เมื่อคืน OOHOOH ไปซื้อของกินที่เซเว่นมาค่ะ..อยากกินโกโก้เย็น แต่ดันหมดซะแล้ว ก็เลย..เอาว๊า..ไหน ๆ ออกมาแล้ว ชาเขียวแทนไปก่อนก็ได้ โอ้โห..คุณ ๆ ขา..คือปกติ OOHOOH จะไม่กินกาแฟนะคะ..แต่กับชาเขียวคิดว่ามันคงจะอ่อนกว่ากาแฟ..ก็เลย..เสร็จมัน ! กินเข้าไปแล้วนอนไม่หลับเหมือนกันค่ะ เอาล่ะสิในเมื่อประเภทเดียวกับกาแฟ..ก็เลยลองหาข้อมูลของชาเขียวซะหน่อย..ว่าทำไมช่วงหลัง ธุรกิจต่าง ๆ ถึงได้เล็งชาเชียวกันนัก..อย่าว่าแต่เครื่องดื่มเลยค่ะ..ไม่ว่าจะขนม..เครื่องสำอางค์ ก็ยังมีส่วนผสมของ" ชาเขียว " มาค่ะ มาดูกัน ว่าทำไมเจ้าตัวนี้ถึงเป็นพระเอก..นานจัง
ชาเขียวเป็นที่นิยมดื่มมาตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวจีนดื่มชากันอย่างแพร่หลายกว่าพันปี จนปัจจุบันได้เป็นที่รู้จักและนิยม ดื่มกันทั่วโลก นักวิทยาศาสตร์พบว่าคนที่ดื่มชาเขียวเป็นประจำมีโอกาสป่วยเป็นโรคหัวใจ มะเร็ง และความดัน น้อยกว่าคนที่ ไม่ได้ดื่มเป็นประจำ
ชาเขียวมีสาร สำคัญอยู่หลายตัวทั้ง คาเทซิน คลอโรฟิลล์ คาเฟอีน เบตาแคโรทีน แต่ที่มีความสำคัญคือ คาเทซิน เพราะว่า มีความสามารถ ในการต้านการออกซิเดชันซึ่งจะลดความเสี่ยงในการเกิดอนุมูลอิสระซึ่งจะเข้าไปทำลายเซลล์ในร่างกายและเมื่อเซลล์ถูกทำลาย จะส่งผลทำให้เกิดโรคหัวใจ มะเร็ง รวมถึงความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ
ส่วนสารสกัดจากชาเขียวที่ผสมลงในขนมหรือเครื่องดื่มต่างๆ นั้น จะมีฤทธิ์ในการควบคุมน้ำหนักเพราะสารคาเฟอีนที่อยู่ ในชาจะกระตุ้นให้รู้สึกสดชื่นและใช้พลังงานมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เจ็บคอและท้องเสีย และยังพบว่าชา เขียวมีฟลูออไรด์ซึ่งทำให้ฟันแข็งแรงมากขึ้น และยังลดกลิ่นปากที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียในปากได้อีกด้วย
แม้ว่าชาเขียวจะมีข้อดีอยู่มาก แต่ขอเตือนว่า การดื่มชามากเกินไปจะมีผลต่อโภชนาการ เพราะชาเขียวจะ ขัดขวางในการดูดซึมธาตุเหล็ก จึงไม่เหมาะกับผู้ป่วยเป็นโรคโลหิตจาง หญิงตั้งครรภ์ เด็กในวัยเจริญเติบโต และคาเฟอีนในชา เขียวก็ยังมีผลทำให้นอนไม่หลับด้วย (นั่นยังงัยล่ะ..ตาค้างทั้งคืนเลย)
ต้องดื่มบ้างละ
สวัสดีครับ
ขอบคุณค่ะ..
คุณ sathiwan ไม่ให้โอกาส OOHOOH แวะไปเยี่ยม blog บ้างเหรอคะ ?
คุณ suksom อุเหม่.. ! พูดอย่างนั้นได้เยี่ยงไรคะ..เค้าต้องพูดว่า "ทานแล้วอุจจาระแข็งตัวดีอย่างยิ่งค๊า ! "
คุณ Sasinanda แวะมาเยี่ยม blog ของ OOHOOH บ่อย ๆ นะคะ จะได้มีคนสวย ๆ เต็ม blog เลย
ท่าน เกษตรยะลา มีไอ้นั่น..ไอ้นี่..น่ะ..ไอ้ไหรคะ ? ถึงจะแพง..ก็..แค่น ๆ กินไปเถอะค่ะ..อ้อ ! ไม่เอาภาพ "มด" มาลงซะเลยล่ะคะ..แหม่..ภาพเล็กลงเรื่อย ๆ ๆ ๆ เนาะ..
คุณ อ้อยควั้น ค่ะ..อากาศทางนี้ก็ร้อน..เหมือนกัน..กินชาเขียวแล้วชื่นใจขึ้นค่ะ..blog คุณ อ้อยควั้น มีอะไร ๆ ที่ OOHOOH สนใจเยอะเลย..ขอบคุณมากค่ะ
ขอบคุณที่มีข้อมูลดี ๆ มาฝากค่ะ
จะจดจำไว้ๆๆๆ
ขอเป็น เหรียญ..อีกด้าน..(หน้าด้านค้านเขาได้ทุกเรื่องซิท่า)
ชาเขียว..ดีจริงจ้า..ผมก็ซื้อดื่ม..เพราะอยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไร มันเท่..มันเป็นกระแส..กลัวตกเทรน..
สารสำคัญในชาเขียวชาเขียวเป็นแหล่งสำคัญของสารพฤกษเคมีกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่มีอยู่มากในชาเขียว คือ แคททิชิน (Catechins) โดยอยู่ในรูปของสารเอพิแกลโลแคททิชินไกลเคท (Epigallo Catechin Glycate) ส่วนสารพฤกษเคมีกลุ่มโพลีฟีนอลส์ที่เรียกว่าธีอะฟลาวินส์ (Theaflavins) เกิดจากการ Polymerization ของแคททิชินระหว่างกระบวนการบ่มผลิตใบชาอู่หลงและชาดำ จึงพบได้น้อยในชาเขียวเอกสารอ้างอิง | ||
• | ข้อมูลจากสถาบันสุขภาพนิวทริไลท์ ประเทศสหรัฐอเมริกา |
|
• | สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข www.fda.moph.go.th |
|
• | Ikeda I, Imasato Y, Sasaki E, et al. Tea catechins decrease micellar solubility and intestinal absorption of cholesterol in rats. Biochim Biophys Acta. 1992;1127:141-146. |
|
• | Kris-Etherton PM, Keen CL. Evidence that the antioxidant flavonoids in tea and cocoa are beneficial for cardiovascular health. Curr Opin Lipidol. 2002;13:41-49. |
|
• | Maron DJ, Lu GP, Cai NS, et al. Cholesterol-Lowering Effect of a Theaflavin-Enriched Green Tea Extract. Arch Intern Med. 2003;163:1448-53. |
|
• | Vinson Ja, Dabbagh YA. Effect of green and black tea supplementation on lipids, lipid oxidation and fibrinogen in the hamster: mechanisms for the epidemiological benefits of tea drinking. FEBS Lett. 1998;433:44-46. |
|
• | Young W, Hotovec RL, Romero AG. Tea and artherosclerosis. Nature. 1967;216:1015-1016 |
ขอบคุณค้าบ ! ..
ท่าน เกษตร (อยู่)จังหวัด โอ้โห !..อัดอั้น..ตันใจ..อันใดเล่าท่านพี่..ยิงมาเป็นปืน M.16 เลย..แต่ก็..ขอบคุณในความรู้ที่นำมาฝากเพิ่มเติมค่ะ
ชาเีขียว น่ะดีครับ
แต่ชาเขียวปกติจะมีรสชาติขมๆ จึงต้องผสมน้ำตาลลง และน้ำุตาลที่ผสมลงในขวดชาเขียวที่ขายทั่วไปก็มีมาก เพื่อกลบความขมและเพิ่มความอร่อย
ใน 1 ขวด ที่ขายทั่วไปมีน้ำตาล ประมาณ 7-10 %
ประมาณง่ายๆ โดย แบ่งน้ำชาเขียวเป็น 10 ส่วน (น่าจะประมาณ 7 ช้อนชา)
1 ส่วนที่กินเป็นน้ำตาล น้ำตาลล้วนๆ แต่เรากินจะไม่ค่อยรู้สึกว่ามันมีความหวานมากเท่าไหร่หากกินขณะเย็นจัด
วิธีกินให้ทราบว่า ชาเขียวนั้นหวานจริง ต้องตั้งทิ้งใว้ให้หายเย็น
จนอุณหภูมน้ำชาเขียว เท่ากับอุณหภูมิห้อง
แล้วค่อยๆ ยกขึ้นมาจิบทีละน้อยจะทราบว่ามันมีความหวานมากที่เดียว และหากค่อยๆ เอียงขวดไปมาช้าๆ จะเห็นว่าน้ำชาค่อนข้างหนืดเลยทีเดียว หนืดเพราะน้ำตาลที่ผสมอยู่้มาก
สรุป ชาเขียวเป็นชาที่ดีแต่วิธีการรับประทานเป็นสิ่งสำคัญ กว่าการมองว่าเป็นสิ่งดี
ขอบคุณค่ะ
คุณ Softmail อุ่ย ! ใส่น้ำตาลมาก..หวานจนขนาดน้ำข้นเนี่ย..ไม่ไหวแน่ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