู้ทำยังไง มองไปข้างลำน้ำเห็นต้นมะเดื่อ จึงแสร้งใช้มารยาบอกตาเถรว่าอยากกินมะเดื่อ ตาเถรหลงเชื่อปีนต้นมะเดื่อขึ้นไป นางจึงรีบเอาหนามมาสะไว้ที่โคนต้นมะเดื่อ จากนั้นนางจึงพายเรือหนี ไป

นางอรพิมพ์กลับมาหาพระปาจิตไม่พบ ได้แต่เศร้าใจ ตั้งจิตอธิษฐานว่าความงามของตนช่างก่อให้เกิดเคราะห์กรรม ขอเป็นชายดีกว่า พระอินทร์ได้ทราบดังด้วยญาณวิถี จึง ให้พรแก่นาง

นางอรพิมพ์จึง ควักนมทั้งสองข้างออกมา ปาเข้าป่า กลายเป็นต้น "นมนาง" จากนั้นนางจิกแก้มอวบอิ่มจิ้มลิ้มเป็นพวง เหวี่ยงทิ้งไปกลายเป็นต้น "แก้มอ้น" และควักโยนีขึ้นปาเข้าป่ากลายเป็นต้น "โยนีปีศาจ"

เมื่อกลายเป็นชาย นางร่อนเร่ไปเรื่อย จนเจอเมืองเมืองหนึ่ง ซึ่งพระราชธิดาแห่งเมืองนี้ เพิ่งสิ้นพระชนม์ นางจึงขอเข้าเฝ้าพระราชา แล้วก็นำสมุนไพรที่เคยใช้กับพระปาจิตชุบชีวิตพระราชธิดา จากนั้นพระราชามีพระราชประสงค์ ให้นางอรพิมพ์ อภิเสกสมรสกับพระราชธิดา แต่นางอรพิมพ์ขอบวชเป็นพราหม์แทน พร้อมทั้งสลักเรื่องของนางกับพระปาจิตไว้ที่ข้างฝากุฎี

ฝ่ายพระปาจิต ตามหานางอรพิมพ์ไปทั่วทิศ ใช้ระยะเวลาร่วม 7 ปี แต่ก็ยังไม่พบ สุดท้ายเดินทางจนมาหมดแรงที่หน้าพระกุฎีพราหม์ เมื่อพระปาจิต เห็นภาพสลักเข้า ก็ทราบว่าเป็นเรื่องราวของตน จึงได้พบกับนางอรพิมพ์

 จากนั้นนางอรพินท์เดินกลับไปตามหาอวัยวะ ที่ได้ควักทิ้งไว้ ตามต้นไม้ต่างๆ นำมาประกอบใหม่ กลายเป็นนางอรพิมพ์คนงามเช่นดังเดิม   กลอนตำนานท้าวปาจิตนางอรพิมพ์  บรรยาย ความไว้ว่า

ทั้งบุญหลังที่อบรมประสมไว้ อย่าได้ช้าจงมาช่วยพระคุณขา
ข้าไหว้ไปจนถึงพระอินทรา จงลงมาเป็นสักขีที่พยาน
โยนีของกระผมที่ฝากไว้ จงกลับลงมาสู่ที่กายเป็นธิษฐาน
ขอคืนกายกลายเป็นหญิงอย่านิ่งนาน เหมือนธิษฐานด้วยว่าสัจจาใจ
สิ้นคำปากถันนางฝากไว้ที่ต้นงิ้ว ก็ลอยลิ่วลงมาสวมสับนิสัย
รูปกายบุรุษก็หลุดไปในทันใด อันรูปกายกลับเป็นหญิงดังก่อนนา
โยนีนางที่วาจาได้ฝังฝาก บรรดาจากปลายสำโรงเร็วหนักหนา
อยู่ตามรูปโยนีเหมือนเดิมนา รูปราชาสังฆราชก็หายไป
รูปจริตมิได้ผิดสนิทแน่ นางอรพิมนั่นแท้อย่าสงสัย
ต้นสำโรงที่นางฝากโยนีปลาย จึงออกหน่วยก็กลายเหมือนโยนี
ต้นงิ้วนั้นที่อกถันนางไปฝาก ครั้นถันนางมาจากคืนอิตถี
ด้วยนิสัยไว้เป็นเดิมยังอยู่ดี จึงปุ่มงิ้วนั้นมามีเหมือนนมคน

 

อ่านมาถึงย่อหน้าสุดท้าย ผู้อ่าน คงเริ่ม อยากเห็นต้น โยนีปีศาจ กันขึ้นมาบ้างแล้วใช่หรือไม่ ต้นโยนีปีศาจ มี ชื่อพฤกษศาสตร์  shrebera swieteniodes Roxb. จัดอยู่ในวงศ์  Oleaceae ชื่อเรียกภาษาพื้นเมืองมีหลายชื่อได้แก่  โยนีปีศาจ  หีผี  มะกอกดอน(อีสาน)  สำโรง  มะกักป่า(ตะวันตก)  มะกอกเผือก(เหนือ)  มะกอกโคก (กลาง)    คนุยฺคมอจฺ (เขมร)

 

 




เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้

หมายเลขบันทึก: 168235เขียนเมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 2008 16:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 10:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ขอบคุณที่นำสาระดี ๆ มาแบ่งปันครับ  ..อ่านแล้วก็อดคิดถึงวรรณกรรม  หรือตำนานพื้นบ้านต่าง ๆ ของสังคมเมืองเราไม่ได้  แต่ที่ผมประทับใจมากที่สุดก็คือ ไตรภูมิพระร่วง ... อ่านยากหน่อย แต่ได้ภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับนรก สวรรค์  หรือภพภูมิต่าง ๆ

และหลายตอนก็มีนัยยะแห่งการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างน่าชื่นชม

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ

 - ขอบคุณมากค่ะที่อนุเคราะห์

 

สวัสดีครับอารย์ พรรณา ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ บทความนี้เขียนไว้ได้สักพักหนึ่งแล้วครับพอดีอาจารย์พูดถึง ต้นโยนีปีศาจเลยนำมาโพสไว้ครับ ขอบคุณครับ

ชื่อเดียวกับผมไนปัจจุบันเลย อ่านแล้วเหมือนเรื่องของตัวเองเลย ผมเป็นคนโคราชคับ

ขอบคูนที่เอามาให้อ่านนะคับ

การพลัดพรากนี้นี้เป็๋นทุกข์จริงแท้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท