โรจน์
นาย โรจนศักดิ์ ทองคำเจริญ

จะรักษาต่อดีไหมคะหมอ? (medical ethical issue) ตอนที่ 2


ผมเห็นความคัดแย้งระหว่าง การต่อสู้ กับ การยอมจำนน

เป็นตอนต่อจาก จะรักษาต่อดีไหมคะหมอ? (medical ethical issue) ตอนที่ 1 

ลูกสาวคนโตพาแม่มาหาผม ผมรู้จักครอบครัวนี้ตั้งแต่วินิจฉัยมะเร็ง ตอนนั้นลูกสาวก็มาถามผมว่า "จะบอกการวินิจฉัยให้แม่รู้ดีหรือไม่" จนสุดท้ายสามารถบอกว่าป้าเป็นมะเร็งได้

สีหน้าผู้ป่วยดูยิ้มแย้ม ไม่บอกไม่รู้นะครับว่า "คนไข้เป็นมะเร็ง" อาจจะผอมลงไปกว่าเดิมที่เห็นเมื่อ 5 เดือนก่อนบ้าง

ผม " สบายดีไหมครับป้า"

ผู้ป่วย " สบายดีจ้ะ "

ผม " เห็นว่าป้าไปรับเคโม เป็นไงครับ"

ผู้ป่วย " ก้อนที่คอยุบแล้ว ตอนนี้กินได้ดี ไม่มีผมร่วงหรืออะไรที่เขาเป็นกัน" (ดูจะมีทัศนคติที่ดีกับการรักษา+น่าจะมีการตอบสนองบางส่วนเพราะ ต่อมน้ำเหลือก็ยุบหายไป)

ผม "หมอบอกต้องให้อีกกี่ครั้งครับ"

ผู้ป่วย " ให้ไปเรื่อยๆ"

ผม " แล้วหมอว่าจะหายไหมครับ"

ผู้ป่วย "ให้ไปเรื่อยๆ หมอบอกให้สู้ "

ผม "แล้วป้าว่าให้เคโมมันดีไหน"

ผู้ป่วย "ก้อนยุบก็ดี "

ผม "แล้วป้าว่าโรคนี้จะหายไหม"

ผู้ป่วย " ไม่รู้เหมือนกัน เอาบุญว่า " (หมายความว่าแล้วแต่บุญกุศลที่ทำมา)

ลูกสาว "หมอบอกว่าถ้าไม่ตอบสนองต่อการรักษาก็ต้องใช้ยา 21 เม็ด ราคา 80,000 บาท"

 ผมเห็นความคัดแย้งระหว่าง การต่อสู้ กับ การยอมจำนน หน้าที่ของเราคงต้องให้ข้อเท็จจริง

ผม "มะเร็งระยะที่ 4 การให้เคมีบำบัด เป้าหมายเพื่อไม่ให้มะเร็งลุกลามมากขึ้น หากว่าตอบสนองต่อการรักษา ก็จะยืดเวลา ไม่ให้เกิดอาการทุกข์ทรมาน"

ลูกสาว"หมอว่าควรให้เคมีบำบัดต่อไหม"

ผมรู้มาก่อนเรื่อง ปัญหาทางการเงิน กับ เรื่องผลประโยชน์ของการรักษา ผมถามผู้ป่วย

" ป้าว่ายังไง ถ้าต้องกินยา 21 เม็ด นั้น"

ผู้ป่วย " ไม่เอาละ ป้าแก่แล้ว เก็บเงินไว้ให้ลูก"

สีหน้าลูกสาวดูเครียค ถามผมอีก " แม่จะแย่ลงไหมถ้าหยุดยาเคโม"

ผมสังเกตเห็นความรู้สึกผิดของลูกสาว " อาจเป็นได้ว่าหยุดยาแล้วแย่ลง แต่ โดยส่วนใหญ่เมื่อใช้ยาเคมีบำบัดไปซักระยะ จะเกิดการดื้อเคมีบำบัด โดยเฉพาะมะเร็งระยะที่เป็นมากๆ"

"ผมคิดว่าการดูแลผู้ป่วยมะเร็งไม่จำเป็นต้องมีวิธีเดียว ผมคิดว่าลูกๆ ดูแลป้าอย่างดี ผมคิดว่าการที่ลูกดูแลแม่เป็นอย่างดีขนาดนี้ก็หาได้ยาก (support ลูก)"

ป้าคิดว่าลูกๆ ดูแลป้าดีไหม

ผู้ป่วย "ดีแต้ ลูกชายยอมย้ายมาจากน่านมาอยู่ตาก พาแม่ไปเชียงใหม่ทุกครั้ง จริงๆป้าเหนื่อยที่จะเดินทาง ป้าอยากอยู่บ้านมากกว่า ไปตรวจทุก 2 สัปดาห์ ได้เคมีทุกเดือน เพลียและเหนื่อย อยากพัก"

ลูกสาวน้ำตาคลอ ผมปิดการสนทนาว่าการตัดสินใจต้องคุยกันทั่งครอบครัวโดยป้ามีส่วนตัดสินใจ

สุดท้ายผู้ป่วยไม่ไปรักษาต่อ ผมจึงนัดผู้ป่วยที่ รพ. ต่อเนื่องครับ

เรืองราวคงยังไม่จบ ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงจะเล่าให้ฟังครับ

 

 

คำสำคัญ (Tags): #end of life care
หมายเลขบันทึก: 161251เขียนเมื่อ 24 มกราคม 2008 22:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 00:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (23)

สวัสดีค่ะคุณหมอ
 ชอบฟังเรื่องราวที่คุณหมอเล่า ความจริงใจ ที่เจือด้วยความเมตตา ไม่ได้ทำร้ายใคร แต่กลับทำให้ โลกกระจ่างขึ้นมากว่า ดีใจแทนคนไข้ ที่มีหมอที่อบอุ่นดูแล ที่นับวันจะหายากเต็มทน

  ขอบคุณโลกที่ทำให้มีโอกาสได้เจอกัน

  ชอบที่คุณหมอบอกทีมว่า   ทำงานไปได้เต็มที่อย่างมีความสุข

  เรื่องผลงานค่อยว่ากันทีหลัง   อันนี้เลคเชอร์ไว้จากการประชุม

  Palliative  ที่จุฬา   ล่าสุด    กำลังจะสร้างทีม Palliative  ของ

  โรงพยาบาลขอข้อแนะนำได้ใช่มั้ยคะ  

                                                              แก้ว

 

 

สวัสดีครับคุณแก้ว

ยินดีที่ทาง รพ. จะตั้งทีมดูแลผู้ป่วย คงจะแนะนำเพียงว่า ขอให้มีความสุขจากการดูแลผู้ป่วย+ได้ประสบการณ์ดี ๆ มาเล่าสู่กันฟัง

ตอนนี้แม่เป็นมะเร็งระยะที่ 3 ควรให้เคมีบำบัดใช่มั้ยคะ พอดีหมอไม่ได้บอกให้ญาติตั้งหลักเลย ก็เลยทำไรไม่ถูก ขอคำแนะนำได้มั้ยคะ ทุกข์ใจมาก เพราะไม่รู้จะเลือกทางไหนให้แม่ดี ยังไม่ได้บอกแม่เลย หมอนัดให้เคมี 8 มิ.ย. 52 นี้คะ

สวัสดีครับคุณภรณ์ ผมคิดว่าคงเป็นการตัดสินใจที่ยากสำหรับคุณและครอบครัวนะครับ ผมให้หลักคิดง่าย ๆดังนี้ครับ

ผลการรักษาจะดีเพียงใดขึ้นกับปัจจัยดังต่อไปนี้

-สภาพร่างกายผู้ป่วย : ผู้ป่วยอายุเท่าไร มีโรคประจำตัวหรือไม่ เพราะอายุและความแข็งแรงของร่างกาย จะเป็นตัวบอกว่าผู้ป่วยทนยาเคมีบำบัดได้มากน้อยแค่ไหน

-ผู้ป่วยทราบการวินิจฉัยหรือไม่ : ถ้าผู้ป่วยไม่ทราบ แล้วให้ท่านไปเคมีบำบัด หากท่านไม่พร้อมหรือไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ อาจส่งผลให้เกิดปัญหาหลายอย่าง เช่น มีข้อขัดแย้งกับคนในครอบครัวหรือบุคคลากรทางการแพทย์ เมื่อเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงญาติอาจรู้สึกผิด-ไม่สบายใจ (ควรให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการตัดสินใจการรักษา)

-ชนิดของโรคมะเร็ง : มะเร็งบางชนิดตอบสนองดีต่อเคมีบำบัด เช่น กลุ่มมะเร็งเม็ดเลือดขาวและต่อมน้ำเหลือง ในขณะที่บางชนิดตอบสนองไม่ดี เช่น มะเร็งตับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของเซลล์ อันนี้ก็ต้องถามแพทย์ที่ทำการรักษาครับ

-ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น : ถ้าค่าใช้จ่ายสูงมากจนไม่สามารถจ่ายไหว หรือ เกิดหนี้สิน แล้วผลก็ยังไม่หายก็น่าจะต้องพูดคุยกันถึงผลดีและผลเสีย

ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ครับ...ถ้ามีข้อสงสัยก็ e- mail

http://gotoknow.org/email/rojanasak

คุยกันได้ครับ

สวัสดีคะ คุณหมอ พอดีอยากรบกวนสอบถามคะ ว่า คุณแม่ของเพื่อน เพิ่งตรวจเจอว่าเป็นมะเร็งที่ตับ และถุงน้ำดี เป็นระยะที่ 4 แล้วคะ อาการของท่านดูแย่มาก ทานอะไรไม่ได้เลย อยากทราบว่าเราจะยังไงดีคะ จะใช้วิธีการรักษาแบบไหนดีคะ ท่านใช้สิทธิ์บัตรทองรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลคะ ตอนนี้คุณหมอก้อยังไม่ได้บอกว่าจะรักษาอย่างไรดี

รบกวนคุณหมอช่วยตอบปัญหาของหนูหน่อยนะคะ

ขอบคุณมากนะคะ

สวัสดีครับคุณ lee โดยการักษาหลักเพื่อการหายขาดของมะเร็งตับ(hepatoma) หรือ มะเร็งท่อน้ำดี(cholangioCA) คล้ายกันคือ การผ่าตัดครับ โดยจะทำในรายที่เป็นระยะต้น ๆ ฟังจากที่เล่ามา..."อาการดูแย่มาก" เราควรปรับเป้าหมายจากการหายขาดมาเป็น "รักษาเพื่อให้คุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด"

1.อาการทางกายอะไรที่ทำให้คุณแม่ทุกข์มากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น

ถ้าปวด-อาจปรับยาลดปวด

ถ้าตัวเหลืองมาก-ในรายที่เป็นมะเร็งท่อน้ำดี (cholangioCA) อาจปรึกษาทำศัลยกรรมเจาะระบายท่อน้ำดี(ทำได้ใน รพ. ใหญ่ แต่ก็มีความเสี่ยงในการผ่าตัด+เลือดออก)ผลดีคือลดตัวเหลือง+ลดการติดเชื้อท่อน้ำดีอักเสบ แต่ไม่ได้ทำให้หายขาด+เจ็บตัว+ต้องทำแผล และไม่ทำให้อายุยืนยาวขึ้น เป็นต้น

แต่โดยรวมแล้ว : เป็นไปเพื่อให้คนไข้ไม่ทุกข์ทรมานมากนัก..ไม่ใช่เพื่อการยื้อชีวิตให้ยาวนานขึ้นแต่ทุกข์มากขึ้น

ผมเห็นว่าควรปรึกษากับแพทย์เจ้าของไข้เพื่อบอกถึงทางเลือกต่าง ๆ

2.ให้การดูแลทางด้านจิตใจ

ผมคิดว่าน่าจะสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการดูแลกาย...ครอบครัวมีส่วนสำคัญอย่างมาก

3.ควรบอกคุณแม่เป็นมะเร็งหรือไม่?

ต้องดูว่าคุณแม่เป็นคนอย่างไรพร้อมหรือไม่ที่จะรับข่าวนี้

การปิดบังการวินิจฉัย...อาจทำให้คนไข้เข้าใจผิด นึกว่าอาจมีโอกาสหาย ทำให้ไม่ได้ใช้เวลาที่เหลือน้อยไปกับการรักษาที่ไม่จำเป็นแทนที่จะ ใช้เวลาที่เหลือ..จัดการภาระที่คั่งข้าง-จัดการสิ่งค้างคาใจ-แก้ไขความสัมพันธ์ที่มีปัญหา-คืนดีกับครอบครัว

การบอก....บอกเท่าที่เขาอยากรู้-บอกอย่างนุ่มนวล-ค่อยเป็นค่อยไป

สุดท้ายลองตัดสินใจกันดูนะครับว่าจะบอกหรือไม่...และบอกอย่างไร...ใครจะเป็นคนบอก

4.การจัดการสิ่งค้างคาใจ

คนไข้มักมีเรื่องห่วง เรื่องค้างคาใจ สิ่งที่ยังทำไม่เสร็จ...ควรช่วยคนไข้ค่อน ๆ จัดการ

