บทบาทแม่ที่มีต่อคุณูปการสมองลูก


อยากมีลูกฉลาดแม่ต้องฉลาดในการปฏิบัติตน

แม่ คำนี้เป็นคำที่ไพเราะที่สุดแต่แฝงไปด้วยภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ มีคนเคยเปรียบเปรยว่า แม่เป็นทั้งสถาปนิก เป็นวิศวกร เป็นหมอ เป็นครู เป็นโค้ช เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อสร้าง ส่งเสริม ให้ลูกน้อยได้เติบโตอย่างเต็มศักยภาพ

เมื่อตั้งครรภ์ แม่ทุกคนควรไปฝากครรภ์กับแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่ผดุงครรภ์ตามสถานบริการใกล้บ้าน เพื่อที่จะได้รับการส่งเสริมครรภ์คุณภาพ ได้รับความรู้ในระหว่างตั้งครรภ์  เพราะสมองของลูกพัฒนาตั้งแต่อยู่ในครรภ์  โดยสมองเป็นอวัยวะแรกที่ถูกพัฒนาขึ้นก่อนอวัยวะอื่นๆ  และถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นระบบประสาท ที่จะทำหน้าที่กระตุ้น ควบคุม การทำงานของอวัยวะอื่นๆ  โดยผ่านการทำงานจากเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงอวัยวะนั้นๆ  ดังนั้นการดูแลในระหว่างตั้งครรภ์จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อชีวิตของลูกน้อยในภายภาคหน้า

ปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการสมองตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนภายหลังคลอด และตลอดชีวิตการเรียนรู้ประกอบด้วยปัจจัยหลัก คือ ปัจจัยด้านพันธุกรรมจากทั้งพ่อและแม่  ปัจจัยด้านโภชนาการ ตั้งแต่แม่ตั้งครรภ์ต้องรับประทานอาหารอย่างระมัดระวัง และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ภาวะเครียดในระหว่างตั้งครรภ์ การเลี้ยงดูที่ไม่ส่งเสริมการกระตุ้นสติปัญญา ซึ่งสามารถจัดปัจจัยทั้งหลายออกได้เป็นปัจจัยด้านบวก และปัจจัยด้านลบ สำหรับปัจจัยด้านบวกหมายถึงปัจจัยที่มีผลส่งเสริมพัฒนาการของสมองทั้งด้านโครงสร้าง และการทำงาน ส่วนปัจจัยด้านลบก็มีผลยับยั้ง รบกวน ควบคุมทั้งโครงสร้าง และการทำงานของพัฒนาการสมอง จากความรู้ตรงนี้ขอให้ผู้หญิงทุกคนตระหนักถึงสุขภาพของตัวเองให้มาก  เพราะเมื่อท่านตั้งครรภ์ท่านจะต้องมีอีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ในความพึ่งพิงของท่าน หากหญิงตั้งครรภ์คนใดไม่ใส่ใจสุขภาวะในขณะตั้งครรภ์ ไม่ดูแลตนเอง มีแต่ปัจจัยลบ สูบบุหรี่ในขณะตั้งครรภ์ ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เสพยาเสพติดมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงในเรื่องเพศ มีแต่ความเครียดตลอดเวลา ไม่ไปฝากครรภ์ ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ที่ดูแลการตั้งครรภ์ เท่ากับท่านได้ละเมิดสิทธิของเด็กคนนึงทีเดียว

อยากมีลูกฉลาด แม่ต้องฉลาดในการปฏิบัติตน ตั้งแต่ตั้งครรภ์จนสิ้นอายุขัยของความเป็นแม่ เมื่อลูกเล็ก ๆ แม่ต้องส่งเสริมพัฒนาการสติปัญญาเท่าที่แม่จะทำได้ อย่าลืมว่าสมองมีพัฒนาการอย่างมากในช่วงทองคือ 0 6 ปี แต่ไม่ได้หมายความว่าหลัง 6 ปีแล้ว หรือเป็นวัยรุ่น เป็นผู้ใหญ่ หรือวัยชรา สมองจะหยุดพัฒนา แต่หมายความว่าสมองจะพัฒนาเปลี่ยนแปลงยืดหยุ่น(plasticity) ได้ตลอดเวลาที่ถูกกระตุ้น เมื่อลูกเล็ก ๆ ส่งเสริมพัฒนาการภาษาให้ดีที่สุด เพราะภาษาจะเป็นพื้นฐานของพัฒนาการสติปัญญาในลำดับต่อไป ถ้าแม่เลี้ยงลูกหน้าจอทีวี หรืออยู่กับพี่เลี้ยงที่ไม่มีทักษะในการส่งเสริมพัฒนาการทางภาษา ลูกก็จะพูดช้า เพราะเขาไม่รู้จะใช้ภาษาอย่างไร ทำตามปากแบบไหน

เรื่องบรรยากาศในบ้าน บ้านที่มีดนตรี เสียงเพลงคลอในบ้านบ่อย ๆ จะแตกต่างกับบ้านที่ไม่มีดนตรี เด็กที่เติบโตมากับผู้สูงอายุจะปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้กับสมองส่วนหน้าได้มาก นอกจากนั้น การปฏิบัติตนในศีลธรรม จรรยา ของแม่ วิธีคิดต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่แม่แสดงออกให้ลูกเห็น วิธีการอบรมสั่งสอน ซึ่งควรจะเป็นสอนสั่งจะดีกว่า และอีกมากมาย ที่อยากจะย้ำเหลือเกินว่า บทบาทของแม่นั้นจะมีคุณูปการต่อสมองลูกน้อยอย่างแท้จริง  

คำสำคัญ (Tags): #พัฒนาการสมอง
หมายเลขบันทึก: 166401เขียนเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2008 17:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:48 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ดีใจจังที่พี่เหม่งมาแล้ว มาร่วมก๊วนความรู้กัน

แม่คนไร้สัญชาติ ต้องรู้จักคำว่า จดแจ้งการเกิดให้ลูกด้วย ลูกถึงจะมีโอกาสมีตัวตนในสังคม เช่น แม่ที่ห้วยสะคราม อาจารย์แหววเห็นว่าอย่างไรครับ

จะทำอย่างไรให้เด็กในอุบลได้มีโอกาสในการพัฒนา IQ EQ เหมือนเด็กในเมืองที่มีฐานะ พี่เหม่ง เราทำอะไรกันได้บ้างครับ

จัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ ทำทีละเรื่อง แต่ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่าเขาต้องการพัฒนาด้านใดมากที่สุดโดยเขาบอกความต้องการเรา และภาควิชาการประเมินด้วยว่าจากบริบทของเขานี้เราคิดว่าควรพัฒนาเร่งด่วนอะไร จากนั้นตั้งวงสนทนา "ร่วมคิดร่วมแก้ร่วมพัฒนาไปด้วยกัน" น่าจะดีนะ 

ตกลง ไปอุบลคราวหน้า มีเวทีพัฒนาสมองเด็กอุบลแล้วใช่ไหมคะ

ด้วยความยินดีค่ะ อยากให้เด็กทุกคนในประเทศไทยมีพัฒนาการทางสมองที่ดีเพื่อเป็นทุนตั้งต้นของชีวิตที่ยังอีกยาวไกล

ผมเสนอว่า ควรสร้างตัวคูณครับ   ไม่ทำเอง   แต่สร้างตัวคูณที่จะไปทำในหลากหลายบริบท หลากหลายพื้นที่   หาคนที่เขารักงานนี้และทำอยู่แล้ว ไปติดอาวุธความรู้ความเข้าใจให้เขาทำได้ดีขึ้น   สร้างเครือข่าย ลปรร. ในหมู่ผู้ส่งเสริมพัฒนาการเด็ก

วิจารณ์

ขอบพระคุณค่ะ จะค่อย ๆ รวมรวมความคิด ให้ตกผลึกออกมาเป็นโครงการแผนที่พัฒนาการสมองของเด็กไทยในยุคไร้พรมแดน

พี่เหม่งครับ น่าจะทำแอผนที่ยุทธศาสตร์งานด้านพัฒนาการเด็กกันนะว่า ในประเทศไทยมีใครทำอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง อันที่จริงอาจารย์วิจารณ์ก็เสนอให้สถาบันเด็กทำแผนที่ยุทธศาสตร์งานด้านเด็กครับ

ผมกำลังจะเริ่มต้นประชุมวงเล็กเพื่อวาดภาพแผนที่งานด้านICT สำหรับเด็ก เยาวชน ครอบครัวกัน

เราตั้งเมืองในแผนที่เรา ๕ เมือง ก็คือ (๑) การพัฒนาเด็ก เยาวชน ครอบครัวในฐานะผู้รับสื่อ (๒) การพัฒนาตัวสื่อ (๓) การพัฒนาช่องทางของการใช้และเข้าถึงสื่อ  (๔) การพัฒนาผู้ประกอบการด้านสื่อ และ (๕) การปฏิรุปกฎหมายและนโยบาย

หลังจากตั้งเมืองแล้ว เรากำลังหาว่า ทางหลวง ประชากร อยู่ตรงไหร มีใครบ้าง คิดว่าจะวาดให้เสร็จเร็วๆนี้ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท