ทฤษฏีปลาบู่ทอง...เป็นแนวคิดที่ อาจารย์ชลภัลล์ วงษ์ประเสริฐ์ จากมหาวิทยาลัยรังสิต มาบรรยายให้นักศึกษาปริญญาโท KM ของ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ฟังเป็นแนวทางให้นักศึกษา เพื่อจุดประกายความคิดเรื่องเกี่ยวกับ KM
โดยท่านเปรียบ KM เหมือนทฤษฏีปลาบู่ทองว่า ความรู้ไม่มีการหยุดนิ่งมีการเปลี่ยนเป็นสิ่งใหม่ๆ เกิดนวัตกรรมใหม่ๆเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหมือนอย่างนิทาน เรื่องปลาบู่ทอง
เมื่อปลาบู่ทองตาย ส่วนของเกล็ดปลาก็ยังกลายเป็นต้นมะเขือ (เกิดการพัฒนากลายเป็น Innovation ใหม่ๆ) เมื่อต้นมะเขือตาย...ก็ยังกลายมาเป็นต้นโพธิ์เงินต้นโพธิ์ทอง....เมื่อต้นโพธิ์เงินต้นโพธิ์ทองตาย...ก็ยังกลายไปเกิดเป็นคน ได้เป็นมเหสีของกษัตย์ ....ซึ่งเปรียบว่า..กาลเวลาไม่ได้ทำให้ความรู้สูญหายไป เพียงแต่เปลี่ยนสถานะเป็นชนิดใหม่เท่านั้นเองโดยเพิ่มมูลค่าในตัวเอง
เปรียบเหมือน KM ที่ความรู้เปลี่ยนไปสู่ .. Innovation …และสิ่งใหม่ๆอีกมากมายอาจจะมีชื่อเรียกต่างไปจากเดิม การพัฒนาที่เกิดขึ้นในแต่ละยุคแต่ละสมัย มันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปไม่หยุดอยู่กับที่ มีการพัฒนาจนคำว่า KM อาจจะถูกกลืนจนกลายเป็นสิ่งใหม่ ที่มีชื่อเรียกที่ต่างออกไป
ดังนั้นจึงเกิดคำถามว่าชื่อ KM นี้จะอยู่ได้อีกกี่ปี ? ผู้เขียนเคยสำรวจความเห็นนี้จากเพื่อนๆที่เรียนปริญญาโทด้วยกัน มีความเห็นว่าอีก 5 ปี คำว่า KM อาจจะหายไปหรือเนียนไปกับเนื้องานประจำไปแล้ว อาจจะเกิดคำใหม่ขึ้นมาแทน แต่เนื้อหานั่นก็คือ KM นั่นเอง
แล้วคุณล่ะ? ...คิดว่าชื่อใหม่นั้นจะกลายเป็นชื่ออะไร ? .....จะเหลือคำว่า KM ….ให้คิดถึงอีกหรือเปล่า ?......ลองช่วยกันคิดดูเล่นๆ....
ไม่มีความเห็น