5.น้อมนำใจให้สงบ ระลึกความดีที่เคยทำมา-เคยดูแลเรามาอย่างไรบอกท่าน-ท่านเป็นคนดีอย่างไรบอกท่าน-เรารักท่านแค่ไหนบอกท่าน

การกอดสัมผัสช่วยได้มาก...การใช้ศาสนาหรือสิ่งที่คนไข้ยึดเหนี่ยวเป็นสิ่งที่เป็นทางเลือก

6.หากถึงเวลาที่ใกล้จะจากไป..อย่างสงบ

สำคัญมากครับ เพราะจิตสุดท้ายหากคงความเป็นกุศลจิตได้...ก็จะจากไปอย่างสงบ การใส่ท่อช่วยหายใจหรือปั้มหัวใจอาจต้องคุยกันในหมู่ญาติว่าจะเหมาะสมหรือไม่

สุดท้ายนี้ขอให้พี่ช่วยคุณยายให้ผ่านพ้นความทุกข์ทรมานไปให้ได้นะครับ

 

คุณหมอค่ะ คุณพ่อเป็นมะเร็งที่ท่อน้ำดีค่ะ ตอนนี้ลามไปที่ท้องและลำไส้แล้ว(จากที่คุณหมอบอก) วันนี้พึ่งไปพบคุณหมอมาค่ะ คุณหมอบอกว่าจะไม่มีการทำคีโมเพราะทำไปก็ไม่ได้ผล และไม่มีการนัดมาดูอาการต่อค่ะ สำหรับในกรณีพ่อหนู แต่คุณพ่อยังปกติดีทุกอย่างเลยนะค่ะ ตัวไม่เหลือง เดินได้ปกติ สำหรับกรณีนี้ทำไมคุณหมอไม่ให้ทำค่ะ ตัวหนูรู้สึกว่าไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะคุณหมอว่าตอนนี้ให้ยาตามอาการที่เป็นค่ะ

สวัสดีครับคุณนุก

จากที่ฟังที่คุณนุกเล่าให้ฟัง...ผมรู้สึกเห็นใจที่คุณนุกคงจะรับได้ยากกับข้อมูลจากที่คุณหมอบอก

โดยทางวิชาการในปัจจุบัน มะเร็งท่อน้ำดีเป็นมะเร็งที่จะรักษาให้หายขาดได้ด้วยการผ่าตัด ผมได้แนบ file ข้อมูลของมะเร็งท่อน้ำดี (ผม e-mail ไปให้แล้วครับ)มะเร็งท่อน้ำดีมี 2 ชนิดมะเร็งท่อน้ำดีในตับและมะเร็งท่อนำดีนอกตับ ซึง่ทั้ง 2 ชนิดการรักษาในระยะที่ 4 คือการรักษาแบบประคับประคอง

ฟังจากข้อมูลที่บอกมาน่าจะเป็นระยะที่ 4 เพราะลุกลามไปอวัยวะข้างเคียง

ความเห็นผมคิดว่า คุณนุกน่าจะมีแพทย์ที่ดูแลคุรลุงประจำเป็นที่ปรึกษาและติดตามอาการเป็นระยะ ถึงแม้ว่าจะรักษาไม่หายแต่ก็ยังมีที่ปรึกษา..ประเมินอาการเป็นระยะ อีกเรื่องที่สำคัญคือเรื่องการดูแลคุณพ่อในเวลานี้...อยากให้อยู่กับปัจจุบันอย่างไรให้มีความสุขที่สุดมากกว่าจะมุ่งที่ว่ารักษาให้หายขาด โดยธรรมชาติมะเร็งชนิดนี้ดำเนินโรคช้า อาจมีเวลาพอที่จะทำสิ่งที่คุณลุงอยากทำ...การคิดมุมบวก(ไม่วิตกกังวลกับตัวโรคนัก)+ให้เวลากับครอบครัว/คนที่รัก+การรักษาสุขภาพทางกายด้วยอาหารหรือผลไม้ที่ต้านอนุมูลอิสระ (มีให้อ่านเยอะมากในปัจจุบัน)..งดเนื้อสัตว์ที่ย่อยยาก

สุดท้ายนี้ให้กำลังใจและขอให้มองว่า..การดูแลไม่เคยสิ้นสุด...นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่คุณนุกอาจที่จะได้ตอบแทนบุญคุณของคุณพ่อได้+ได้ใกล้ชิดท่านมากขึ้นครับ

คุณหมอค่ะ คุณพ่อเป็นมะเร็งถุงน้ำดีระยะสุดท้าย ตอนนี้อาการคือ อาเจียนเป็นสีเขียว ถึ่มาก และไอ เหนื่อย หอบ กินอะไรไม่ได้ตอนนี้รักษาที่โรงพยาบาลค่ะ อยากทราบว่าอาการแบบนี้ท่านจะอยู่กับเรานานแค่นะค่ะ

อาการอาเจียนเป็นสีเขียวแสดงว่า อาจมีการอุดตันของทางเดินอาหาร (สีเขียวหมายถึงสีของน้ำดี)ไม่แน่ใจว่าคนไข้ได้รับการผ่าตัดแล้วหรือยังครับ

คุณหมอค่ะ ย่าหนูอายุ 70กว่า เป็นมะเร็งถุงน้ำดี หมอบอกว่า ถ้าพ้นเดือนนี้ไปได้ก็อยู่ได้มากสุด 6 เดือน

หนูไม่รู้ว่าแบบนี้เรียก ระยะสุดท้ายไหม

แล้วหมอเค้าก็บอกว่าถ้าผ่าตัด จะสามารถอยู่ได้ 1 ปีหรือ2ปี คุณหมอค่ะ อยากทราบว่า การผ่าตัดเสี่ยงมากไหมค่ะ

แล้วถ้าผ่าไปแล้วจะทำให้ทรุดหนักมากไหมค่ะ ย่าหนูปกติแล้ว แข็งแรงค่ะ ตอนนี้ที่เป็นก็มีแค่อาการเหนื่อยง่าย

ถ้าผ่าตัดไปแล้ว มะเร็งมันจะลามไปมากกว่านี้ไหมค่ะ พอมีวิธีอื่นที่จะทำให้ท่านอยู่ได้นานกว่านี้ไหมค่ะ

ถ้าผ่าตัดไม่ได้คุณหมอช่วยบอกหน่อยนะค่ะว่าควรปฎิบัติตัวยังไง

ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะค่ะ

จากข้อมูลที่ให้มาผมไม่แน่ใจว่าอยู่ในระยะไหนแต่ ดูจากอายุคุณย่ามีความเสี่ยงต่อการดมยาและการผ่าตัดที่สูง คงเป็นการยากที่จะเลือกว่าควรผ่าตัดหรือไม่ เพราะความเสี่ยงกับประโยชน์คงค่อนข้างก้ำกึ่ง มะเร็งของถุงน้ำดีระยะที่ 1-2การรักษาคือผ่าตัดออกให้มากที่สุด ส่วนระยะ 3-4 การผ่าตัดเพื่อบรรเทาอาการในกรณีตัว-ตาเหลือง http://www.cancer.gov/cancertopics/pdq/treatment/gallbladder/HealthProfessional/page5

ผมว่าสิ่งสำคัญอาจจะปรึกษาคุณย่าว่า คุณย่าเองคิดยังไงกับการป่วยครั้งนี้ คุณย่าอยากจะผ่าตัดหรือไม่ ส่วนเรื่องการดูแลในความเห็นผมถือหลักว่า "ให้คนไข้สบายที่สุด มุ่งที่การมีความสุขแต่ละวันมากกว่ามุ่งที่ปลายทางว่าจะอยู่นานมากน้อยแค่ไหน....ความสุขของผู้สูงอายุคือ ลูกหลานพร้อมหน้า-หมดห่วงกังวล" ให้กำลังใจครับ

พ่อเป็น CA sigmoid colon metastasais lung and liver เซลล์มะเร็งชนิด moderate differtiatedเพิ่งทราบประมาณ 2 เดือนมานี้ ทำ colonic stent แล้วมีปัญหา perforate ตอนนี้ explor lap ทำ colostomy ไปแล้ว รอพักฟื้นเพื่อเริ่ม chemo อยากขอความเห็นว่า ควรจะให้เคมีบำบัดดีมั้ย ผลการรักษาจะยืดเวลาไปได้มากกว่าไม่รับเคมีบำบัดมั้ยคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

คุณหมอครับ วันนี้27/4/56 เมื่อ20 วันก่อนพ่อผมมีอาการคันไปทั้งตัวและต่อมาอาทิตย์ที่แล้วพ่อตัวเหลืองและคันมากพร้อมมีอาการเหนื่อยง่าย จึงไปหาหมอที่คลินิก หมอบอกว่าเป็นมะเร็งท่อน้ำดี ผมจึงพาไปหาหมดที่ รพ

จังหวัด ที่จังหวัดคนไข้เยอะมากครับต้องรอคิวตรวจและรอผลนาน ผมจึงพาพ่อไปตรวจที่ รพ ของเอกชน หมอได้ทำ CT Scan และ MIR ให้ ถ้าจะให้หมอรักษาต่อที่นี้จะมีค่ารักษาแพงเกินไป ผมจึงพาพ่อไปหาหมอของรัฐอีกที่หนึ่ง หมอวินิจฉัยแล้วบอกว่า ถ้าผ่าตัดไม่ดี ทำได้เพียงเจาะเอาน้ำเหลืองออกเพื่อบรรเทาอาการตัวเหลืองและคัน แต่ต้องรอคิวเจาะ วันที่ 3 มิ.ย.56 ตอนนี้พ่อตัวเหลืองทั้งตัวแล้วพร้อมมีอาการคันในเนื้อทั้งตัว และการขับถ่าย ปัสสาวะออกยาก หากให้พ่อรอคิวเจาะน้ำเหลืองออกตามคิวที่หมอแจ้ง พ่อของผมจะเป็นอย่างไรบ้างครับและจะมีอาการ หรือผลเสียมากหรือไม่ครับ

คุณสิงขรครับ

ผู้ป่วยทะเร็งท่อน้ำดีที่มีอาการตัวเหลืองมีอาการคันเนื่องจากสารบิลิรูบินที่ปกติจะขับออกทางอุจจาระไม่สามารถระบายออกได้จึงตกค้างทางผิวหนังก่อให้เกิดอาการคัน จากที่ได้รับการนัดเจาะท่อระบายนำ้ดี หลักการคือ การต่อท่อระบายจากจุดที่นำ้ดีอุดตันออกมาทางผิวหนัง  หลังเจาะจะมีท่อระบายนำ้ดีออกมาที่ด้านขวาบริเวณตับแล้วต่อลงถุง หลังทำอาการเหลืองจะลดลงแต่อาจไม่ถึงกับหายเหลืองสนิทเพระาธรรมชาติมะเร็งชนิดนี้มีจุดอุดตันหลายจุดเรื่องคันน่าจะดีขึ้น

ส่วนเรื่องวันนัดที่ห่างไปอีกหนึ่งเดือนอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือไม่นั้นผมมีข้อแนะนำดังนี้ครับ

1. ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็นการติดเชื้อในท่อน้ำดี ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดท้องด้านขวาบน หากมีอาการดังกล่าวควรกลับไปที่รพ. ก่อนนัด แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะจนไข้ลงและอาจจะเลื่อนคิวเจาะให้เร็วขึ้น

2. ในช่วงนี้แนะนำงดอาหารมันหรือทอดเพราะผู้ป่วยย่อยไขมันไม่ได้ เนื้อสัตว์ควรเป็นเนื้อที่ย่อยง่ายเช่นเนื้อปลา ไข่ขาวหรือถั่วซึ่งจะเป็นโปรตีนที่เหมาะสม

3. อาการคันอาให้ยาแก้แพ้และทา. Lotion ไม่ให้ผิวแห้ง

ยังไงขอให้กำลังใจคุณสิงขรที่ปฏิบัติหน้าที่ลูกที่ดีและการดูแลครั้งนี้เป็นกุศลอย่างยิ่ง แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากก็ตามหากมีคำถามเพิ่มเติม ยินดีตอบครับ

คุณหมอครับ แม่ผมอายุ 56 ปี พึงตรวจเจอโรคว่าเป็นมะเร็งลำใส้ใหญ่ ระยะ หลังๆแล้วครับ (หมอประจำคนไข้บอก ) ได้ทำการผ่าตัด ตอนนี้ฟื้นตัวอยู่ครับ  ตอนนี้จิบน้ำได้นิดๆ แผลตรงผ่ายังไม่หายดี แต่เดินได้ ขยับตัวเองได้ แม่เค้าใจาสู้มากครับ น้ำตาซะหยดไม่ให้ลูกเห็น  ซึ่งคุณแม่เค้ามั่นใจมากว่าไม่เป็น เพราะเค้าเป็นคนแข็งแรงมาก หมอบอกว่า มะเร็งมันลามไปที่รังไข่ครับ  แม่เคยตัดมดลุกเมื่อ 10 ปีที่แล้วครับ แต่ไม่ได้เอารังไข่ออก ตอนนี้ผมเครียดมาก เพราะผมกับพี่อายุเพียง 20 ก่าๆเหลือแม่เพียงคนเดว ตอนนี้หมดหนทางหมอบอกว่า ต้องใช้เคมีบำบัด อาจจะอยู่ได้ 5 ปีคิดเป็น % ก็เกินครึ่ง แต่หมออีกคนบอก 6 เดือน  แต่ได้อ่านรีวิวตามที่ต่างๆเค้าอยู่กันได้หลายปี อยากทราบจังครับ จะดูแลแม่ผมยังไงดี แล้วเคมีบำบัดสมัยนี้มีโอกาศ ที่จะช่วยให้คนไข้อยู่นานๆเกิน 10 ปีๆได้หรือเปล่า เพราะคนไข้ สุขภาพดีมากๆ ไม่มีความดัน ไรเลย ตอนนี้ผมคงบอกข้อมูลได้แค่นี้ครับ ซึ่งต้องรอคุยกะหมออีกทีครับ เพราะเค้าบอกมาคร่าวๆ ( ตอนนี้ผมยังไม่ได้บอกคุณแม่ รอแม่แผลหายดีแล้วให้คุณบอกแนะนำจะดีหรือเปล่าครับ ตอนนี้กลัวเค้าจะทรุดตัว ) แม่ผมรักษาที่โรงบาลชื่อดัง กทม. ตัวย่อ ร ครับ 

คุณกบครับ

จากที่ฟังดูแล้วคุณแม่มีกำลัวใจที่ดีแล้วดูเหมือนว่าเรื่องที่คุณกบเป็นห่วงมี2 ประเด็นคือ เรื่องผลการรักษาจากเคมีบำบัด และเรื่องจิตใจแม่ที่ยังไม่แน่ว่าจะรับกับเรื่องการป่วยครั้งนี้

ผมมีข้อแนะนำดังนี้ครับ

เรื่องแรกที่สำคัญที่สุดคือเรื่องความเข้าใจของผู้ป่วยต่อตัวโรคผมอยากให้คุณกบลองประเมินดูว่าแม่จะรับได้ไม่ได้ดังนี้ครับ

1. คุณแม่ทราบมากน้อยแค่ไหนว่าป่วยด้วยโรคอะไร

2. คุณแม่อยากรู้มากแค่ไหน

3. ถ้าแม่รู้จะเกิดประโยชน์อย่างไร ส่วนใหญ่การรู้ว่าป่วยเป็นอะไร จะทำให้ผู้ป่วยเตรียมตัว เรื่องบางเรื่องที่ยังไม่เคยคิดเตรียมจะต้องเตรียม จะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกว่าจะให้เคมีบำบัดหรือไม่ เพราะหากคุณตัดสินใจเองโดยคุณแม่ไม่ทราบแล้วเกิดผลแทรกซ้อนคุณแม่อาจรับไม่ได้มากขึ้นในขณะที่คุณเองก็จะแบบรับความกดดันไว้มาก

4. ถ้าแม่ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น แม้ช่วงแรกจะสบายใจแต่เมื่อโรคกลับมา อาการของโรคก็จะฟ้องเองอีกทั่งไม่มีมเวลาเตรียมตัวในทุกเรื่อง

ส่วนเรื่องเคมีบำบัดถ้าคุณแม่แข็งแรง ยาเคมีบำบัดในโรคมะเร็งลำใส้ใหญ่มีผลการรักษาที่จะยืดชีวิตได้ แต่เรื่องเวลาอาจกะเกณฑ์ได้ยากทางการแพทย์ใช้การประมาณทางสถิติเป็นอัตราการมีชีวิตรอด5ปี บางคนก็อยู่เป็น10ปี บางคนก็อยู่ไม่ถคงปี ที่ต่างกันเพราะสภาพร่างกายและจิตใจ และที่สำคัญการปรับวิธีชีวิตใหม่มีส่วนมากเช่นบางคนปฏิบัติธรรม ปรับอาหาร. อาการสงบหายไปเลยก็มี 


สุดท้ายนี้ขอให้คุณแม่แข็งแรงและขอให้คุณกบมีจิตที่สงบและผ่านพ้นมรสุมชีวิตครั้งนี้ไปให้ได้นะครับ

