กรมพระยาดำรงราชานุภาพ


กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ประวัติ โบราณคดี

  

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ 

เป็นพระโอรสในรัชกาลที่ ๔  กับเจ้าจอมมารดาชุ่ม  มีพระนามเดิมว่า  พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร  ประสูติเมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๐๕  ทรงได้รับการศึกษาเบื้องต้นในพระบรมหมาราชวัง  ในสมัยรัชกาลที่ ๕  ได้รับการสถาปนาเป็นกรมหมื่นดำรงราชานุภาพ  แล้วเลื่อนเป็นกรมหลวง  ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๖  ได้เลื่อนขึ้นเป็นกรมพระยา  และเมื่อถึงสมัยรัชกาลที่ ๗  ได้รับการสถาปนาเป็น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ   สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาบ้านเมือง โดยเฉพาะการปฏิรูปประเทศในสมัยรัชกาลที่ ๕  ทรงปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วนความวิริยะอุตสาหะ  มีความรอบรู้  มีความซื่อสัตย์  และจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ 

พุทธศักราช ๒๔๑๘ เมื่อมีพระชนม์ได้ ๑๓ พรรษา ได้ทรงผนวช เป็น สามเณรที่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม สมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ และประทับจำพรรษา ที่วัดบวรนิเวศวิหาร

พุทธศักราช ๒๔๒๐ ได้ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยทหารบก ได้รับพระราชทานยศเป็นนายร้อยตรีทหารมหาดเล็ก บังคับกองแตรวง พระชนมายุได้ ๑๕ ปี

พุทธศักราช ๒๔๒๒ ได้รับพระราชทานยศเป็นนายร้อยโทผู้บังคับการทหารม้าในกรมมหาดเล็กและในปีเดียวกันนี้ได้รับพระราชทานยศเป็นนายร้อยเอก ราชองครักษ์ประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระชนมายุ ได้ ๑๗ ปี

พุทธศักราช ๒๔๒๓ได้รับพระราชทานยศเลื่อนเป็นนายพันตรี ผู้สนองพระบรมราชโองการ ว่าการกรมทหารมหาดเล็ก และโปรดเกล้าฯ ให้เป็นผู้รับพระบรมราชโองการจัดตั้งโรงเรียนทหารมหาดเล็ก อันถือเป็นจุดกำเนิดของโรงเรียนนายร้อยทหารบก และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า

พุทธศักราช ๒๔๒๔ โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายไปสังกัดกรมทหารปืนใหญ่ ซึ่งเรียกกันในสมัยนั้นว่า "กรมกองแก้วจินดา"

พุทธศักราช ๒๔๒๕ ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงเป็นพระอุปัชญาย์ และ ประทับจำพรรษาที่วัดนิเวศธรรมประวัติบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

พุทธศักราช ๒๔๒๘ โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายไปเป็นผู้บังคับการทหารมหาดเล็ก และได้รับพระราชทานยศเป็นนายพันโท

พุทธศักราช ๒๔๒๙ โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระสุพรรณบัฎ และทรงประกาศแต่งตั้งให้ ดำรงพระอิสริยยศเป็น "กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ"

พุทธศักราช ๒๔๓๐ โปรดเกล้าฯ ให้เป็น "ผู้บัญชาการทหารบก

พุทธศักราช ๒๔๓๑ ได้รับพระราชทานยศเป็นนายพลตรี

พุทธศักราช ๒๔๓๒ โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายจากงานฝ่ายทหารไปปฏิบัติงานทางพลเรือน ทรงเป็นผู้กำกับกรมธรรมการ

พุทธศักราช ๒๔๓๓ โปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนขึ้นเป็นอธิบดีกรมศึกษาธิการ

พุทธศักราช ๒๔๓๕ -๒๔๕๘ โปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง "เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย"

พุทธศักราช ๒๔๔๒ โปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนพระอิสริยยศเป็น "กรมหลวงดำรงราชานุภาพ"

พุทธศักราช ๒๔๕๔ โปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนพระอิสริยยศเป็น "กรมพระดำรงราชานุภาพ"

พุทธศักราช ๒๔๕๘ ดำรงตำแหน่งนายกหอพระสมุดสำหรับพระนคร

พุทธศักราช ๒๔๕๙ โปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งองค์ผู้อำนวยการก่อตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พุทธศักราช ๒๔๖๖ ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมุรธาธร และเป็นนายพลเอก

พุทธศักราช ๒๔๖๘ ดำรงตำแหน่งอภิรัฐมนตรี

พุทธศักราช ๒๔๖๙ ดำรงตำแหน่งนายกราชบัณฑิตยสภา

พุทธศักราช ๒๔๗๒ โปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนพระอิสริยยศเป็น"สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ"

พุทธศักราช ๒๔๘๖ เสด็จสิ้นพระชนม์ ณ วังวรดิศ สิริรวมพระชันษา ๘๑ พรรษา

 

อ้างอิง http://ecurriculum.mv.ac.th/elibrary/library/theyoung.net/good_poonum_71.htm

 http://personinhistory.exteen.com/page-6

หมายเลขบันทึก: 167973เขียนเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2008 15:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม 2012 20:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท