กลศาสตร์ควอนตัมนั้นเกิดจากการผสมผสานของความคิดหลายอย่าง ตามที่ปรากฏออกมานั้น เป็นการค้นพบต่างๆ ในที่ต่างๆ โดยไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นลำดับตามตรรกะ หลายอย่างค้นพบโดยบุคคลที่แตกต่างกัน
ในปลายปี 1925ทฤษฎีคลืนอิเลคตรอนของ เดอ บรอย ปรากฏเป็นที่ทราบแล้ว แต่การทดลองพิสูจน์ยืนยันยังไม่มีให้เห็น ว่ามีธรรมชาติแบบคลื่นของอิเลคตรอน ซึ่งค่อนข้างเป็นอิสระไม่ขึ้นกับงานของไฮเซ้นเบิร์กและผู้ร่วมงานของเขา ซึ่งนำไปสู่การค้นพบอื่นๆ อันได้แก่คณิตศาสตร์เชิงควอนตัมที่ขึ้นอยู่กับความคิดแบบคลื่น
ความคิดแบบคลื่นอนุภาคจากของ เดอ บรอยส่งผ่านไปยังไอน์สไตย์ จากงานของเดอ บรอยที่ยังคลุมคลืออยู่ต่อไปหลายปี ไม่ได้มากไปกว่าความสนใจโวหารทางคณิตศาสตร์ที่ไม่มีความจริงทางกายภาพ และก็ไอน์สไตยอีกเช่นกันที่เขาบอก แมก บอนเกี่ยวกับความคิดคลื่นอิเลคตรอน อันเป็นจุดตั้งต้นของการทดลอง ที่พิสูจน์ความเป็นจริงของคลื่นอิเลคตรอน และเป็นงานเขียนของไอน์สไตน์ที่ตีพิมพ์ในเดือน กพ. คศ. 1925 ขณะเดียวกัน เออร์วิน ชเรอดิงเงอร์ได้อ่านความคิดเห็นของไอน์สไตย์จากงานของ เดอ บรอย และกล่าวว่า ” ผมเชื่อว่าเกี่ยวข้องกันมากกว่าการเทียบเคียง” ในสมัยนั้นนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายเชื่อถือความคิดของไอน์สไตย์เกือบทุกคำ และข้อสังเกตจากนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่เช่นไอน์สไตย์ก็เพียงพอที่จะทำให้ ชเรอดิงเงอร์ เริ่มต้นในการสืบค้นความเกี่ยวข้องจากความคิดของ เดอ บรอยเพียงเล้กน้อย
ชเรอดิงเงอร์เกิดในปี 1887 และตอนนั้นอายุเพียง 39 ปี เมื่องานของเขาได้มีส่วนอย่างยิ่งต่อวิทยาศาสตร์เป็นความก้าวหน้าที่น่าทึ่ง สำหรับงานทางวิทยาศาสตร์เริ่มแรกและมีความสำคัญ เขาได้รับปริญญาเอกตั้งแต่ปี 1910 และตั้งแต่ คศ. 1921 เขาได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ทางฟิสิกส์ที่ ซูริค (Zurich)
ก่อนหน้านี้ ดิแรค และกลุ่ม Gottingen ทำให้ทฤษฎีควอนตัมเป็นนามธรรมมากขึ้น ตัดขาดจากความคิดเชิงกายภาพในชีวิตประจำวัน ชเรอดิงเงอร์ พยายามสร้างแนวคิดทางกายภาพที่เข้าใจได้ขึ้นใหม่ ที่อธิบายคอวนตัมฟิสิกส์ในเทอมของคลื่น เป็นลักษระที่คุ้นเคยกันในโลกกายภาพ และได้ต่อสู้ไปจนวาระสุดท้ายของชีวิต จากความคิดใหม่ที่หาค่าไม่ได้แน่นอน และการกระโดดของอิเลคตรอนจากระดับหนึ่งไปยังอีกระดับอย่างทันทีทันใด เขาได้ให้เครื่องมือทางการปฏิบัติอย่างหนึ่งที่หาค่ามิได้ในการแก้ปัญหา แน่ในเทอมเชิงมโนทัศน์แล้ว กลศาสตร์คลื่นของเขาเป็นขั้นตอนที่ถอยกลับไปสู่แนวคิดศตวรรษที่ 19