ก้าวเล็กๆ สู่หนทางแห่งความสุขอันแท้จริง


  ในแต่ละวัน เราก้าวเดินอย่างเร่งรีบ  มุ่งสู่ถนนใหญ่ของชีวิต  พบปะผู้คนมากหน้าหลายตา  เรารีบทำสิ่งต่างๆ อยู่เสมอ เพราะมักถูกสอนว่าเวลาเป็นสิ่งมีค่า  เราต้องทำหลายๆ สิ่งในเวลาเดียวกัน  เราโทรศัพท์ถึงเพื่อนขณะที่มือหนึ่งกำลังตักข้าวเข้าปาก  เราคุยกับคนที่มาติดต่อเรา ขณะที่ใจกำลังคิดถึงมื้อกลางวัน  เรานั่งกินข้าวในขณะเดียวกัน เราก็ดูข่าวทางทีวีไปด้วย  เราเดินจนเกือบวิ่งจากที่แห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่ง เรารีบอยู่ตลอดเวลา  เราหงุดหงิดที่ทำบางอย่างได้ไม่มากพอ  เวลายี่สิบสี่ชั่วโมงในหนึ่งวันดูเหมือนจะน้อยเกินไปสำหรับเรา  เรานอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย  และตื่นเช้าขึ้นมาทำอะไรเหมือนๆ เดิมกับชีวิต   มีสุข มีทุกข์สลับกันไปในแต่ละวัน  อารมณ์ขึ้นๆลงๆ  บางทีก็ดีใจจนออกนอกหน้าเวลาทำงานแล้วได้รับคำชื่นชม   บางทีก็เป็นทุกข์เพราะสิ่งที่ทำมันออกมาไม่ดี  แถมโดนด่าจากคนรอบข้าง  แถมคิดในใจว่า  ทำดีทำไมไม่ได้ดี  โลกนี้ช่างไม่มีความยุติธรรมเอาเสียเลย  เราเป็นทุกข์ใจกับสิ่งเหล่านี้ จะเป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะมีความสุขตลอดเวลาและ ตลอดไปโดยไม่มีความทุกข์ความผิดหวัง

  วันหนึ่งข้าพเจ้าตื่นขึ้นมา  พร้อมกับถามตัวเองว่า  ที่ทำทั้งหมดนี้ในชีวิต  ทำเพื่ออะไร   ที่เราทั้งหลายวิ่งวุ่นกันอยู่นี้  ก็เพื่อที่จะมีความสุขในชีวิตอย่างนั้นหรือ แต่ทำไมความสุขมันจึงยังไม่มาถึงเสียทีล่ะ   เมื่อไหร่กันที่เราจะมีความสุขอย่างแท้จริง โดยไม่ต้องวิ่งวุ่นอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ 

 เมื่อไม่นานมานี้ ข้าพเจ้าได้พบหนทางที่จะก้าวเดินต่อไปในชีวิตอันวุ่นวายนี้  จากคำชี้แนะของกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง  ข้าพเจ้าใช้เวลาคิดถึงสามปี ในการพิจารณาลองหาเส้นทางอื่นๆ  ที่ข้าพเจ้าอาจจะคุ้นเคยกว่า และรู้สึกเป็นธรรมดากว่า  แต่จนแล้วจนรอด ไม่มีเส้นทางใดจะตอบปัญหา และข้อสงสัยในการใช้ชีวิตของข้าพเจ้าได้   แม้แต่คำอธิบายในทางวิทยาศาสตร์ ที่ว่าด้วยการกำเนิดของโลกและจักรวาล  การกำเนิดของสรรพชีวิต ทฤษฎีวิวัฒนาการ   เรื่องราวว่าด้วยเรื่องการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์  การมีมนุษย์บนโลก  สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้เพิ่มพูนความรู้ในการใช้ชีวิตของข้าพเจ้าแม้แต่น้อย   ความรู้ในทางวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถตอบคำถามที่ข้าพเจ้าสงสัยในการเกิดมามีชีวิตและการวิ่งวุ่นของมนุษย์ได้   มีใครบางคนบอกว่า พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ล่วงรู้ทุกอย่าง เพราะพระองค์ได้ตรัสรู้ความจริงอันยิ่งใหญ่  และกัลยาณมิตรของข้าพเจ้าท่านหนึ่งก็ได้บอกไว้เมื่อสามปีที่แล้วว่า จงไปศึกษาวิชาของพระพุทธเจ้า   ข้าพเจ้าจึงเริ่มก้าวเดินไปตามเส้นทางนั้น  เส้นทางที่จะเดินไปสู่โรงเรียนที่จะสอนให้เข้าใจคุณค่าความหมายแห่งชีวิต และการใช้ชีวิต   มาจนปัจจุบันนี้ข้าพเจ้าก็ได้ก้าวเดินมาตามเส้นทางนั้นมาหลายก้าวแล้ว  แม้จะเป็นเพียงก้าวเล็กๆ แต่เป็นก้าวย่างที่เข้าสู่หนทางแห่งความสุขอันแท้จริง 

 

 

  

คำสำคัญ (Tags): #meditation
หมายเลขบันทึก: 158053เขียนเมื่อ 8 มกราคม 2008 09:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:41 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

พี่ดีใจด้วยกับการก้วาเดินก้าวเล็กๆสู่หนทาง..........ของหมอยา และขออนุโมทนาในการตัดสินใจ.....ครั้งนั้น รวมทั้งขออนุโมทนากับหมอนิดด้วย......

สำหรับพี่แล้ว หมอยาเขียนเรื่องได้เจ๋งมากเก็บรวบรวมไว้ทำพ็อคเก็ตบุคดีมั้ย

อีกอย่างรูปภาพประข้อความก็ดูแล้วเจริญตา จรรโลงใจได้ดีเยี่ยม

เจ๋งจริงๆนะ

ขอบคุณพี่เตือนที่ให้กำลังใจค่ะ

อยากแบ่งปันสิ่งที่ได้จากการปฎิบัติ

 และก็หวังใจว่าจะได้รับคำชื้แนะดีๆ

จากกัลยาณมิตรด้วยเช่นกัน 

 

          ยินดีต้อนรับสู่ทางสายนี้จ้า แล้วพี่เตือนหละคะ ลองเข้ามาเรียนวิชาของพระพุทธเจ้าหรือยัง

          รูปประกอบของพี่ สวยเย็นตากะเย็นใจดีจัง

          ดีใจมากๆเลยที่พี่เปิดบลอก นิดขอเอาไปเข้า แพลนเน็ตเน่อ

สวัสดีค่ะ หมอนิด

พี่อยู่บนเส้นทางสายนี้มานานแล้วล่ะ แต่ไม่กล้าแนะนำใคร เมื่อรู้ว่ามีใครเข้ามาในทางสายสายนี้พี่จะปลื้มปิตมากๆ เพราะพี่รู้ว่าใครก็ตามที่เข้ามานั้น จะได้เจอกับสิ่งที่หมอยา และหมอนิดได้เจอ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท