เมื่อผู้เยี่ยมสำรวจจาก พ.ร.พ. เข้ามายังร.พ. เรื่องหนึ่งที่ต้องเตรียมตัวตอบในทุกระดับ คือ Competency, JD,JS เราเคยสงสัยในความหมายของ JD & JS ว่า พ.ร.พ. จะใช้อะไรตัดสินนะว่า ร.พ.ทำได้ดีแล้วในเรื่อง JD&JS และข้อสงสัยนี้ทำให้มีการถกเถียงกันว่าจะเอาอะไรเป็นเป้าหมายร่วมในการให้ข้อมูลกับ พ.ร.พ. สุดท้ายเราก็ไม่วายลงเอยที่ ใช้กรอบของก.พ. กำหนด JD & JS ทั้งๆที่ในใจก็คลางแคลงว่า มันจะใช่หรือ เมื่อมองเชื่อมไปยัง safety goal
เมื่อทำงานพัฒนาคุณภาพผ่านไประยะหนึ่ง ก็กระจ่างใจขึ้นว่า competency, JD ,JS เป็นเรื่องดิ้นได้ ตามแต่มุมมอง
มุมแรก คือ มุมการเป็นราชการ ในกรณีของการเป็นราชการ คุณสมบัติคนก็ต้องเป็นไปตามกรอบก.พ.
มุมที่ 2 คือ มุมการทำธุรกิจบริการ ในกรณีนี้ มารยาทของการทำงานบริการ และ service mind เป็นเรื่องสำคัญ
มุมที่ 3 คือ มุมการดูแลสุขภาพ คุณสมบัติคนทำงานที่สำคัญ คือ วัฒนธรรมการทำงานซึ่งมุ่งเป้าที่ความปลอดภัยของผู้รับผลงาน ความเชี่ยวชาญงาน เป็นสำคัญ
ร.พ. ที่มี HA ในหัวใจ คือ ร.พ. ที่ถือคติว่าความปลอดภัยของผู้รับบริการ คือผลงานชั้นเลิศ ฉะนั้นในแง่ patient safety goal JD & JS ของคนในร.พ.จึงควรมองในมุมที่ 3
เพิ่งเ้ข้าใจนะนี่ว่า เวลาเยี่ยมสำรวจทำไมผู้เยี่ยมสำรวจจึงต้องสัมภาษณ์น้องที่หอผู้ป่วย เ่กี่ยวกับ training ที่เขาได้รับ feedback ที่เขาได้รับจากทีมงานที่ร่วมทำงาน ถามเกี่ยวกับport folio ที่บันทึกไว้ ตรงตัวจากน้องๆโดยตรง
ก็เขากำลังสุ่มหา evidenced base เพื่อยืนยันว่า ความปลอดภัยของคนไข้ที่อยู่ต่อหน้าเขานั้น ได้รับความใส่ใจอย่างไรบ้างนี่เอง หากได้รับการใจใส่ การพัฒนาคนจะบ่งบอกไปในตัวว่าให้ความสำคัญ ร้ายจริงๆ กลยุทธของ พ.ร.พ. ในการประเมินความปลอดภัยที่ต้องประกันคุณภาพให้ร.พ.
นี่แหละ HRM - Risk management ในระบบ HRM (Human resource management )
22 มกราคม 2551
ไม่มีความเห็น