วันนี้ผมรับบท “พ่อบ้านจำเป็น”
อีกครั้ง เพราะคุณแม่บ้านมืออาชีพมีภารกิจต้องเดินทางไปราชการที่กรุงเทพ ฯ
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ผมเริ่มซักซ้อมความเข้าใจกับเด็กสองคนตั้งแต่เมื่อวาน เป็นต้นว่า เราสามคนจะต้องดูแลกันและกันให้ดี กินข้าวด้วยกัน อาบน้ำด้วยกัน นอนด้วยกัน และอื่น ๆ อีกจิปาถะ แต่กระนั้นน้องดินผู้เป็นพี่ก็แอ่นอกพูดเสียงดังฟังชัดว่า “ดินสิซอยพ่อเลี้ยงน้องเอง…”</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">คำพูดง่าย ๆ แสนซื่อของลูกชายวัยห้าขวบพลอยชุบหัวใจให้คลายวิตกได้มากโข อย่างน้อยเขาก็การันตีว่าจะไม่เป็นภาระใด ๆ กับผมนัก เพื่อให้ผมและเขาได้จับมือกันจัดการกับเจ้าจุกอย่างเต็มอัตราศึก
</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p>
</p><p>ช่วงเย็นของวันนี้ ผมตัดสินใจพาเจ้าตัวเล็กทั้งสองไปดูละครเวทีประจำปีของนิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์ โดยไม่ลืมที่จะชวนน้อง ๆ ในที่ทำงานไปผ่อนคลายร่วมกัน ซึ่งผมเองก็ขันอาสาที่จะเป็นเจ้ามือให้ทั้งหมด แต่สุดท้ายก็มีเพียงเจ้านุ้ยจันเพ็ญ ศรีดาว รวมถึงเจ้าก้องวัฒนพงษ์ คงสืบเสาะและคู่ชีวิตเท่านั้นที่ติดสอยห้อยตามเข้าไปในเวทีละคร
</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมเคยได้เขียนไว้ในบล็อกแล้วว่า “ละครเวที” เป็นเสมือนกิจกรรมอันสะท้อนให้เห็นพลังทางปัญญาของนิสิตอย่างชัดเจน และผมเองก็เชื่อว่าละครเวทีในทุกเรื่องล้วนมีสารัตถะแห่งชีวิตอยู่อย่างไม่จืดจาง และปีนี้ละครสถาปัตย์ฯ ก็มีชื่อว่า “อินาโมเรต้า” (คำสาป..รัตติกาล..นิทานพ่อลูก..)</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ผมไม่ใช่นักดูละครตัวยง และไม่สันทัดกับการวิจารณ์ละครเวทีนัก จะเสพงานศิลป์แต่ละครั้งก็เอาใจเข้าว่าล้วน ๆ ว่า “ชอบหรือไม่ชอบ… สะเทือนใจหรือไม่… และประทับใจอะไรบ้าง..”</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">การไปดูละครในครั้งนี้ได้รับความกรุณาจาก อ.มงคล คาร์น เป็นอย่างดีในเรื่องของการจัดซื้อจัดจองเรื่องตั๋วละคร ผมไม่ได้พกกล้องเข้าไปด้วย และถึงแม้จะพกไปก็คงไม่กล้าลั่นชัตเตอร์ใด ๆ เป็นแน่ เพราะนั่นคือมารยาทของคนชม และสำคัญอีกประการก็คือ ผมต้องการไปนั่งเสพศิลปะแบบไม่ต้องมีภาระอื่นใดมาปนเป</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ตลอดระยะเวลาของการดูละครเวทีเรื่องนี้ ผมพยายามควบคุมเจ้าจุกให้นิ่งเงียบ แต่แกก็อยู่ไม่นิ่งเอาเสียเลย บ่อยครั้งที่ละครอยู่ในช่วงเงียบ ๆ แกก็ถามขึ้นมาหน้าตาเฉยในบางเรื่อง หรือแม้แต่เปรยขึ้นมาอย่างใสซื่อ ทำเอาคนชมหัวเราะไปกับเจ้าจุกไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง 3 คราเลยทีเดียว </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p> </p><p></p><p>ผมคงไม่มีภาพบรรยากาศใด ๆ มาฝากมิ่งมิตร และคงสงวนเรื่องเล่าของละครเวทีเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน แต่ก็ยังอยากจะบอกว่าโดยภาพรวมแล้ว ผมค่อนข้างมีความสุขอย่างมากมายที่ได้ใช้เวลาว่างอันน้อยนิดให้เป็นเวลาคุณภาพสำหรับลูก ๆ … และเป็นความโชคดีที่เนื้อหาของละครได้สะท้อนให้เห็นความรักของพ่อที่มีต่อลูก และความรักของลูกที่มีต่อพ่อ เลยพลอยให้ผมไม่ต้องพร่ำสอนอะไรกับเด็กสองคน … </p><p> </p><p></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">หลายครั้งหลายหนที่เจ้าจุกหันกลับมาจูจุ๊บผมอย่างบ่อยครั้ง ผมเชื่อว่าส่วนหนึ่งคงได้รับอิทธิพลมาจากภาพที่เจอบนเวทีละครเป็นแน่ ยิ่งในภาวะที่คุณแม่บ้านไม่อยู่เช่นนี้ ยิ่งทำให้บรรยากาศของวันนี้ร้อยรัดและโอบกอดให้ผมกับลูกแนบชิดเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างที่สุด</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ผมจำวาทกรรมของตัวละครไม่ค่อยได้นัก แต่ก็พอจำได้พอประมาณอยู่บ้าง โดยเฉพาะห้วงสุดท้ายที่ลูกสาวได้ชีวิตพ่อกลับคืนมา จากนั้นก็โผเข้ากอดพ่อพร้อมกับบอกรักพ่อของตนเองอย่างสุดซึ้ง ขณะที่ผู้เป็นพ่อก็เปรยแบบเขิน ๆ ว่า …</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">“โตป่านนี้แล้วยังกอดพ่ออยู่ได้..”</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p>ส่วนอินาโมเรต้าลูกสาวที่หน้าตาอัปลักษณ์ก็ไม่รีรอที่จะบอกกับพ่อในทำนองว่า “ไม่มีลูกคนไหนโตเกินกว่าที่จะกอดพ่อหรอก…” </p><p></p><p>นั่นคือถ้อยคำ หรือวาทกรรมที่ผมปะติดปะต่อเก็บเกี่ยวออกมาจากเวทีการละคร และเมื่อละครปิดฉากลง ฝ่ายผู้จัดก็กล่าวขอบคุณผู้มีอุปการคุณหลายภาคส่วน แต่ที่ทำเอาผมนิ่งไปเลยก็คือ น้องนิสิตอันเป็นประธานการละครได้กล่าวขอบคุณผมและคุณก้องผ่านไมโครโฟนอันแสนดัง ซึ่งสำหรับผมแล้ว นั่นคือกำไรชีวิตที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้รับเกียรติจากเวทีแห่งนี้ .. </p><p> </p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ผมเดินออกจากเวทีละครแบบอิ่มสุข มือซ้ายจูงน้องดินและมือขวาจูงเจ้าจุกออกมาอย่างว่าง่าย โดยที่พยายามบีบกระชับมือของเจ้าตัวเล็กทั้งสองเป็นจังหวะ ๆ …</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p>ผมบอกกับเขาสองคนว่า อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้จะมีละครเวทีอีกเรื่อง ท่ามกลางความมืดนั้น เสียงเจ้าจุกก็ดังแทรกขึ้นอย่างมีชีวิตว่า “พ่อ..ให้แดนมาเบิ่งนำแนเด้อ…” </p><p></p>
ครอบครัวน่ารักมากค่ะ
ลูกจะมีความสุขอย่างเต็มที่และเต็มอิ่ม เวลาอยู่กับพ่อแม่ค่ะ ใครๆก็แทนที่ไม่ได้แน่นอนค่ะ
หายไปนะคะ อยากให้ไปเยี่ยมด้วยค่ะ
สวัสดีค่ะ อ.แผ่นดิน
สวัสดีค่ะ อ.แผ่นดิน
ชีวิตคือละคร ค่ะ
...แต่อย่าไปยึดมั่น ถือมั่น
อย่าไปบงการชีวิตเรา หรือชีวิตใครๆ ไปเสียทุกเรื่อง
...ทำทุกวันให้มีความสุข ชีวิตก็จะไม่มีความทุกข์ค่ะ
ครอบครัวน่ารักมาก...เห็นแล้วคิดถึงน้องพร้อม ลูกชายคนเล็กค่ะ
สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน
ครอบครัวแห่งความรักครอบครัวนี้ยังน่ารักเสมอมา อ่านทีไรยิ้มสุขใจได้ทีนั้น
“ไม่มีลูกคนไหนโตเกินกว่าที่จะกอดพ่อหรอก...”
กังวานก้องในใจเลยค่ะ เห็นด้วยอย่างที่สุดว่าไม่มีใครโตเกินกว่าจะกอดกัน
สิ่งที่บอกชัดถึงความสำเร็จของภาระกิจในการดูแลกันและกันครั้งนี้คือ
ขอบคุณสำหรับตัวอักษรที่มีชีวิตและความสุขที่ลึกล้ำที่ถ่ายทอดผ่านครอบครัวแห่งความรักครอบครัวนี้นะคะ
. ออต ครับ...
พักนี้อ้ายก็ขอสารภาพว่า ไม่ค่อยมีเวลาไปทักทายใครเลย สาเหตุหลักเพราะเหนื่อยจนหลับไม่รู้ตื่นเลยก็ว่าได้
และเห็นด้วยอย่างมหาศาลที่ว่า ....
....
อยู่ดีมีแฮงเด้อ... น้องหล่า
สวัสดีครับ.. พี่ศศินันท์
ช่วงนี้, หากมีเวลาเพียงแค่น้อยนิดก็พยายามที่จะเล่นกับลูกให้มากที่สุด และสังเกตเห็นได้ชัดว่า พักนี้ ลูกมักจะรบเร้าให้ไปส่งที่โรงเรียนเสมอ ส่วนหนึ่งก็น่าจะเป็นเพราะรู้สึกขาดหายกับเวลาที่ผมมีให้น้อยลงด้วยเช่นกัน
ขอบพระคุณครับ
สวัสดีครับ อัยการชาวเกาะ
ลูกชายผมจะ ๒๗ ปีนี้ ลูกสาวจะ ๒๖ ปีนี้ ยังกอดผมทั้งสองคนและผมก็กอดมันทั้งสองคนเหมือนกัน ถ่ายทอดความรักผ่านการกอดบ่งบอกความรู้สึกได้มากกว่าสิ่งใดๆ ครับ การันตีจากความอบอุ่นในการกอดของคนเป็นพ่อครับ
อ่านข้อความข้างต้นแล้ว พลอยอิ่มสุขไปด้วยเลยนะครับ..
ทุกเช้า น้องแผ่นดินจะลุกมาปลุกผมด้วยการจู๊บที่แก้มของผมเสมอ และผมก็จะกอดแก พร้อมกับพาไปอาบน้ำเช่นนั้นเป็นประจำ กิจวัตรเหล่านั้นคือสิ่งเราต่างยืนยันถึงความรักที่มีให้กันอย่างไม่เขินอาย
ขอบพระคุณครับ
สวัสดีครับ..... จุฑารัตน์
ผมเห็นด้วยนะครับที่ว่าความไร้เดียงสาของเด็ก ๆ คือสิ่งเติมเต็มให้ชีวิตของคนเราดูรื่นรมย์ขึ้นเท่าตัว โดยเฉพาะรอยยิ้มของลูก ๆ นั้น ถือได้ว่ามีพลังอย่างมหาศาลต่อการดำเนินชีวิตของพ่อและแม่
มีหลายอย่างที่ผมต้องเรียนรู้จากพฤติกรรมของลูก ... และเราก็ตระหนักว่า เราไม่โตเกินกว่าที่จะเรียนรู้อะไรจากลูกด้วยเช่นกัน
......... ขอบคุณครับ .......
สวัสดีครับ...little cat
ชีวิตคือละคร ค่ะ
...แต่อย่าไปยึดมั่น ถือมั่น
อย่าไปบงการชีวิตเรา หรือชีวิตใครๆ ไปเสียทุกเรื่อง
...ทำทุกวันให้มีความสุข ชีวิตก็จะไม่มีความทุกข์
....
อ่านแล้วได้ย้ำการตระหนักคิดของตนเองอย่างมีสติ การปล่อยวางต่อชีวิตนั้นเป็นสิ่งยากเย็นในหลายเรื่อง จนบางทีค้นหาแนวทางก็เครียดไปเลยก็บ่อยครั้ง
ความปรารถนาดี คือ เส้นด้ายบาง ๆ ที่ผุกโยงเราเข้าไปสู่ชีวิตผู้อื่น ซึ่งบางทีก็ลำบากที่จะเตือนตัวเอง หรือหาจุดอันเหมาะสมได้อย่างลงตัว
แต่โชคดีที่เชื่อว่า ..ในโลกนี้ ชีวิตย่อมเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีได้ .. ไม่วันนี้ก็วันใดวันหนึ่งในอนาคตของเราเอง
สวัสดีครับ...ใบบุญ
ช่วงที่ดูละครเวทีนั้น เจ้าจุกมักจะยืนบนตักของผม โชคดีที่นิสิตจัดที่นั่งพิเศษแถว ๆ ด้านหน้าที่เป็นริม ๆ ... เลยช่วยให้ไม่เป็นที่เกะกะสายตาของคนอื่น
ด้วยความที่ว่าเป็นครั้งแรกของการดูละครเวทีที่มีฉากแสงสี... เจ้าจุก หรือน้องดินเลยตื่นตาตื่นใจ บ่อยครั้งเลยลิงโลดไปกับบรรยากาศนั้น ทำเอาผมเหนื่อย..เพราะเกรงใจคนอื่น...
แต่ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี และดูเหมือนแกจะกลายเป็นขวัญใจของใครอีกหลายคนเหมือนกันครับ