เส้นทางปฏิรูปการศึกษาไทย
พ.ร.บ. ศึกษา มุ่งกระจายอำนาจการศึกษาสู่ชุมชน
พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติได้ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาในวาระที่1 มีสาระเกี่ยวกับการบริหารและการจัดการศึกษาที่ยึดหลักการสำคัญ 3 ประการคือ
- การกระจายอำนาจ มาตรา38 ให้กระทรวงกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาด้านวิชาการ งบประมาณ การบริหารบุคคลและการบริหารทั่วไปไปยังเขตพื้นที่ การศึกษา และสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาโดยตรง โดยจะกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจในกฎกระทรวง
- การบริหารโดยคณะบุคคล ต้องมีคณะบุคคลทำหน้าที่บริหารในลักษณะต่างๆ เช่น กำกับดูแล ติดตาม ส่งเสริม สนับสนุน ประเมินผลการจัดการศึกษาของสถานศึกษา เช่น มาตรา 31 ให้กระทรวงมีองค์กรหลักที่เป็นคณะบุคคลในรูปสภาหรือรูปคณะกรรมการจำนวน 4 องค์กร
- มุ่งกระจายอำนาจลงเขตพื้นที่ ทั่วประเทศ 326 เขต
คณะกรรมการปฏิรูประบบบริหารการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ มีแนวคิดแบ่งพื้นที่การจัดการศึกษาออกเป็น 326 เพื่อรองรับการกระจายอำนาจการศึกษาสู่พื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ
บริหารการศึกษาลงเขตพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ปัจจุบันนี้การบริหารราชการของหน่วยราชการต่างๆ ได้ยึดถือแนวทางแบ่งส่วนราชการเป็น 3 ระดับคือ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น การบริหารการศึกษาของรัฐก็ยึดถือแนวทางนี้
การบริหารและการจัดการศึกษาของรัฐจะแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ
1. ระดับกระทรวง
2. ระดับเขตพื้นที่การศึกษาและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
3. ระดับสถานศึกษา
- ระดับกระทรวง เรียกว่า ส่วนกลาง ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใน กทม. และปริมณฑล กระทรวงการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ในกระทรวงนี้มีหน่วยงานหรือองค์กรหลักที่เป็นนิติบุคคลทำหน้าที่บริหาร4 องค์กรคือ สภาการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรมแห่งชาติ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะกรรมการการอุดมศึกษา และคณะกรรมการศาสนา และวัฒนธรรม ทั้ง 4 องค์กรนี้มีสำนักงานและเลขาธิการ
- ระดับเขตพื้นที่ เขตพื้นที่การศึกษา ตามมาตรา 36 และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามมาตรา 40 เขตพื้นที่การศึกษาเป็นของใหม่ ซึ่งจะมีกี่เขตก็แล้วแต่กระทรวงจะกำหนด แต่ละเขตมี คณะกรรมการการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำนักงาน
- ระดับสถานศึกษา ได้แก่ โรงเรียน วิทยาลัย สถาบัน ศูนย์การเรียน ฯลฯ ได้รับอำนาจในการบริหารและการจัดการมากขึ้นกว่าปัจจุบัน ทั้งการบริหารวิชาการ งบประมาณ บุคคลและบริหารวิชาการ
ไม่มีความเห็น