ขอบคุณครับ คุณหมอ ตอบเป็นช้อๆนะครับ

1.คุณแม่ทราบมากน้อยแค่ไหนว่าป่วยด้วยโรคอะไร 

ตอบ : แม่อยากทราบมากครับ แต่คุณหมอยังรอญาติตัดสินใจอยู่ ซึ่งผมได้ปรึกษากะพี่ไว้ว่าจะให้คุณหมอเจ้าของคไข้บอกว่าแกเป็นระยะที่มีการรักษาได้ เพื่อให้แกมีกำลังใจมากขึ้น เพราะตอนนี้แกพูดอย่างเดวคือ อยากกลับไปทำงาน อยากไปทำงานให้เกษีตรได้มีเงินมาช่วยลูกๆ แกห่วงลุกมากๆ ครับ

2.คุณแม่อยากรู้มากแค่ไหน

ตอบ : อยากรู้มากครับ ถามหมอทุกวัน

3.ถ้าแม่รู้จะเกิดประโยชน์อย่างไร ส่วนใหญ่การรู้ว่าป่วยเป็นอะไร จะทำให้ผู้ป่วยเตรียมตัว เรื่องบางเรื่องที่ยังไม่เคยคิดเตรียมจะต้องเตรียม จะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกว่าจะให้เคมีบำบัดหรือไม่ เพราะหากคุณตัดสินใจเองโดยคุณแม่ไม่ทราบแล้วเกิดผลแทรกซ้อนคุณแม่อาจรับไม่ได้มากขึ้นในขณะที่คุณเองก็จะแบบรับความกดดันไว้มาก

ตอบ : หมอบอกยังไงก็ต้องทำเคมีบำบัดครับ  แต่ผมไม่อยากบอกตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เค้ากำลังรักษาตัวอยู่ครับ

4.ถ้าแม่ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น แม้ช่วงแรกจะสบายใจแต่เมื่อโรคกลับมา อาการของโรคก็จะฟ้องเองอีกทั่งไม่มีมเวลาเตรียมตัวในทุกเรื่อง

ตอบ :  คงไม่เกิดขึ้นครับ เพราะยังไงก็ต้องบอกแก


คุณแม่ตรวจสุขภาพทุกปีครับ ไม่มีความดันอะไรทั้งสิ้น ผมดูแล้วสุขภาพแกดีมากๆเลย แต่แกไม่ได้ตรวจแบบ Ct scan แบบละเอียดเลยไม่เจอเนื้องอกนั้น แตอนนี้แกมีกำลังใจเยอะมากครับ กะว่ารอแกหายดีหรืออาการดีขึ้นค่อยบอกแก ตอนนี้แกรักษาแผลที่เย็บอยู่ครับ 

ยังไงก็ขอบคุณ คุณหมอมากนะครับ มีกำลังใจขึ้นเอยะเลยครับ ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับหมอเล่าให้ฟังอีกนะครับ.. และเป็นกำลังใจครับ 

คุณหมอครับ มะเร็งลำใส้ใหญ่ ถ้ามันแตกแล้วลามไปรังไข่ที่อยู่ข้างๆ แต่ไม่ลามไปตับหรอืปอด นี่ถือว่าระยะ 4 หรือเปล่าครับ เพราะหมอบอก ระยะ 4 แต่ส่วนมากเค้าบอกระยะ 4 นี่ต้องลามไป ตับ หรอื ปอดแล้วอะครับ เผื่อหมอจะวินิจฉัยผิด T_T  

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2558พ่อมีอาการฉี่เหลือง จึงไปคลินิคพบว่ามีเนื้องอกอยู่ที่ตับ หมอบอกรักษาไม่ได้ จึงไปตรวจอีกครั้งที่ รพ.เอกชน หมอบอกเป็นที่ถุงน้ำดี และลามไปที่ตัย ตอนนี้ครบ 1 เดือนกว่าๆ น้ำหนักลดไปมาก ตัวเหลือง ตาเหลือง คันตามตัว อืดท้อง อยากทราบว่าเป็นระยะที่เท่าไหร่ค่ะ มีการทำดีท็อกเพราะท้องอืด จากนั้นมีอาการเวียนหัว อาเจียน กินอะไรไม่ค่อยได้เป็นผลมาจากอะไรค่ะ แล้วตอนดีท็อกมีเศษชิ้นเนื้อและเลือดออกมา มันคืออะไรค่ะ ออกมาได้ยังไง

(ช่วยตอบด่วนค่ะเหมือนคนไข้จะทรุดลงเรื่อยๆ ขอบคุณมากค่ะ)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท