028 กำหนดวันเดินทางของโยคีน้อย...ไปกุสินารา


ก็จะใช้ชีวิต แบบการออกธุดงค์ คือตามแต่เขาจะจัดหาให้

  วันนี้ ได้เดินทางไปทำพาสปอร์ต ที่ห้างเซนทรัลบางนา มีคนไปทำหนังสือจำนวนมาก เพียงแค่ยังไม่ถึงครึ่งวัน ผู้เขียนก็ได้คิวที่ 602 ซึ่งต้องรอ อีก200 คน จึงจะถึง ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ ที่ให้ความสะดวก และแนะนำตลอดเส้นทาง มีเพียงบัตรประชาชน ก็สามารถ เป็นหลักฐาน ในการทำหนังสือเดินทางครั้งนี้ได้แล้ว และเมื่อหนังสือหมดอายุ 5 ปี ก็ต้องทำใหม่ทุกราย ไม่มีการต่ออายุแล้ว ถึงแม้ต้องรอ กว่าจะเสร็จ ก็เกือบ บ่ายสามโมง ไม่กล้าออกไปกินข้าวกลางวันก่อน กลัวผ่านคิว แต่เห็นใจ เจ้าหน้าที่มากกว่า ที่ให้บริการด้วยความ ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่แสดงอาการเหน็ดเหนื่อย

   ค่ำวันนี้ผู้เขียนได้มานั่งทบทวนเวลา ที่ได้มาจากการใช้วันลา ไปปฏิบัติงานครั้งนี้ ที่ประเทศอินเดีย ก็เป็นเวลาเพียงน้อยนิด จึงตัดสินใจว่า จะเดินทางวันที่ 13 มีค. 51 วันแรกที่เริ่มลา ตามประสงค์ที่ตั้งใจไว้ และกลับประเทศไทย 26 เมย.51

  เงินกองทุนที่ได้ขายหนังสือ หนึ่งคนวาด หนึ่งคนแต่งนั้น ที่ได้อัพเดทสมุดไว้คือ141,210.87 บาท และเงินสดที่คุณพลเดชและคุณพ่อสกลช่วยขายหนังสือ อีก 8800 บาท รวมเป็นเงิน 150,010.87 บาท และเมือหักทุนค่าพิมพ์หนังสือ ที่คุณพลเดช ได้กรุณา สำรองจ่ายให้ก่อนคือ 56,000 บาท ค่าจัดส่งหนังสือ 2,000 บาท และ ได้ร่วมทำบุญบริจาคให้ กองทุน gotoknow 20,000 บาท เพราะฉนั้น จึงเหลือเงินสุทธิ 72,010.87 บาท

   ได้เข้าไปตรวจสอบเที่ยวบิน จากการบินไทย วันที่ 13 มีค. 51 เที่ยวบินจาก สุวรรณภูมิ-คยา จะเหลือแต่ชั้นพิเศษ ราคา 26,255 บาท และเที่ยวบินจาก พาราณาสี - สุวรรณภูมิ ราคาชั้นปกติ 33,950 บาท รวมค่าใช้จ่าย ค่าเครื่องบิน ก็คือ 60,205 บาท แต่ขณะนี้ ยังไม่ทราบค่ารถ ในการเดินทางไปกุสินารา และพาราณาสี แต่กองทุน ยังเหลือเงิน 11,805 บาท ผู้เขียนคิด่า คงจะพอเพียง สำหรับ การไปในครั้งนี้

   แต่แรกตั้งใจว่าทำหนังสือ หนึ่งคนาด หนึ่งคนแต่ง เป็นค่าเดินทาง ก็ได้ตามที่ตั้งใจทุกประการ เพียงแต่ผู้เขียนรู้สึกว่า ถ้าถามถึงความคุ้มกันไหมในการไปครั้งนี้ ก็ต้องตอบว่า การเสียเงินถึง เจ็ดหมื่นกว่าบาท กับการไปแค่ หนึ่งเดือนเศษ ก็คงดูจะไม่คุ้มกันเลย ตามหลัก การลงทุน ถ้าลงทุนขนาดนี้ น่าจะต้องอยู่สักปีละมัง จึงจะสมน้ำสมเนื้อ

    ที่สุด ผู้เขียน ก็ต้องขอใช้ทรัพยากร ที่ท่านทั้งหลายสนับสนุน กันมานี้ ไปปฏิบัติงาน ศึกษาดูงานในเวลาที่มีอยู่ เพื่อจะเป็นประโยชน์ต่อผู้มีจิตอาสา ที่จะเดินทางไปเช่นนี้ ในภายหลัง แม้จะระยะเวลาอันสั้น และไปอย่างพอเพียง เหมือนการแสวงบุญ ไม่ใช่การท่องเที่ยว และแม้ค่าใช้จ่าย จะหมดลงพอดี กับค่าเดินทาง ก็จะใช้ชีวิต แบบการออกธุดงค์ คือตามแต่เขาจะจัดหาให้ และจะคิดถึงความสะดวกสบายให้น้อยที่สุด ตามที่พี่โยคี ตอกย้ำเอาไว้ การไปครั้งนี้ ให้คิดเพียงว่า ไปสร้างบารมีให้ยิ่งๆขึ้นไป จงอย่าได้นึกถึงความสุขสบายส่วนตัว ให้อดทน ต่อความทุกข์ยากที่อาจได้พบ เพราะทุกอย่างที่ผ่านพ้นมาได้ คือบุญกุศลล้วนๆ

    ถึงวันนี้ โยคีน้อย มีความสบายใจ ที่จะได้เดินบนเส้นทาง ที่พี่โยคีว่าไว้ คือตัวเราตั้งจิตเอาไว้เช่นนี้เอง แต่เมื่อเกิดมาก็ลืม แต่ครั้งนี้ คงเป็นการตั้งใจอย่างมุ่งมั่น แม้จะจำไม่ได้แล้ว แต่ก็มีพลังผลักดันให้ไปจนได้...

หมายเลขบันทึก: 167408เขียนเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2008 21:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

สวัสดีค่ะ

-ขอร่วมอนุโมทนาสาธุ ด้วยคนนะค่ะ

 

สวัสดีค่ะคุณเพชรน้อย

    จะทำทุกวันให้เป็นบุญค่ะ ขอบคุณที่มาร่วมสาธุค่ะ

โยคีน้อยครับ

เงินสดที่คุณพลเดชและคุณพ่อสกลช่วยขายหนังสือ อีก 8800 บาท

เงินสดที่ว่านั้นคือหนังสือ 110 เล่ม ซึ่ง 50 เล่มนั้น ผมซื้อสำหรับตัวเองครับ จึงขอหักจากต้นทุนที่จะคืน ส่วนของคุณพ่อสกลที่รับฝากขาย 60 เล่มนั้น ก็ถือว่าให้หักจากต้นทุนที่จะคืนผมเช่นกัน 60 เล่ม

สำหรับตั๋วการบินไทยที่ระบุนั้นเข้าใจว่าเป็นราคาเต็ม(ทางการ)นะครับซึ่งควรจะซื้อผ่านเอเย่นต์นะครับและควรซื้อแบบไป-กลับ มิใช่เที่ยวเดียวซึ่งจะแพงมาก ราคาตั๋วไป-กลับการบินไทยน่าจะอยู่ที่ไม่เกิน 2.6 หมื่นครับ(ชั้นประหยัด)และสุดท้ายผมคิดว่าใช้แบบชั้นประหยัดก็สบายดีครับเพราะเป็นการเดินทางระยะสั้นประมาณ 3 ชม. กว่า ผมเองเดินทางด้วยชั้นประหยัดประจำถ้าเดินทางส่วนตัว

จำได้ว่าแนะนำคนที่จะติดต่อซื้อตั๋วไปด้วยแล้ว หากต้องการก็ติดต่อไปนะครับ

ดังนั้น ถ้าค่าตั๋วราคาประมาณที่ผมบอก ก็จะมีเงินเหลือพอสำหรับรายจ่ายอื่นๆ ซึ่งจำเป็นต้องประสานกับท่านพระมหาคมสรณ์ที่กุสินาราไปก่อนนะครับ (ผมจะช่วยประสานด้วยอีกทางหนึ่ง)จะได้ทราบตัวเลขคร่าวๆ ซึ่งจะมีเพียงค่าเช่ารถเท่านั้นตามจุดต่างๆ ที่เคยบอกเท่านั้น ที่เห็น ณ ตอนนี้ เพราะค่าที่พักและค่าอาหาร จะใช้วิธีทำบุญกับทางวัดแทนครับ ก็แล้วแต่จะพิจารณา

เวลาไปทัวร์แสวงบุญ 4 แห่ง 2ประเทศ กับบริษัททัวร์ประมาณ 10 วัน รวมค่าเครื่องบินไป-กลับ ค่าที่พัก ค่ารถ ค่าอาหารทั้งหมดครบถ้วนก็จะตกไม่เกิน 5 หมื่นเองครับ จึงขอให้สำรวจตัวเลขค่าเดินทางอีกทีนะครับ หรือหากใครมีข้อมูลตรงนี้ก็ช่วยกันแจ้งมานะครับ

ผมคิดว่าคุณหมอบุญรุ่งคงจะต้องทำบัญชีให้ละเอียดแล้วละครับในระหว่างการเดินทาง เพราะจะได้แจ้งให้ทุกท่านใน G2K ทราบด้วย ทั้งนี้มิใช่จะเข้มงวดกับการใช้เงิน แต่ต้องการให้โปร่งใสครับ จะได้อนุโมทนาบุญกันต่อไป เพราะเป็นเงินบุญจากทุกท่านจริงๆ

ความจริงผมถือว่าได้ร่วมบุญจนถึงขั้นหนังสือบุญจำหน่ายหมดแล้ว ก็ขออนุโมทนาบุญได้แล้ว  และควรปล่อยให้คุณหมอพิจารณาใช้เงินไปตามความเหมาะสม ซึ่งผมก็จะทำเช่นนั้นครับและด้วยความปรารถนาดียิ่ง

ผมขอเรียนนะครับ จะได้สบายใจกันเพราะคุณหมอเองบางทีก็เกรงใจ เช่นเกรงใจว่าที่ไปอยู่เดือนกว่าจะสั้นไปหรือไม่ ก็ถามผมไป ผมก็ตอบว่า ความจริงไม่ได้กำหนดว่าจะต้องไปอยู่นานแค่ไหน โดยเฉพาะผมด้วยแล้ว ยิ่งไม่ได้คิดกำหนดระยะเวลาเลย พระธรรมทูตเองท่านก็ให้ความเห็นว่าน่าจะไปทดลองก่อนระยะสั้นจะได้รู้ ซึ่งก็ตรงกันและเหมาะสมแล้ว

การทำหนังสือบุญนี้ ก็เพื่อให้มีโอกาสให้ไปดูและทดลองเท่านั้น ซึ่งขั้นหาทุนก็ผ่านมาแล้วด้วยดี ดังนั้นเงินที่เหลือหลังหักต้นทุน ค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว ควรให้คุณหมอเป็นผู้พิจารณาใช้ตามความเหมาะสมเพราะคุณหมอเป็นผู้ที่จะไปผจญภัย

คำแนะนำต่างๆ นี้ ก็เพื่อให้ช่วยพิจารณาให้รอบด้านขึ้นครับ

ผมคิดว่าโครงการทำบุญแบบกันเองนี้ จะต้องช่วยให้คุณหมอไปทำบุญได้อย่างราบรื่น เรียบร้อยโดยมีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เท่าไหร่ก็เท่ากัน

ความเสียสละขอคุณหมอนั้นตีเป็นเงินไม่ได้ครับ ชอชื่นชมด้วยใจจริง

ก็ฝากเพียงว่าเมื่อได้ไปทำบุญตามที่ตั้งใจแล้ว เล่าเรื่องประสบการณ์ชีวิตให้ ชาว G2K ได้รับทราบ.......เท่านั้นจริงๆ ครับ

ขออนุโมทนา

ด้วยความปรารถนาดี

 

 

สวัสดีค่ะพี่โยคี

 รู้สึกขอบพระคุณยิ่ง ที่เป็นกัลยาณมิตร และเป็นผู้ให้ โดยไม่เคยหวังผลตอบแทนเสมอมา การได้พบกันอย่างไม่มีตัวตน การได้ร่วมบุญทำสิ่งต่างๆมากมายที่ผ่านมา ตลอดจน ได้ชี้ทางที่เป็นประโยชน์ ให้ไปสู่การสร้างบุญบารมีที่ยังไม่เคยทำ  ที่อันดับแรก ก็เกิดที่ตัวเองล้วนๆ ส่วนการเสียสละ ในการนำร่องนี้ เพียงต้องการให้มีบทเรียน ประสบการณ์ แก่ผู้ที่ต้องการสร้างบุญบารมีด้านนี้ ซึ่ง ก็เป็นเรื่องที่เต็มใจ

 ส่วนการประมาณค่าใช้จ่ายนั้น เป็นการหาข้อมูลทางเน็ต ซึ่งยังไม่ลงตัวทั้งหมด แต่คงไม่คลาดเคลื่อนมากนัก จะได้หาข้อมูลจากแหล่งอื่น และผู้รู้ต่อไป

    ส่วนการออกผจญภัย ในต่างแดนนี้ ก็จะได้บันทึกมาให้รับทราบโดยทั่วกัน ตามโอกาสอำนวยเท่าที่จะทำได้

  จะตั้งใจเก็บบุญทุกวัน จนกว่าจะถึงวันกลับค่ะ

พระธาตุสบฝาง องค์พระมหาเจดีย์ที่ชาวพุทธไม่ควรลืมไม่สักการะครั้งหนึ่งในชีวิต (ฝากบอกบุญด้วยนะคับ) http://gotoknow.org/blog/56485/164618 อยากให้ทุกคนมาที่นี้ครั้งหนึ่งในชีวิต

  • คำแนะนำของท่านพลเดช
  • เป็นสิ่งที่เป็นจริงและจะช่วยประหยัดเงินได้มากค่ะ
  • สำคัญอยูที่ใจที่มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างบุญบารมี
  • ไม่ว่าอุปสรรคใดๆย่อมพ่ายแพ้ต่อกรรมดีเสมอ
  • ทำใจให้เป็นสุขจะเห็นแสงสว่างนำทางเสมอ

ตามอ่านบันทึกของหมอรุ่งมาโดยตลอด  และ "รู้สึก" ถึงความตั้งใจดีตลอดจนการตั้งใจจริงในการกระทำความดี   ขออนุโมทนากับความตั้งใจอันดีนี้ด้วยคนนะคะ

สวัสดีค่ะคุณ  Lin Hui

  ขออนุโมทนาบุญ ที่ได้ส่งเงินมาร่วมบุญ กับการจัดหาจีวรในครั้งนี้ ซึ่งจะขอนำเงินนี้ ไปถวายวัด ที่ท่านมีจิตศรัทธา บริจาคผ้าไตร ในโอกาสต่อไป ซึ่งถ้านำเงินจำนน 2,000 บาทไปซื้อผ้าไตรโดยตรง ก็จะได้ สองชุด คิอว่า ทำบุญกับพระตามวัด ก็จะได้ผ้าไตรจำนวนเพิ่มมากขึ้น อันนี้ ไม่ได้ซื้อจากท่าน แต่ถวายท่าน เพื่อต่อบุญ ตามที่ได้สนทนากับพี่แล้ว

  ขอบคุณคำแนะนำและการเรียนรู้ ธรรมชาติ ตามที่ได้มีโอกาส พูดคุยกับพี่ ทำให้ใจสบาย และเป็นสุขทุกการกระทำค่ะ

สวัสดีค่ะน้องเนปาลี

  พี่ก็ทำแต่ละวันให้ดีที่สุดค่ะ ไม่คิดไกลมากไป ทำตามที่มีเรื่องราวเข้ามา อย่างการถวายผ้าไตร ที่วัดพุทธ บังกลาเทศนี้ ถ้าวันนั้น คุณแณณ ไม่ได้บอกบุญพี่ พี่ก็คงผ่านบุญนี้ไป แต่โชคดี ที่ได้รับรู้และมีโอกาส ทำบุญใหญ่นี้อีกครั้ง ก่อนไปอินเดีย บุญผ้าไตรนี้สำคัญนัก ผู้ที่จะได้นุ่งได้ห่มผ้าไตร ก็ต้องบวช มีจิตเป็นกุศล มีศิล และเป็นสัมมาทิฏฐิ ผู้ให้การสนับสนุน ก็ยอมได้รับผลนั้น ทุกประการ

 ขอให้ติดตาม และร่วมอนุโมทนาบุญกัน จะพยายามเล่าเรื่อบุญ ให้ละเอียด จะได้รับบุญส่วนอนุโมทนากันโดยถ้วนหน้าค่ะ

สวัสดีค่ะคุณศักดิ์ณรงค์

   ประเทศไทยมีสิ่งที่น่าท่องเที่ย อย่างสุขใจ มากมายหลายที่ แลที่พระธาตูสบฝางนี้ ตังเองก็ยังไม่เคยได้ไป แต่สักวันจะไปให้ถึงนะคะ ใครที่ยังเที่ยวไทยไม่ทั่ว ก็ขอเชิญตามที่คุณ ศักดิ์ณรงค์ ท่านบอกมานะคะ กราบองค์เจดี เป็นศิริมงคลแห่งชีวิตค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ด้วยความเป็นพุทธศาสนิกชนคนหนึ่งก็อย่างบอกบุญให้กับผู้อื่นได้รับรู้ ซึ่งเมื่อไรผมได้ก้าวย่างไปกราบพระธาตึสบฝาง ก็จะมีความเย็นขึ้นมาในใจทุกครั้ง สมาธิก็สามารถเข้าได้ถึงง่าย

ด้วยความที่พระธาตุสบฝางเป็นสถานที่บรรจุกระดูในส่วนหน้าผากของพระพุทธองค์ที่นั้นจึงทำให้ผู้แสวงในธรรมและบุญจะประสบความสำเร็จได้ง่าย

ซึ่งหลายคนได้ไปก็เกิดความอัศจรรย์ของพระธาตุมากมายนะครับ

อยากให้ทุกคนไปเยือนจริงๆ

อนุโมทนากับคุณศักดิ์ณรงค์ครับ

พระธาตุสบฝางต้องถือว่ามีความสำคัญมาก สมควรที่ชาวพุทธจะไปสักการะ เช่นเดียวกับที่อินเดียครับ

ถ้ามีโอกาส คงจะต้องไปสักการะแน่นอนครับ

ขอบคุณครับ

ได้ทราบข่าวจากคุณบุญรุ่งหรือโยคีน้อยแล้วว่า ค่าเครื่องบินไปกลับจากที่ได้สอบถามเอเยนต์เป็นจำนวนเงินประมาณ 2 หมื่นหนึ่งพันกว่า ก็ถูกต้องแล้วครับ

ผมได้บอกโยคีน้อยไปด้วยว่า การไปดูงานที่กุสินาราครั้งนี้ถือเป็นงานสร้างบารมีที่สำคัญ ผู้ร่วมบุญเต็มใจทำบุญนี้ ซึ่งผู้เสียสละก็คือคุณบุญรุ่งที่จะต้องไปผจญภัยในต่างแดน

รายได้สุทธิที่ได้จากการบอกบุญ ผมคิดว่าไม่ได้มากเกินไปเพราะค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นยังมีอีกมาก แม้ที่พัก อาหารจะไม่มีในขณะนี้(พักวัด) แต่ก้ต้องทำบุญกับวัด เพื่อมิให้เป็นหนี้สงฆ์ ยังมีค่าเช่ารถซึ่งคงจะหลายจุดอยู่ นอกจากนั้นยังต้องให้ผู้นำร่องคนนี้ได้มีค่าใช้จ่ายประจำวันด้วยซึ่งก็เป็นเรื่องที่จำเป็นและเหมาะสม ผมจึงเห็นว่าโยคีน้อยเตรียมเงินไปให้มากเพื่อสำรองเอาไว้เผื่อฉุกเฉิน

ผมได้แจ้งด้วยว่าการเดินทางไปครั้งนี้ถือว่าเราได้ทำบุญตามที่ตั้งใจแต่แรกเริ่มใกล้จะสมบูรณ์แล้ว จึงเห็นควรให้ปิดบัญชีหนังสือทำบุญนี้ ทั้งนี้เนื่องจากทางวัดก็มีกองทุนคลินิคอยู่ด้วย ผู้มีจิตศรัทธาจะได้มุ่งไปทำบุญที่กองทุนของวัดโดยตรง ซึ่งจะดีกว่า เพราะกองทุนของวัดก็รวมถึงการใช้ในการดำเนินงานของคลินิคและเรื่องอาสาสมัครของคลินิคด้วย

สิ่งสำคัญและมีคุณค่าของการไปสร้างบารมีครั้งนี้ ก็คือช่วงที่อยุ่ที่กุสินาราและการกลับมารายงานให้ทุกคนทราบถึงประสบการณ์ครั้งนี้ ซึ่งก็เชื่อแน่ว่าคุณหมอบุญรุ่งจะสามารถทำได้เรียบร้อย

ก็หวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยความราบรื่นและเหมาะสม

ข้อมูลเพิ่มเติม

การทำวีซ่านักท่องเที่ยวใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน หากเอเยนต์รับไปทำก็จะสะดวก

การนำเงินติดตัวไป ให้ใช้เงินเหรียญสหรัฐฯ และเป็นธนบัตรย่อยไม่ว่าจะเป้น 1 เหรียญ 20 /50 เพราะจะสะดวกในการแลกเป็นรูปี สำหรับเงินรูปี ก็เอาไปแต่เพียงพอสมควรและควรเป็นใบย่อย คือ 10 และ 20 รูปี

อากาศในช่วงนี้เริ่มอุ่นขึ้นมาก จะเย็นเล็กน้อยในตอนเช้ามืด

ที่วัดไทยกุสินารานั้นโดยเฉพาะห้องพักนั้นอยู่ในสภาพดีมาก ไม่มีปัญหาต้องเตรียมอะไรไปเลย อาจจะเตรียมสมุดบันทึกสำหรับจดไปก็ดี เพราะใช้ประโยชน์มาก

ไฟฟ้าที่วัดจะดับทุกคืนประมาณ 4 ทุ่ม จึงควรเตรียมไฟฉายส่วนตัวไปด้วย

เอาแค่นี้ที่คิดได้ก่อนนะครับ

ด้วยความปรารถนาดี 

 

 

เข้ามาต่อ

กล้อง จำเป็นต้องเอากล้องดิจิตัลไปเพราะสดวกในการบันทึกและเป็นไฟล์ลงในคอมในโอกาสต่อไป อย่าลืมที่ชาร์ทไฟแบตกล้อง

ปลั๊กไฟควรนำปลั๊กต่อแบบหลายชนิดไปด้วยเพราะปลั๊กไฟที่อินเดียเป็นแบบ 3 ขา

ควรเตรียมซองไปด้วย ในโอกาสที่จะต้องทำบุญกับวัด

ยาประจำตัว

ทิชชู เป็นเรื่องที่แปลกแต่ทิชชูที่อินเดียมีราคาแพงมาก หากเตรียมไปได้บ้างก็จะได้ใช้แน่นอน

ดินสอ ปากกา เครื่องเขียนเฉพาะตัวหากเตรียมไปจะได้ใช้ประโยชน์

มือถือ ควรไปเปิดบริการแบบให้ใช้ระหว่างประเทศได้

ให้เตรียมที่ใส่ของส่วนตัว(กระเป๋า)แบบคาดติดตัวไปด้วย จะได้ใช้ใส่สิ่งสำคัญเช่นหนังสือเดินทาง ซึ่งต้องถ่ายสำเนาเก็บไว้หลายๆ ที่ หากเกิดสูญหายจะได้มีหลักฐาน

แอลกอฮอร์เหลว เป็นขวดเล็กๆ มีขายตามร้านขายยาที่เมืองไทย ช่วยในการทำความสะอาดมือในทุกโอกาส

ของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น เช่นกรรไก ที่ตัดเล็บ ฯลฯ จำเป็นเหมือนกัน

ของกินส่วนตัว หากเป็นคนที่ติดอาหารไทย ควรเตรียมไปบ้าง

 

 

 

เข้ามาขอบคุณคำแนะนำจากพี่โยคีค่ะ รออ่านต่อนะคะ จะจัดเตรียมไปเรื่อยๆค่ะ

มาต่ออีกนิดหนึ่ง

ให้เอาสะติ๊กเกอร์ที่เป็นป้ายเล็กๆ ไปด้วยหรือสะก๊อตเทปแบบกระดาษไปด้วยเพราะจะเป็นประโยชน์ที่จะใช้ติดของที่เป็นของเรา เช่น กระเป๋า รองเท้า ฯลฯ รวมทั้งเอาปากกาเมจิกที่เขียนแล้วลบไม่ออกไปด้วย จะได้เอาไว้เขียนบนเทปหรือป้ายชื่อเพื่อระบุว่าของเป็นของเรา กันมั่วและสับสน เช่นรองเท้า ช่วงที่ไปบวช คนเยอะ รองเท้าพระนวกะ หายกันหลายคน เพราะดูเหมือนกันไปหมด

หมวกต้องเตรียมไปเพราะกลางวันมีแดดแรง เตรียมไปสัก 2 ใบ เผื่อหาย :)

มีคำแนะนำดีๆ สมควรปฏิบัติตาม

จดๆๆๆทุกอย่าง  จับประเด็น เล่าเป็นเรื่อง

จะคอยอ่าน

ขอบคุณมาก

สวัสดีค่ะพี่เกษตรยะลา

    ค่ะ ถือปฏิบัติ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท