คนของหัวใจ
คุณคงจำไม่ได้แล้วละ ว่าผมเคยบอกคุณว่า "ยวน โยนก" เป็นชื่อที่ผมอยากใช้เป็นนามปากกา วันนั้นคุณยิ้มนิดๆเมื่อได้ยิน แล้วก็นิ่งเงียบ (ตามแบบของคุณ)
แต่ผมก็ยังใช้อยู่ตลอด จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ... ไม่ว่าจะเป็นงานขีดๆเขียนๆเล่น หรือนามที่ใช้ในโลกไซเบอร์บางแห่งผมบอกคุณว่า ผมใช้ชื่อนี้เพราะผมเป็นคนยวน คราวนี้เราเลยได้คุยกันในเรื่องที่เกี่ยวตัวเองมากกว่าปกติ (ที่เรามักนั่งเงียบๆคุยกันด้วยภาษาใจ) ผมได้บอกคุณว่าผมเป็นยวนปนไต ผมย้ำว่า "ยวนหรือโยน นี่เป็นคนละแบบกับ ญวนที่แปลว่าคนเวียดนาม แต่หมายถึงคนเมืองที่อยู่แถบเชียงใหม่ ลำพูน เชียงแสน เชียงราย และล้านนาทั้งหมด" ผมยังแอบถามคุณเลยว่าที่ที่ครอบครัวคุณไปในวันเช็งเม้งเป็นที่ไหนกัน คุณก็ยังได้ทีย้อนถามถึงสาวชาวยองขี้เหงาชาวลำพูนที่พาตัวมาพัวพันกับผมเลย (ผมเลยได้รู้ตัวว่า...ในท่าทีเงียบเฉยของคุณ ...ผมถูกสอดส่องอยู่เหมือนกัน)
เมื่อครั้งที่ผมเริ่มได้ทำงานในลาว ผมไปเจอหนังสือชื่อสี่สิบสองชาติพันธุ์ในลาว ซื้อมาอ่านพบว่ามีกล่าวถึง "ชาวยวน"อยู่ด้วย ผมเลยมุ่งมั่นที่จะไปเยี่ยมไปพบพี่น้องสักครั้ง ก็ไม่มีโอกาสสักที
วันนี้..ระหว่างที่ผมเดินประเมินความเสียหายที่จะเกิดจากน้ำท่วม...ที่บ้านตาลาน ไชยะบูลี ผมนึกว่าตัวเองหูฝาดที่ได้ยินเสียงผู้หญิงกลุ่มหนึ่งคุยกัน...ด้วยภาษาไทยวนภาษาที่บ้านผมใช้...ภาษาที่คุณเคยได้ยินเมื่อเวลาคุณไปเยี่ยมยาย เยี่ยมแม่ เยี่ยมน้า ผมไง (ผมรู้ดีว่าคุณแอบไปเยี่ยมท่านบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลาผมไม่อยู่)
ผมหยุดเดิน แอบฟังน้าๆคุยกัน ... อดไม่ได้จึงเดินไปคุยด้วยได้ความว่าเป็นคนยวน มาจากบ้านนาคูน มาร่วมงานแต่งงานในฐานะญาติฝ่ายเจ้าบ่าวที่มาเป็นครูและพบรักกับสาวชาวลาวลุ่มในบ้านนี้ เราคุยกันอย่างถูกคอ (ผมมักมีเสน่ห์ในการคุยกับผู้หญิงที่สูงวัยกว่า..คุณก็รู้) ผมถามถึงชุดประจำเผ่าของชาวยวน น้าๆบอกให้ผมแวะเยี่ยมที่บ้านในช่วงขากลับ เธอจะอวดให้ชม
ผมรีบทำงาน เพื่อเวลาขากลับมาที่พักในเมืองไชยะฯ จะได้แวะเยี่ยมหมู่บ้านชาวยวนตามคำชวน เราขึ้นจากเรือแล้วเดินผ่านเพิงขายน้ำอัดลมเจ้าประจำที่ท่าเรือโดยไม่ได้อุดหนุน เพราะเราจะไปแวะกินน้ำมะพร้าวอ่อนที่บ้านคนยวนนาคูน น้าเธอบอกผมว่ารับรอง " ลำแต้ๆ " ไม่ใช้คำว่า " แซบหลาย " แบบคนลาวเราถึงหมู่บ้านนาคูนเกือบสี่โมงเย็น จอดรถที่ร้านขายมะพร้าวอ่อน แรกๆแม่ค้าคุยกับเราเป็นภาษาลาวสำเนียงหลวงพระบาง ผมเหลือบไปเห็นคุณป้าคุณยายกำลังมุงกันเลือกซื้อผ้าถุง เป็นผ้าไหมที่ใช้ไหมจีนแต่คนลาวนำมาทอมือที่เมืองปากลาย แม่ค้ารับมาขายในระบบเงินเชื่อ ผืนละแปดสิบพันกีบ (ผมอยากซื้อมาฝากคุณจัง)
ผมได้คุยกับป้ายายด้วยภาษายวน หรือคำเมืองบ้านเราอย่างมากมาย หลังจากคุณป้าเลือกผ้าซิ่นได้ ผมตามป้าไปบ้าน ได้คุยกับคุณลุงที่บ้าน ได้ชมผ้าซิ่นมุกของชาวยวนที่ป้าจะเก็บไว้นุ่งในงาน "บุญยวน" ที่จะมีขึ้นในวันเดือนสี่เป็ง (นับแบบยวนซึ่งเหมือนกับทางเชียงใหม่เรา) คือวันที่ยี่สิบกว่าเดือนมกราคมนี้ (ทางบ้านผมเดือนสี่เป็งเป็นวันทานข้าวใหม่ ที่แม่ผมชอบฝากข้าวหลามมาให้คุณไงครับ)
ผ้าซิ่นมุกของชาวยวน ดูคล้ายผ้าลายน้ำไหลของชาวลื้อแถบเมืองเงิน ไชยะบูลี หรือไทลื้อที่น่าน ( ที่ผมฝากคนเขาไปให้คุณครั้งหนึ่ง .. เมื่อคราวที่ผมไปอยู่เมืองหงสา ) แต่ลายน้ำไหลของชาวยวนไม่ละเอียดเท่า และที่ชายผ้าจะจกเป็นลายขอ สวยงามไปอีกแบบชาวไทยวน ยังนับถือผีทางแม่ และมีเจ้าปู่อยู่ที่ดงเสื้อบ้าน ให้ชาวบ้านไปไหว้สาเป็นที่พึ่งทางใจ เป็นกรอบทางสังคมผมได้ทราบว่าชาวยวนที่เมืองไชยะฯ
ได้รับราชการ ได้เป็นใหญ่เป็นโตหลายคน ไม่แพ้คนเผ่าอื่น ทำให้ผมดีใจที่พบเห็นความเท่าเทียมกันในสังคมใหม่ของลาวดีใจที่มาพบคนเผ่าพงษ์เดียวกัน
ขอบคุณที่มีคุณให้คิดถึง
๑๓ มกราคม ๒๕๕๑เรือนพักนกอินทรีย์ เมืองไชยะบูลี สปป. ลาว
ขอบคุณที่มีคุณให้คิดถึง
ขอบคุณที่มีคุณให้คิดถึง
ขอบคุณที่มีคุณให้คิดถึง
ลอกเลียนแบบพ่อครู
ขอบคุณที่มีคุณให้คิดถึง
โอ้ย!มันช่างหวาน น่าอิจฉาสาวงาม "คนของความคิดถึง" นั้นเหลือเกิน
น้องเหว่าอิจฉาหลายเด้ ตาร้อน ตาร้อน อย่างแรง
แต่ก็ดีเนาะ จะได้มีคนมาเตือนกินยา น้ำตาลจะได้ไม่เพิ่มเนาะ
คิดถึงนะคะ อิ อิ
กาเหว่า
คงต้องรอรวมเล่ม จะได้อ่านให้มดมาหามนะคะ
ได้ทั้งสาระและโรแมนติคซะด้วย
ขอบคุณ แขกแก้วที่แวะมาเยี่ยม มาแซวในบันทึกนี้ทุกๆท่านครับ
ชาวยวนที่ไชยะบุรี มีจำนวนหลายหมู่บ้านครับ
ผมได้เสนอให้ทางเมืองอนุรักษ์วัฒนธรรม และภาษาชาวยวนไว้ อีกหน่อยคงมีผู้คนเลยจากเมืองหลวงพระบาง ไปเยี่ยมเมืองไชยะ
ผมเสนอชื่อโปรแกรมทัวร์นี้ให้เจ้าเมืองฟังว่า "เที่ยวเมืองเชียงใหม่ในไชยะบุรี" ครับ รู้สึกว่าท่านจะรีบจดบันทึกไว้ในสมุดอย่างดี
โชคดีที่ในลาว ไปที่ไหนก็ได้ยินคำว่าพี่น้องประชาชนบรรดาเผ่า จึงไม่ค่อยเห็นความลักลั่นในชนเผ่ามากนัก
ขอบคุณอีกครั้งครับ
ดีใจที่มีคนยังไม่ลืมคำว่ายววน
เพราะว่าดิฉันเคยถามคนเหนือหลายๆคนว่ารุจักคนยวนมั้ย
50%บอกว่าคุ้นๆ มีเพีบงไมีกี่คนที่รู้จัก
เสียใจจังเลยค่ะ
เพราะว่าดิฉันเป็นยวนเชียงแสนที่ต้องพลัดบ้านเมืองมาน่าจะพร้อมๆกับคนยวนที่คุณไปเจอที่ลาวนั่นแหละ
แต่ว่าพวกเรายังคิดเสมอว่าเราคือคนยวน คือคนเชียงแสนที่พลัดบ้านมา
ดิฉันดีใจทุกครั้งที่เห็นคนเหนือที่ไม่ลืมว่าเป็นคนยวน
ขอบคุณจริงๆค่ะ ขอบคุณจากใจที่ไม่ลืมคำว่ายวน
ถ้าคุณได้จากบ้านจากเมืองที่ปู่ย่าตายายได้สร้างไว้อย่างพวกเรา
คุณจะรู้ว่าคำว่าคนยวนมันมีความหมายแค่ใหนสำหรับพวกเรา
จากยวนพลัดถิ่นค่ะ
สวัสดีครับ..ปัจจุบันผมรับราชการที่ จว.ปัตตานี เป็นคนยวน100 % บ้านเกิด อ.เชียงแสน ภูมิใจในเชื้อชาติ"ยวน"มากครับ เรามีภาษาพูด ภาษาเขียน...วัฒนธรรม..เป็นของตัวเอง...ยิ่งศึกษาประวัติศาสตร์ ยิ่งรู้ว่า ชนชาติยวนมีอยู่หลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคกลาง ทั้ง ราชบุรี สระบุรี รวม ๆ แล้ว น่าจะหลายแสนคน....ขอให้เรารักกันมาก ๆ เหมือนคนจีนที่มีอยู่ทั่วโลก ที่อนุรักษ์วัฒนธรรมของตัวเองอย่างเหนียวแน่น....ถ้ามีโอกาส...อยากเห็น ลูก หลาน"ยวน" กลับไปเยี่ยมแผ่นดินเกิดของบรรพบุรุษเราที่เมืองเชียงแสน ที่นั่นยังมีเรื่องราวในอดีต โบราณสถาน ซึ่งยังต้องการลูก หลาน ช่วยกันบูรณะให้อยู่เป็นหลักฐานชั่วลูกชั่วหลาน จะได้รู้ว่า ชาวยวน เป็นชาติที่เคยร่งเรืองในอดีต.....
ดีใจ๋หลาย ตี๋ได๋ป่ะกับปี๋น้อง หมู่เฮา น้องเป็นคนไทยวนเหมือนกัน บ้านอยู่หนองปลาหมอ บ้านโป่ง ราชบุรี กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของคนไทยวน น้องกำลังกึ๋นว่าจะฟื้นฟูประเพณีวัฒนธรรมไทยวน ของตำบลหนองปลาหมอ เพราะตอนนี้บ้านน้องความเป็นคนไทยวนกำลังจะสูญหายไป โดยเฉพาะภาษาอู๋ ตอนนี้ตี่บ้านน้อง ละอ่อนน้อยอู๋กันบ่คอยจะจ่างแล้ว คนตี่เป็นป๋อเป็นแม่ก็บ่ค่อยจะสอนลูกตัวเองด้วยเหมือนกัน ขอบคุณข้อมูลนะคะ มันเป็นประโยชน์กับน้องมาก ๆ น้องกำลังจะเยี๋ย facebook หากเสร็จแล้วน้องจะเอามาโพสต์ไว้ หวังว่า ปี๋น้องคงแวะเข้าไปทักทายเน้อ ขอบคุณคะ