ครู .. ผู้ชูชีวิตฉัน


ฉันขอตอบแทนพระคุณด้วยกตัญญูตาคารวะเชื่อฟังมธุรสวาจาที่ครูสอนว่า “แม้มิอาจเลือกเกิดได้ แต่เลือกเป็นคนดีได้”
            วันนี้เป็นวันเด็ก ขอแนะนำข้อเขียนของ ด.ช.ศุภชัย  สมประเสริฐ ชั้น ป.6 โรงเรียนวัดไทร (สินศึกษาลัย) ต.ท่ากระชับ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ที่เขียนถึงครูของเขาอย่างกินใจว่า...
         
ร่างกายที่สมบูรณ์  สมองที่ปราดเปรื่อง ย่อมเป็นยอดปรารถนาของมวลมนุษยชาติ แต่ฉันมีใบหูขวาเพียงข้างเดียว ส่วนหูข้างซ้ายปิดสนิท .. มาตั้งแต่กำเนิด สังคมจึงเรียกฉันว่า คนพิการ และแม้วันเวลาล่วงเลยมาเนิ่นนานถึง 12 ปี ฉันเรียนอยู่ชั้น ป.6 แล้ว แต่ฉันสูงเพียง 125 เซนติเมตร ซึ่งตัวเล็กเท่ากับเด็กชั้น ป.1 เท่านั้น ทั้งฉันยังกำพร้าพ่อที่หายสาบสูญไป ตั้งแต่ฉันยังอยู่ในครรภ์ของแม่ผู้บังเกิดเกล้า           
       
เมื่อเจริญวัยพอจำความได้ เวลาไปไหน ๆ ผู้คนมักเมียงมองใบหูของฉันด้วยสายตาที่ฉันรู้สึกอึดอัด เมื่อเข้าโรงเรียนเพื่อน ๆ มักล้อเลียนฉันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แม้ครูได้ช่วยกันสั่งสอน ทั้งเอาน้ำเย็นเข้าลูบด้วยคำพูดที่นุ่มนวลและใช้ไม้แข็งด้วยวิธีขู่เข็ญ แต่ในยามลับตา เพื่อน ๆ ก็ทำร้ายจิตใจของฉันอยู่เสมอ ฉันต้องกล้ำกลืนฝืนทน บางวันต้องกลับไปร้องไห้กับแม่ ฉันท้อแท้ เหนื่อยหน่าย ไร้พลังที่จะเดินฝ่าพงหนามอันแหลมคม เพื่อไปให้ถึงหนทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ .. แต่แล้วก็เหมือนมีสายฝนอันเย็นฉ่ำมาหล่อเลี้ยงหัวใจอันแห้งแล้งของฉันให้กลับแช่มชื่นอย่างสุดพรรณนา..
           
       
ครูวิจักษณ์  เจริญยศ ครูวิชาพลศึกษา ผู้เมตตา ทุ่มเท เสียสละ ดูแลนักเรียนทุกคนประดุจ
พ่อที่รักลูกได้เห็นแววการเตะฟุตบอลของฉันว่าเหมือน ช้างเผือกน้อยที่อยู่ในป่า จึงฝึกฝนฉันอย่างจริงจังตั้งแต่ฉันเรียนอยู่ชั้น ป.4 พรสวรรค์ผนวกกับพรแสวง ทำให้ฉันเป็นนักฟุตบอลตำแหน่งกองหน้า ที่วิ่งเร็วที่สุด ครูได้พาทีมไปแข่งขันตามสนามประลองชัยต่าง ๆ จนได้รับรางวัลอยู่เป็นนิตย์
         ครูได้ปั้นดินอย่างฉันให้เป็นดาวระยับแสงบนฟากฟ้า ฉันได้รับเลือกให้เป็น
ผู้วิ่งคบเพลิง ในวันเปิดการแข่งขันกีฬาสีปีนี้ ซึ่งนับเป็นเกียรติประวัติอันสูงสุด เพราะผู้ได้รับเลือกต้องมีความประพฤติเรียบร้อย มีผลงานด้านกีฬาดีเด่น
       .. ขณะที่วิ่งคบเพลิง แม้หูของฉันได้ยินเสียงเพียงครึ่งหนึ่งของคนปกติ  แต่ในหัวใจดวงน้อย ๆ ของฉันมันดังกึกก้องและเต้นโครมครามด้วยเสียงปรบมือรอบ ๆ สนาม รวมกับมีคนไปตีกลองสะบัดชัยใบใหญ่อยู่ในนั้น ขณะที่ฉันยืนนิ่ง ยกคบเพลิงขึ้นและจุดลงบนแท่น สายตาที่ฉายแววชื่นชมกว่า 500 คู่ ได้จับจ้องอยู่ที่ฉันเพียงคนเดียว ปมด้อยของฉันมอดมลายไปจนหมดสิ้น หยาดน้ำทิพย์ที่ชโลมใจให้ฉันเกิดความมานะจนพบกับสัมฤทธิผลในครั้งนี้ ก็เพราะจิตวิญญาณของครูผู้เป็นปูชนียบุคคลโดยแท้
ครูเป็นผู้ชูชีวิตฉันให้มีคุณค่า เพื่อน ๆ ไม่ล้อเลียนฉันอีก ซ้ำยังมอบดอกไม้แห่งไมตรี.. เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าฉันเป็น นักกีฬาในดวงใจ
           
        
ครูวิจักษณ์มิเพียงเก่งกาจด้านกีฬาเท่านั้น แต่ครูยังตรงต่อเวลาและหน้าที่ สอนศิษย์ให้มีคุณธรรมนำความรู้  ประสานความร่วมมือกับชุมชนได้เป็นอย่างดี โดยจัดการแข่งขันกีฬาในท้องถิ่น ครูมีร่างกายแข็งแรง กำยำ แต่กิริยามารยาทอ่อนโยน นุ่มนวล เสมือนรวงข้าวที่โค้งปลายรวงห้อยต่ำเพื่อนแสดงว่ารวงนั้นเต็มเมล็ด ยามศิษย์ไม่สบายครูคอยดูแล ป้อนอาหารและยา เงินเดือนเพียง 7,200 บาท สำหรับครูจ้างสอนอย่างครู
ช่างน้อยนิดเหลือเกิน หากเทียบกับคุณค่าอเนกอนันต์ของครู
        ฉันขอตอบแทนพระคุณด้วยกตัญญูตาคารวะ
เชื่อฟังมธุรสวาจาที่ครูสอนว่า แม้มิอาจเลือกเกิดได้ แต่เลือกเป็นคนดีได้ ฉันจะไม่ทำให้ครูผิดหวัง จะสานฝันให้เป็นจริงโดยเดินตามแนวทางที่มีแสงเทียนทองอันรองเรืองที่ครูจุดส่องไว้ให้คือเป็นเด็กดีมีคุณธรรมในวันนี้ เป็นปัญญาชนที่มีคุณภาพในอนาคต และจะพยายามเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงจารึกไว้ในแผ่นดินให้จงได้ในอนาคตแม้ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าฉันจะเอื้อมถึงตำแหน่งนักกีฬาทีมชาติได้หรือไม่ แต่ฉันก็จะพากเพียรเพราะฉันตระหนักดีว่า.. นั่นคือยอดปรารถนาของครู คุณงามความดีของครูจะประทับในดวงใจของฉันชั่วนิรันดร์ 
หมายเลขบันทึก: 158875เขียนเมื่อ 12 มกราคม 2008 11:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท