วิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องThe Golden Compass อภินิหารเข็มทิศทองคำ
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานอีกหนึ่งเรื่องที่สร้างขึ้นมามาจากนวนิยายแฟนตาซีซึ่งเป็นหนังสือนวนิยายแนวแฟนตาซีที่มียอดขายสูงที่สุดในโลก The Golden Compass เป็นภาพยนตร์ไตรภาค โดยภาคแรกคือ อภินิหารเข็มทิศทองคำ เนื้อหาของตอนนี้เป็นเรื่องราวการผจญภัยของไลลา เด็กหญิงที่อาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายเมืองเมืองหนึ่งซึ่งภายในเต็มไปด้วยบรรดาคณาจารย์และเหล่าบัณฑิตผู้มีความรู้ ไลลาเป็นเด็กหญิงกำพร้าและอยู่ภายใต้การอุปการะของลุง(ซึ่งภายหลังไลลาจึงรู้ว่าแท้จริงแล้วลุงของเธอคือพ่อแท้ๆนั่นเอง) ในภาคแรกนี้จะให้ความสำคัญไปที่ตัวของไลลาและเข็มทิศทองคำที่เธอได้รับมาจากอธิการบดีที่ให้เธอพกติดตัวไว้ตลอดเวลาเพราะเข็มทิศนี้จะช่วยเธอไขความลับในเรื่องที่เธออยากรู้ได้ และมีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถอ่านคำพยากรณ์ในเข็มทิศทองคำเรือนนี้ แค่เพียงเนื้อเรื่องนวนิยายแนวแฟนตาซีก็ทำให้นักชมภาพยนตร์ตื่นตาตื่นใจมากพอสมควร เพราะจินตนาการของนักเขียนเรื่องนี้นั้นนับว่าไม่น้อยหน้ากว่า Harry Potter หรือ Lord of the Ring เลยยิ่งผสมแอคชั่นไซส์ไฟเข้าไปอีกยิ่งทำให้นวนิยายเรื่องนี้น่าติดตามอย่างต่อเนื่องและเมื่อผู้กำกับเรื่องได้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ผสมผสานเทคโนโลยีต่างๆเข้าไปไม่ว่าจะเป็น CG (Computer Graphic) หรือเทคนิคอื่นๆยิ่งทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สมจริงราวกับจำลองโลกใบใหม่ขึ้นมาเลยทีเดียว การดำเนินเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการดำเนินเรื่องในโลกใบเดียวแต่ทว่ามีสองภพ หมาความว่าในขณะที่มีโลกที่ทันสมัยแต่ก็ยังคงมีโลกแห่งจินตนาการผสมผสานไปด้วย สังเกตจากตึกรามบ้านช่องที่ดูทันสมัย มีตึกสูงระฟ้าแต่ทว่าการเดินทางของผู้คนกลับใช้เพียงแค่เรือเดินสมุทรและบอลลูนอากาศบนท้องฟ้า โดยทั้งเรื่องปราศจากรถยนต์หรือเครื่องบินโดยสาร ทำให้การชมภาพยนตร์มีความแปลกตามากกว่าเรื่องอื่นๆ การคัดเลือกนักแสดงมารับบทบาทในภาพยนตร์เรื่องนี้นับว่าเหมาะสมตาม character ที่ได้วางไว้ในบทละคร อาทิ นิโค คิดแมน ที่มารับบทตัวร้าย ซึ่งลักษณะของตัวร้ายในเรื่องนี้จะต้องเป็นหญิงที่สวยสง่าและดูฉลาดปราดเปรื่องเป็นที่สุด ซึ่งเธอก็สามารถสวมบทบาทได้อย่างยอดเยี่ยม หรือแม้กระทั่งบทของหนูน้อยไลลา ที่ลักษณะของตัวละครจะต้องเป็นเด็กแก่นแก้ว มีความห้าวหาญไม่ต่างจากเด็กผู้ชายและยังเป็นเด็กที่ฉลาดมีความรู้รอบด้านไม่หวั่นเกรงภัยอันตรายต่างๆ ซึ่งผู้กำกับก็ได้ casting นักแสดงหน้าใหม่และก็ได้นักแสดงเด็กหญิงมากฝีมือมารับบทบาทนี้ได้อย่างลงตัว ด้านสถานที่ที่ใช้ในการดำเนินเรื่องนั้นก็มีความหลากหลายทำให้ไม่น่าเบื่อเพราะไม่ได้จำกัดสถานที่เพียงแห่งเดียว แต่ทว่าในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แนวผจญภัย การดำเนินเรื่องจึงเป็นการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่มหาวิทยาลัย เมืองท่าเรือ หรือแม้กระทั้งขั้วโลกเหนือที่เป็นสถานที่กักกันเด็กโดยพวกปิศาจจับเด็กนำมาขังไว้ในการทดลองภูมิคุ้มกันละอองอวกาศ ดังนั้นในเรื่องสถานที่ในการดำเนินเรื่องจึงมีความตื่นตาตื่นใจตลอดเวลาไม่น่าเบื่อ ในด้านคุณค่าของภาพยนตร์เรื่องนี้นั่น ถึงแม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์ในแนวแฟนตาซีที่แฝงแนวคิดไว้ด้วยคือ เรื่องความรักและความกล้าหาญ เมื่อความรักและความศรัทธาในตัวไลลาที่มีต่อพ่อและเพื่อนรักของเธอที่ถูกจับตัวไป จึงทำให้เธอตัดสินใจเดินทางออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อไปตามหาคนพวกนี้ ความกล้าหาญที่เกิดจากความรักทำให้เธอไม่หวั่นกลัวอุปสรรคในภายภาคหน้าที่เธอจะต้องพบเจอ เธอขอเพียงแค่ได้พบกับพ่อของเธออีกครั้งและช่วยเหลือเด็กๆ ที่เป็นกุลบุตรกุลธิดาของเหล่ายิปซีพันธมิตรของไลลาเอง คุณค่าจากเรื่องก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดพลังในการขับเคลื่อนของตัวละครและทำให้ภาพยนตร์มีเป้าหมายที่แน่ชัดในการดำเนินเรื่องไปจนถึงจุดหมายปลายทาง ภาพยนตร์เรื่อง The Golden Compass จึงเป็นภาพยนตร์ที่น่าติดตามเพราะเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากนวนิยายที่ขายดีอันดับ 1 ของโลกและนำแสดงโดยนักแสดงมากฝีมือหลายคน จากการจัดอันดับรายได้การเข้าฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ในปี 2007 ของสหรัฐอเมริกา ภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ในอันดับ Top 10 ของภาพยนตร์ที่ฉายทั่วโลก(ไม่นับรวมภาพยนตร์ไทยและเอเชีย) และในปี 2008 นี้คาดว่าจะได้ชมภาคต่อของภาพยนตร์ไตรภาคนี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นายสมัชชา อัคพราหมณ์ วิชาเอกการแสดงละครเวทีและภาพยนตร์ กลุ่มสาขาศิลปะการแสดงคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาการแสดงละครเวทีและภาพยนตร์ 2ภาคการศึกษาปลาย ปีการศึกษา 2550ส่งงานอาจารย์เมษา อุทัยรัตน์
ไม่มีความเห็น